คณะทหารหนุ่ม (9) | ดีเดย์ 26 มีนาคม ใครเป็นใครใน บก.ปฏิวัติ

พล.อ.บัญชร ชวาลศิลป์

พล.อ.บุญเลิศ แก้วประสิทธิ์ เล่าต่อไปว่า

“เมื่อเข้าไปถึงสวนรื่นฤดีแล้ว กำลังที่อยู่ข้างในภายใต้การควบคุมของ ร.อ.ณัฐวุฒิ ศรีวัชรกุล (ยศในขณะนั้น) จะเปิดทางให้เข้าไปได้อย่างสะดวก เพราะได้นัดหมายกันเอาไว้แล้ว

ร.อ.ณัฐวุฒิผู้นี้เพิ่งย้ายมาจากพลร่มที่ลพบุรีเมื่อเดือนสิงหาคม พ.ศ.2519 นี้เอง โดยมารับตำแหน่ง ฝอ.3 ที่ มทบ.1 เดี๋ยวนี้คือ มทบ.11 กองพันของเขามีหน้าที่มาเข้าเวรดูแลความเรียบร้อยในสวนรื่นฤดี นายทหารรับผิดชอบจะหมุนเวียนกันระหว่าง ผบ.พัน รอง ผบ.พัน และ ฝอ.3 คนละ 1 เดือน ช่วงเดือนมีนาคม พ.ศ.2520 เป็นรอบของ ร.อ.ณัฐวุฒิมารับผิดชอบเข้าเวรที่สวนรื่นพอดี และเขาได้รับการนัดหมายจาก พ.ต.อัศวิน หิรัญศิริ ก่อนหน้าการก่อการไม่กี่ชั่วโมงเท่านั้นเอง

นายทหารหนุ่มๆ สมัยนั้นชื่นชอบ พล.อ.ฉลาด หิรัญศิริ ในด้านที่จะพัฒนาให้กองทัพบกเจริญก้าวหน้าเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ประกอบเข้ากับ พ.ต.อัศวิน ลูกชาย พล.อ.ฉลาด ก็เป็นเพื่อนเขาอีก ร.อ.ณัฐวุฒิจึงตัดสินใจเข้าร่วมทันทีแม้ได้รับแจ้งในเวลากะทันหัน

ส่วน พ.ต.อัศวิน หิรัญศิริ เมื่อได้รับมอบหมายจากผู้เป็นพ่อให้นำกำลังเข้ายึดสวนรื่นฤดี เขาก็เตรียมกำลังจาก ร.1 รอ. จำนวน 1 กองร้อย ภายหลังประสานงานเข้าไปให้ ร.อ.ณัฐวุฒิที่อยู่ภายในสวนรื่นฤดีทราบเป็นที่เรียบร้อยดี แล้วเขาก็สั่งกำลังเตรียมพร้อม

4 นาฬิกาของเช้ามืดวันที่ 26 มีนาคม พ.ศ.2520 กำลังหนึ่งกองร้อยจาก ร.1 รอ. ก็เคลื่อนเข้าไปในสวนรื่นฤดี พ.ต.อัศวินวิทยุรายงานว่า ได้เปลี่ยนให้สวนรื่นฤดีกลายเป็นกองบัญชาการคณะปฏิวัติเรียบร้อยแล้ว เป็นเวลาเดียวกับกำลังของ พ.ต.บุญเลิศ แก้วประสิทธิ์ กับ พ.ต.วิศิษฐ์ คงประดิษฐ์ ที่มาจากกาญจนบุรีเดินทางมาถึงพอดี

แม้เราจะเริ่มต้นด้วยดีโดยกำลังที่มาจากกาญจนบุรีเข้ามายังที่ตั้งตามนัดหมายได้แล้ว แต่สิ่งที่ผมหวั่นใจอยู่ลึกๆ ก็เกิดขึ้น นั่นคือกำลังในกรุงเทพฯ ที่รับปากว่าจะออกมาตามนัด กลับไม่มีการเคลื่อนไหว

เวลาผ่านไปแต่ละนาทีมีค่ายิ่ง เราตัดสินใจใช้กำลังของ พ.ต.บุญเลิศ และ พ.ต.วิศิษฐ์ เข้าไปยึดสนามเสือป่าอันเป็นที่ตั้งกองบัญชาการทหารสูงสุด ยึดกรมประชาสัมพันธ์ และวางกำลังไว้ในจุดสำคัญๆ ที่เป็นทางเข้าออก

