‘ธนาธร’ พิเคราะห์ ‘การเมืองไทย’ จากทศวรรษนี้ สู่ทศวรรษหน้า

ตลอดหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา ทีมข่าวการเมือง มติชนทีวี ตระเวนสัมภาษณ์บุคคลในแวดวงการเมืองหลายราย เนื่องในวาระครบรอบ 10 ปี มติชนทีวี โดยขอให้คนเหล่านั้นวิเคราะห์สภาพการเมืองไทยตลอดหนึ่งทศวรรษที่ผ่านมา รวมถึงอนาคตในอีก 10 ปีข้างหน้า ที่พวกเขาคาดหวังจะได้เห็น

หนึ่งในบุคคลที่เรานัดพูดคุยด้วย ก็คือ “ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ” อดีตหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ และประธานคณะก้าวหน้า

บทสนทนาบางส่วนระหว่างทีมข่าวการเมือง มติชนทีวี กับธนาธร มีเนื้อหาดังต่อไปนี้

: ตลอด 10 ปีที่ผ่านมาเราวนเวียนอยู่กับการรัฐประหาร

มันชัดเจนมากว่าหนึ่งในสิ่งที่ต้องทำ ถ้าจะพาสังคมไทยไปข้างหน้าก็คือ “การปฏิรูปกองทัพ” ปฏิเสธไม่ได้เลย ผมคิดว่าเป็นภารกิจของรัฐบาลชุดหน้า รัฐบาล 2566-2570 ต้องทำเรื่องนี้ หลีกเลี่ยงไม่ได้

ปฏิรูปกองทัพมีอะไรบ้าง หนึ่งอย่างที่จำเป็นมากก็คือยกเลิก “กองทัพพาณิชย์” ทั้งหมด กิจการการพาณิชย์ที่อยู่ในมือของกองทัพทั้งหมดต้องยกเลิก ยกตัวอย่าง ช่อง 5 ต้องยกเลิก กองทัพต้องไม่ยุ่งกับช่อง 5 สนามกอล์ฟ สนามม้า สนามมวย หวย เอากองทัพออกไปให้หมดจากการพาณิชย์

ทำให้ภารกิจของกองทัพ (เหลือ) น้อยที่สุด ก็คือภารกิจของการปกป้องประเทศ ทำให้กองทัพทันสมัย มีเทคโนโลยีการสงครามที่ก้าวหน้า และไม่ต้องมายุ่งกับการเมือง ยกเลิกการเกณฑ์ทหารแบบบังคับ ให้ทหารที่ต้องออกไปรบเป็นทหารมืออาชีพมาจากการสมัครใจ ไม่ต้องเกณฑ์เป็นปีๆ ไป

ผมว่านี่เป็นข้อเสนอการปฏิรูปกองทัพที่สมเหตุผลมาก และทุกประเทศที่เป็นประชาธิปไตยสมัยใหม่ก็ทำแบบนี้ทั้งนั้น คำถามคือทำไมกองทัพมีสนามกอล์ฟ โรงแรม อะไรเต็มไปหมด? ที่สำคัญก็คือเงินพวกนี้ตรวจสอบไม่ได้ แม้แต่ครั้งหนึ่งที่ผมเป็นกรรมาธิการงบประมาณ ก็ตรวจสอบงบฯ พวกนี้ไม่ได้

มองไม่เห็นว่าเงินจาก “กองทัพพาณิชย์” ทั้งหมดไปอยู่ที่ไหน? เข้ากระเป๋าใครบ้าง? มองไม่เห็นนะครับ

: แต่นโยบายต่างๆ ที่คุณและกลุ่มการเมืองที่เป็นอดีตพรรคอนาคตใหม่เสนอ อาจนำไปสู่การรัฐประหารอีกครั้ง

ในฐานะที่เคยเป็นหัวหน้าพรรค หน้าที่ของพรรคการเมืองที่สำคัญมากก็คือการพูดความจริงกับสังคม เราจะตั้งพรรคการเมืองไปทำไม? ถ้าเราไม่มีสังคมที่เราปรารถนาอยากเห็น และเราอยากจะขับเคลื่อนสังคมไปทางนั้น

เหตุผลที่มีพรรคการเมืองก็คือแต่ละคนมีสังคมปลายทางที่อยากเห็นแตกต่างกัน แล้วเราเอาวิสัยทัศน์ของสังคมไทยที่เราอยากสร้างมาประชันกันให้ประชาชนเลือก ผมอยากสร้างสังคมแบบนี้ คุณอยากสร้างสังคมแบบนั้น พรรคนู้นอยากพาประเทศไทยไปทางนี้ เอามาบอกกันว่านี่คือประเทศไทยแบบที่เราอยากเห็น นี่คือทิศทางที่เราจะพาประเทศไทยไป แล้วให้ประชาชนตัดสิน

ผมวางวิสัยทัศน์ให้ประชาชนตัดสินว่านี่คือวิสัยทัศน์ของประเทศไทยที่ผมอยากเห็น ที่ผมอยากจะพาสังคมไทยไป ประชาชนก็ตัดสิน ได้รับการตอบรับอย่างดี คะแนนเสียง 6.3 ล้านคะแนนที่มาจากประชาชน ก็ต้องขอขอบคุณมาก

