น้ำมันมหาจักร รักษาแผลเรื้อรังและแผลกดทับในผู้ป่วยติดเตียง

น้ำมันมหาจักร รักษาแผลเรื้อรังและแผลกดทับในผู้ป่วยติดเตียง

 

ออกพรรษาแล้ว แต่ทั้งฝนและพายุก็ยังโหมมาไม่หยุดหย่อน คงจำกันได้ว่าบางปีมีฝนตกน้ำท่วมไปถึงปลายปี จึงประมาทไม่ได้ ช่วงน้ำท่วมอาจทำให้ผู้ประสบภัยเป็นโรคน้ำกัดเท้า ผิวหนังเปื่อยคัน หรืออาจโชคร้ายประสบอุบัติเหตุมีบาดแผล ถูกเสี้ยนตำ ตะปูตำ เป็นต้น

หมอไทยสมัยโบราณมียาดีแก้ผิวหนังเปื่อยคัน และรักษาบาดแผลตั้งแต่ถูกหนามตำไปจนถึงถูกหอกดาบฟันแทง

ยาดีที่ว่านี้คือ “น้ำมันมหาจักร” เป็นยาตำรับลำดับที่ 78 ในตำราพระโอสถพระนารายณ์ ซึ่งหมอหลวงปรุงใช้ในราชสำนักมาไม่น้อยกว่า 360 ปี

ในปัจจุบันแพทย์แผนไทยยังนิยมปรุงยาตำรับนี้สำหรับใช้ภายนอกและเฉพาะที่เพราะเป็นยาที่ปรุงง่าย ใช้เครื่องยาน้อยสิ่ง และหาซื้อได้ง่ายจากตลาดสดแถวบ้านและร้านขายยาไทยทั่วไป

เครื่องยาประกอบด้วยสมุนไพร 9 อย่าง คือ 1) น้ำมันงา 600 มิลลิลิตร 2) มะกรูดสด 30 ลูก 3) เทียนทั้ง 5 คือ เทียนขาว เทียนดำ เทียนแดง เทียนข้าวเปลือก และเทียนตาตั๊กแตน หนักสิ่งละ 7.5 กรัม 4) ดีปลี หนัก 15 กรัม 5) การบูร หนัก 30 กรัม

วิธีปรุงยาแบบดั้งเดิม

1) มะกรูดสด เฉือนเอาแต่ผิวเท่านั้น

2) เอาน้ำมันงาตั้งไฟให้พอร้อน ใส่ผิวมะกรูดลงทอดจนเหลืองเกรียม อย่าให้ไหม้ ปลงน้ำมันลง กรองเอากากออก ทิ้งไว้ให้เย็น

3) แยกบดเทียนทั้ง 5 ดีปลี และ การบูรให้เป็นผงละเอียด

4) นำผงสมุนไพรจากข้อ 3 ใส่ลงในน้ำมันที่ได้ตามข้อ 2 ไม่ต้องกรองผงสมุนไพรออก

5) เก็บน้ำมันที่ได้ไว้ใช้เป็นยาต่อไป

สรรพคุณ ยาน้ำมันมหาจักร เป็นยารักษาภายนอกมีสรรพคุณ 5 ประการ คือ (1) ชุบสำลียอนหูหรือหยอดหูแก้อาการอักเสบ แก้ลมอื้อในช่องหู (2) แก้ผิวหนังเปื่อยคัน (3) รักษาริดสีดวง (4) ทาถูนวดแก้เมื่อยขบ (5) ใช้สูดดมแก้ลมวิงเวียนและผ่อนคลายความเครียด (6) ใส่บาดแผลที่มีอาการปวด อันเกิดจากเสี้ยนตำ หนามตำ หรือถูกแทงฟันจากอาวุธ เช่น หอกดาบ เป็นต้น

แน่นอนองค์ประกอบหลักของยาน้ำมันตำรับนี้ คือ น้ำมันงา กับ ผิวมะกรูด ในการแพทย์อายุรเวทของอินเดีย