ปัญหาที่คาดไม่ถึงก็เกิดขึ้น เพราะกำลังจากกาญจนบุรีไม่รู้เรื่องถนนหนทาง แม้จะได้รับการช่วยเหลือจากหน่วยของ ร.อ.ณัฐวุฒิเป็นอย่างมากแล้วก็ตาม ผมยังขำไม่หายจนทุกวันนี้ มีกำลังส่วนหนึ่งได้รับคำสั่งให้ไปยึดกรมประชาสัมพันธ์ ดันไปยึดโลลิต้า (ไนต์คลับริมถนนราชดำเนิน ใกล้กรมประชาสัมพันธ์)”

 

พล.อ.ประเสริฐ ธรรมศิริ
พล.ต.อรุณ ทวาทศิน

ทางด้าน ร.อ.ณัฐวุฒิ ศรีวัชรกุล หรือ พล.ต.ณัฐชัย เพิ่มทรัพย์ ในปัจจุบันให้รายละเอียดลึกลงไปอีกว่า…

“เมื่อกำลังจากเมืองกาญจน์ของ พ.ต.บุญเลิศ แก้วประสิทธิ์ และ พ.ต.วิศิษฐ์ คงประดิษฐ์ เข้ามาถึงสวนรื่นฯ ตอน 04.00 น.พอดีก็เข้ายึดทันที ผมก็เปิดไฟเขียวให้ตั้งแต่ พ.ต.อัศวิน หิรัญศิริ เข้ายึดก่อนหน้านี้แล้ว ตอนนั้นเราทำการยึดพื้นที่สำคัญๆ หลายแห่งตามแผนยุทธศาสตร์ที่ พล.อ.ฉลาด หิรัญศิริ ได้มอบหมายให้แต่ละคนกระทำการ

พอใกล้สว่างผมก็เป็นคนไปเชิญ พล.อ.ประเสริฐ ธรรมศิริ ให้เข้ามาที่สวนรื่นฯ ตอนนั้นท่านดำรงตำแหน่งผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารบก เวลานั้นใครไปใครมาผมรู้และเห็นหมด ไม่ว่าจะเป็นนายทหารชั้นผู้ใหญ่ อาจารย์สอนหนังสือมหาวิทยาลัย หรือแม้แต่ พล.ต.อรุณ ทวาทศิน ผบ.พล.1 รอ. ก็ขับรถเข้ามาตอนเช้ามืด

ตอนนั้นมีคำสั่งเพิ่มเข้ามาซึ่งไม่มีในแผน คือให้จัดกำลังเข้าไปยึดสถานีโทรทัศน์สีช่อง 9 ผมก็ไปจัดการให้

พอเช้าขึ้น พล.อ.ฉลาด หิรัญศิริ สึกจากพระออกมา ก็เข้ามายังกองบัญชาการปฏิวัติโดยเข้าทางตึกหลัง ผมออกมารักษาการณ์อยู่ที่ประตูหน้า เพราะได้รับมอบหมายหน้าที่ให้ทำอย่างนั้น ระหว่างนั้นทุกนาทีผ่านไปด้วยความระทึกใจ ผมได้แต่บอกกับตัวเองว่า ตอนนี้เราร่วมกับ พล.อ.ฉลาด หิรัญศิริ 100 เปอร์เซนต์เข้าไปแล้วนะ”

 

ใครเป็นใครใน บก.ปฏิวัติ

พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ บันทึกข้อมูลสำคัญในกองบัญชาการคณะปฏิวัติ สวนรื่นฤดี ว่า…

“เวลานั้นเห็นนายทหารระดับอาวุโสของกองทัพบกที่มีชื่อเสียงมากหน้าหลายตาที่นั่งกันอยู่ก่อนแล้ว ไม่ว่าจะเป็น พล.อ.ประเสริฐ ธรรมศิริ ผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารบก ท่าน พล.อ.มานะ รัตนโกเศส ตอนนั้นมียศเป็นพลตรี แล้วก็มี พล.ต.อรุณ ทวาทศิน ขณะนั้นท่านดำรงตำแหน่งผู้บัญชาการกองพลที่ 1 รักษาพระองค์ ยังมีนายทหาร ตำรวจอีกมากที่อยู่ในระดับคุมกำลังทั้งสิ้นซึ่งนั่งกันอยู่ที่โต๊ะประชุมยาว

ผมคิดเอาว่าทุกท่านที่นั่งกันอยู่ในที่และเวลานั้นต้องทราบเรื่องราวหรือได้รับการติดต่อจาก พล.อ.ฉลาด หิรัญศิริ แล้วทั้งนั้น ไม่เช่นนั้นคงไม่มานั่งกันอยู่อย่างนั้นแน่ๆ