แต่แน่นอน กลับไปการที่จะสร้างสังคมแบบนั้น มันต้องจัดสรรอำนาจกันใหม่ ดุลอำนาจในสังคมต้องมีการจัดการใหม่ มันต้องมีการจัดสรรทรัพยากรใหม่ มันหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่คนกลุ่มน้อยที่เป็นอภิสิทธิ์ชนในสังคมไทยจะเสียประโยชน์

แต่ก็ต้องพูดกับเขาตรงๆ ว่าประเทศไทยเป็นอย่างนี้ เดินหน้าอย่างนี้ต่อไป เราไม่สามารถสร้างความมั่นคงในชีวิต ไม่สามารถสร้างประเทศไทยที่เจริญก้าวหน้าทัดเทียมกับนานาอารยประเทศได้ ก็ต้องพูดกันตรงๆ

: 10 ปีที่ผ่านมา ภาพการเคลื่อนไหวต่อสู้ของเยาวชนเป็นอย่างไร?

สิ่งที่ยิ่งใหญ่ที่สุด สิ่งที่ทรงพลังมากที่สุดของการเคลื่อนไหวภาคประชาชน อย่าว่าแต่ (ในรอบ) 10 ปีเลย ผมว่า (ในรอบ) 20 ปี 30 ปีด้วยซ้ำไป น่าจะเกิดขึ้นในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา

นั่นก็คือการทำให้ข้อเรียกร้องการปฏิรูปสถาบันเป็นสาธารณะ ก่อนหน้านี้ ไม่มีใครพูดเรื่องนี้อย่างเป็นระบบมาก่อน สิ่งที่เกิดขึ้นในรอบ 2 ปีที่ผ่านมา ผมเชื่อว่าคนตระหนักถึงความสำคัญและความจำเป็นของการปฏิรูปสถาบันเยอะขึ้นมาก

ต้องบอกว่านี่เป็นคุณูปการของพวกเขา ของคนหนุ่มสาว

: แม้ว่าคนหนุ่มสาวที่ออกมาพูดจะถูกจับกุม? คิดว่ากระแสนี้จะเดินหน้าต่อไปได้ไหม?

คุณหยุดสายลม

ของยุคสมัยไม่ได้หรอก

 

: มองอนาคตในอีก 10 ปีข้างหน้า คุณเห็นอะไร?

ผมอยากเห็นรัฐบาลและสภาผู้แทนราษฎรชุด 2566-2570 พาประเทศไทยกลับมาเดินในทิศทางที่ควรจะเป็น อันนี้ 2566-2570 จัดสรรงบประมาณใหม่ ให้งบประมาณมันสร้างความมั่นคงในชีวิตให้กับประชาชนมากขึ้น

ผมอยากเห็นการปฏิรูปกองทัพอย่างจริงจัง ผมอยากเห็นการกระจายอำนาจอย่างจริงจัง ซึ่งมีความเป็นไปได้ใน 2566-2570 ขึ้นอยู่กับการเลือกตั้งของประชาชน ขึ้นอยู่กับการออกไปใช้สิทธิ์ใช้เสียง การตัดสินใจของประชาชนในวันที่ช้าที่สุด (คือ) 7 พฤษภาคม 2566

ไกลกว่านั้น ผมอยากเห็นการสร้างอุตสาหกรรมที่ประเทศไทยเป็นเจ้าของเทคโนโลยีของตัวเองได้ ประเทศไทยที่แข่งขันกับโลกาภิวัตน์ได้อย่างสง่าผ่าเผย ผมอยากเห็นประเทศไทยเป็นประเทศที่ร่ำรวย จะเป็นอย่างอื่นไม่ได้ จะเป็นประเทศที่ร่ำรวย เป็นได้อย่างเดียวการสร้างประเทศจากวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรม

ผมอยากเห็นเราสร้างประเทศ สร้างงาน และเป็นประเทศที่ร่ำรวย จากการให้ความสำคัญและลงทุนอย่างเพียงพอในเรื่องนี้

(สำหรับ) ตัวเองเหรอครับ ผมก็พูดอย่างเดิม ถ้าอีก 10 ปี ประเทศไทยยังไม่เป็นประชาธิปไตยและยังไม่มีผู้นำทางการเมืองที่สามารถทำในสิ่งที่ผมทำได้ ผมพร้อมจะกลับมาทำงานการเมือง แต่ถ้าถึงวันนั้นแล้ว เรามีผู้นำทางการเมืองฝ่ายประชาธิปไตยที่แน่วแน่ในหลักการ และพร้อมพาประเทศไทยไปข้างหน้า ผมก็คงหมดความจำเป็นทางการเมือง

ถ้าถึงวันนั้น ประเทศไทยมัน “เสร็จ” แล้ว ใช้คำนี้ดีกว่า “เดินในทิศทางที่ถูกต้อง” อย่างที่ผมบอก มีคนเก่งเยอะแยะไปหมดในประเทศนี้ ผมไม่มีความจำเป็น (ต้องกลับมาทำงานการเมือง) หรอก กลับไปอ่านหนังสือ วิ่งเทรล ปีนเขาต่อ