น้ำมันงาถือว่าเป็นน้ำมันจากพืชที่ดีที่สุด ลำพังน้ำมันงาอย่างเดียวก็สามารถใช้ทาหรือนวด เพื่อรักษาอาการปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ ปวดข้อ ปวดกระดูก บำรุงผิวพรรณทำให้ชุ่มชื่น นุ่มนวล สลายคราบ ลบรอยย่น ต้านรังสี UV เพียงนวดเบาๆ

สารสำคัญ ซีซามอล (sesamal) ในน้ำมันงาซึ่งคล้ายกับน้ำมันบนผิวหนังมนุษย์มากที่สุด จึงสามารถซึมผ่านเนื้อเยื่อผิวหนังและกล้ามเนื้อได้อย่างเร็ว และซึมได้ลึก ผิวจึงไม่เหนอะหนะ น้ำมันงามีคุณสมบัติบำรุงผิวพรรณให้เนียนใส นุ่มนวล อ่อนเยาว์ ชะลอความเหี่ยวย่น ยิ่งกว่านั้น ยังมีคุณสมบัติต้านเชื้อแบคทีเรีย เชื้อรา เชื้อไวรัส ต้านมะเร็ง ต้านการอักเสบ และต้านการลุกลามของผิวหนังผื่นคัน แผลเน่าเปื่อย

ส่วนผิวมะกรูดนั้นมีสารสำคัญ ลิโมนีน (limonene) ซึ่งมีฤทธิ์ต้านการอักเสบ ช่วยขับลมกองละเอียดไหลเวียนได้ดีมีผลทำให้กล้ามเนื้อผ่อนคลายหายเกร็ง ส่วนสารสำคัญในดีปลีและเทียนทั้ง 5 ช่วยเสริมฤทธิ์ต้านการอักเสบ แก้ปวดกล้ามเนื้อ แก้เส้นอัมพฤกษ์

ความรู้ด้านพฤกษเคมีสมัยใหม่จึงเป็นข้อพิสูจน์ยืนยันองค์ความรู้เภสัชแผนโบราณได้เป็นอย่างดี

ด้วยเหตุนี้ กระทรวงสาธารณสุขจึงประกาศให้ยาน้ำมันมหาจักร สรรพคุณ รักษาแผลเรื้อรัง แผลเปื่อย เป็นเภสัชตํารับโรงพยาบาลจากสมุนไพรในบัญชียาหลักแห่งชาติด้านสมุนไพร

 

ยาน้ำมันตำรับนี้มีผลศึกษาของโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.) ที่ จ.นครพนม ด้วยการใช้กับคนไข้ที่มีแผลเรื้อรัง มีการติดตามผลการใช้ยาด้วยการถ่ายภาพแผลไว้ตั้งแต่ก่อนใช้ และหลังใช้ 3 วัน 1 สัปดาห์ 1 เดือน และ 3 เดือน ปรากฏว่าแผลของคนไข้เริ่มดีขึ้นและหายสนิท

จึงสรุปได้ว่ายาน้ำมันมหาจักรมีศักยภาพในการพัฒนารูปแบบเพื่อการใช้ในโรงพยาบาลรัฐอย่างกว้างขวาง โดยเฉพาะใช้สำหรับรักษาแผลเรื้อรัง แผลกดทับ ซึ่งปัจจุบันพบมากในผู้ป่วยติดเตียงและผู้สูงอายุ

ตำรับยาน้ำมันที่สืบทอดมาจากราชสำนักพระนารายณ์มหาราช มีสรรพคุณดีเป็นที่ประจักษ์ขนาดนี้ ทางองค์การเภสัชกรรมควรเร่งพัฒนาสูตรตำรับไว้ใช้รักษาแผลกดทับในผู้สูงอายุซึ่งนับวันจะมีจำนวนมากขึ้นทุกที

แต่ระหว่างนี้แพทย์แผนไทยและชาวบ้านทั่วไปควรผลิตขึ้นใช้เองเป็นยาประจำครัวเรือน สามารถพึ่งพาตนเอง เพื่อรับมือกับความเจ็บป่วยและอุบัติเหตุอันไม่คาดฝันในชีวิตประจำวัน •

 

สมุนไพรเพื่อสุขภาพ | โครงการสมุนไพรเพื่อการพึ่งพาตนเอง

มูลนิธิสุขภาพไทย www.thaihof.org