นอกจากนายทหารชั้นผู้ใหญ่ที่อยู่กันในห้องบัญชาการแล้ว บรรยากาศภายในห้องนอกห้องก็คึกคัก เพราะมีทั้งนายตำรวจ ข้าราชการพลเรือน ทั้งอาจารย์ นักวิชาการจากมหาวิทยาลัยของรัฐและเอกชนรวมไปถึงคอลัมนิสต์และนักหนังสือพิมพ์มีชื่อเสียงหลายคน เท่าที่พอรู้จักและเห็นหน้ากันตอนนั้นก็มี คุณพิชัย วาศนาส่ง คุณรักศักดิ์ วัฒนพานิช อดีตอธิบดีกรมประชาสัมพันธ์ คุณสมบูรณ์ ทรัพย์พอกพูน คุณศิระ ดีระพัฒน์ คุณสมชาย ฤกษ์ดี พ.ต.อ.อรรณพ พุกประยูร พ.ต.ท.มาโนช จารักษ์ คุณวีระ มุสิกพงศ์ และอีกหลายท่านที่กำลังทยอยเข้ามาในสวนรื่นฯ

ผมรู้สึกอุ่นใจมากเพราะมองดูแล้ว ถ้าเป็นนายทหารหรือนายตำรวจก็มีแต่ระดับคุมกำลังในกรุงเทพฯ ทั้งนั้น การปฏิวัติครั้งนี้คงไม่มีปัญหาอย่างแน่นอน ผมคิดของผมอย่างนั้นจริงๆ

ภาพนายทหารที่นั่งกันอยู่ในห้องบัญชาการคณะปฏิวัติซึ่งพูดคุยกันอย่างสนุกสนาน อย่างคนที่คุ้นเคยกันมาอย่างดี เป็นภาพที่ช่วยย้ำความคิดของผมขณะนั้นว่า ผมคิดไม่ผิดแน่”

 

ไม่ได้ตัว พล.อ.เสริม

“สัญญาณบอกเหตุความวุ่นวายก็เริ่มขึ้นเมื่อมีรายงานข่าวมายังผมว่า พล.อ.เสริม ณ นคร ผู้บัญชาการทหารบกในขณะนั้นหลบหนีออกจากบ้านพักหน้าสวนรื่นฤดีไปได้

เราเตรียมการกันไว้ว่าเรื่องนี้เป็นหน้าที่ของ พ.ต.อัศวิน หิรัญศิริ ที่ต้องไปเชิญตัว พล.อ.เสริม ณ นคร เข้ามาในสวนรื่นฯ แต่กำลังของ พ.ต.อัศวินมีออกมาน้อย จึงมอบหน้าที่ให้ พ.ต.บุญเลิศ แก้วประสิทธิ์ ให้เอากำลังจากเมืองกาญจน์รับภารกิจนี้แทน

พ.ต.บุญเลิศ ได้สั่งการให้ ร.อ.สวรรค์ ผู้ใต้บังคับบัญชาของตนซึ่งนำกำลังไปยึดกรมประชาสัมพันธ์ให้แบ่งกำลังมาบ้าน พล.อ.เสริม เพื่อเชิญมายังสวนรื่นฯ

เมื่อ ร.อ.สวรรค์นำกำลังเข้าไปในบ้านพักของ พล.อ.เสริม พบชายสูงอายุผู้หนึ่งนุ่งกางเกงแพรและใส่เสื้อผ้าป่านคอกลมเดินไปมาอยู่ในสวนหน้าบ้าน จึงตรงเข้าไปถามว่า พล.อ.เสริมอยู่หรือไม่ พล.อ.เสริมก็ตอบว่าอยู่ในบ้าน แล้วท่านก็เดินออกประตูเล็กที่ทะลุไปทาง มทบ.1 โดยมี พล.ต.สิงห์มาคอยพาท่านออกไป เพราะอย่างนี้จึงไม่สามารถเชิญตัว พล.อ.เสริม มาได้

ต่อมาเมื่อไปอยู่ในบางขวางแล้ว ผมถาม ร.อ.สวรรค์ ว่าจำ พล.อ.เสริมไม่ได้หรือ ได้รับคำตอบว่าจำไม่ได้เพราะไม่เคยพบมาก่อน เห็นแต่รูป เมื่อมาพบท่านใส่กางเกงแพรและเพิ่งตื่นนอนเลยจำไม่ได้ จึงถูกท่านหลอกว่ายังอยู่บนบ้าน

ที่ต้องเชิญ พล.อ.เสริม เพราะ พล.อ.ฉลาด กับ พล.อ.เสริม เป็นเพื่อนที่รักกันมาก ส่วนคนอื่นๆ ไม่ได้มีความคิดที่จะจับตัวท่านไว้แต่อย่างใด ไม่ว่าจะเป็น พล.ร.อ.สงัด ชลออยู่ หัวหน้าคณะปฏิรูปการปกครองแผ่นดิน หรืออาจารย์ธานินทร์ กรัยวิเชียร นายกรัฐมนตรีก็ตาม ในแผนการของเราไม่ได้กำหนดเอาไว้ว่าจะจับตัวท่านผู้นำเหล่านี้”