รายงานพิเศษ

 

ส่อง ‘แถว 2’ ของ 3 ป.

จับตา โอลด์ โซลเยอร์-โปลิศ

ตท.20 ทายาทอำนาจ พร้อมออกรบ

‘บิ๊กบี้’ กับ 4 กองพล

และ ‘เดอะตุ๊ด’ ในสายตา ‘บิ๊กป้อง’

 

นอกจาก 30 กันยายน 2565 นี้จะเป็นวันที่ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยวาระ 8 ปีนายกฯ ของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่จะมีผลต่อสถานการณ์ทางการเมือง เพราะฝ่ายสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ ยังเชื่อว่าจะได้ไปต่อแล้ว

30 กันยายนนี้ ยังเป็นวันที่บิ๊กแดง พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ อดีต ผบ.ทบ. และบิ๊กแป๊ะ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา อดีต ผบ.ตร. เพื่อนรัก ตท.20 จะครบกำหนดเว้นวรรคทางการเมือง 2 ปี หลังพ้นจากตำแหน่งสมาชิกวุฒิสภา สามารถที่จะลงสู่สนามการเมืองได้อย่างเต็มตัวอีกด้วย

แม้วันนี้ พล.อ.อภิรัชต์จะเป็นรองราชเลขาธิการ และคงไม่ได้มาทำงานการเมืองก็ตาม

แต่ก็ยังถูกจับตามองถึงบทบาทในฐานะแกนนำ ตท.20 ที่กำลังกลายเป็นโอลด์ โซลเยอร์ ที่อาจจะเข้ามารับไม้ต่อจากพี่น้อง 3 ป. “ป้อม-ป๊อก-ประยุทธ์” ที่อาจสู้ศึกเลือกตั้ง 2566 เป็นครั้งสุดท้าย

เพราะต้องไม่ลืมว่า แกนนำ ตท.20 ทยอยเกษียณราชการ และล้วนเป็นน้องรักสายตรง 3 ป. ทั้งบิ๊กณัฐ พล.อ.ณัฐ อินทรเจริญ อดีตปลัดกลาโหม น้องรักบิ๊กป้อม พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ พี่ใหญ่ และบิ๊กหน่อย พล.อ.วรเกียรติ รัตนานนท์ ที่กำลังจะเกษียณจากปลัดกลาโหม 30 กันยายนนี้ เช่นเดียวกับบิ๊กปั๊ด พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร.

แต่ที่กำลังถูกโฟกัสคือ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ที่ พล.อ.ประวิตรดึงตัวมาช่วยงานในพรรคพลังประชารัฐ โดยให้ช่วยทำพื้นที่ในภาคอีสาน ที่อาจจะเกี่ยวข้องกับการที่ พล.ต.อ.จักรทิพย์ถอนตัวจากการสมัครชิงผู้ว่าฯ กรุงเทพฯ

ตอนนี้จึงมีกระแสข่าวว่า พล.ต.อ.จักรทิพย์เข้ามาช่วยงานพรรค พปชร.มากขึ้น รวมทั้งส่งทีมงานมาช่วยดูแลด้านสื่อ และการประชาสัมพันธ์ของ พล.อ.ประวิตรด้วย

เพราะ พล.ต.อ.จักรทิพย์นั้นสนิทสนมกับทีมบิ๊กป้อม ทั้งที่บ้านป่ารอยต่อฯ และแห่งบ้านปิยะมิตร มีนบุรี เลยทีเดียว

และอาจเกี่ยวข้องกับการที่ พล.อ.ประวิตรกลับมานุ่งยีนส์ กระชากวัย ลงพื้นที่ในวันหยุด แม้ว่าเดิมจะใส่ยีนส์บ้าง แต่นานๆ ครั้ง แถมใส่รองเท้าผ้าใบสีขาว ต่างจากที่เคยใส่ผ้าใบสีดำ

งานนี้ พล.อ.ประวิตรให้ลูกน้องเอากางเกงบลูยีนส์ไปแก้ให้พอดีตัว เพราะไม่ได้ใส่นาน เคยใส่ยีนส์สีดำ และน้ำเงินเข้มบ้าง ในวันเสาร์ที่ไปกินข้าวกับเพื่อนเตรียมทหาร 6 ที่พูลแมน ซอยรางน้ำ

แต่ตอนนี้กลับมาใส่ยีนส์จนทำให้ถูกจับตามองว่า ทำตัวให้แข็งแรงขึ้น หนุ่มขึ้น เดินคล่องขึ้น ลงพื้นที่ต่างจังหวัดแบบรัวๆ เพราะเตรียมตัวจะเป็นนายกฯ ในอนาคต หลังการเลือกตั้งหรือไม่ หาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา วางมือทางการเมือง

กล่าวกันว่า บรรดานายทหารและตำรวจ ตท.20 นี้เอง ที่จะเป็น “แถวสอง” ของพี่น้อง 3 ป. ที่จะปั้นขึ้นมาช่วยดูแลบ้านเมืองต่อไป ในอีกไม่ช้านี้

ทั้ง พล.ต.อ.จักรทิพย์ ที่มีข่าวว่า พล.อ.ประวิตรเล็งที่จะให้เป็น “แถวสอง” ในการเตรียมออกมาทำศึกในสนามการเมืองในรุ่นต่อไป ถึงขั้นที่ว่า จะเป็นทายาททั้งการดูแลพรรคพลังประชารัฐ และทายาททางการเมืองเลยทีเดียว

ตามประสาทหาร ที่รู้กันว่า แถวสองคืออะไร เพราะเป็นยุทธวิธีในการออกรบ ที่วางกำลังแถวหน้าลุยก่อน ถ้าพ่ายแพ้ หรือละลายไป แถวสองก็ต้องออกรบต่อไปแทน

ขณะที่ พล.อ.อภิรัชต์ก็ถูกจับตามองว่ากำลังกระชับอำนาจในกองทัพ โดยเฉพาะในการแต่งตั้งโยกย้ายนายทหารครั้งล่าสุด ทั้งการผลักดันบิ๊กปู พล.ต.พนา แคล้วปลอดทุกข์ รองแม่ทัพภาคที่ 1 ขึ้นเป็นแม่ทัพภาคที่ 1 คนใหม่ หลัง 1 ตุลาคมนี้เลย

เพราะรู้กันดีว่า พล.ต.พนาเป็นสายตรงของ พล.อ.อภิรัชต์ ที่ปั้นให้มาเป็น ผบ.พล.ร.11 คุมกองพลสไตรเกอร์ กองพลที่ พล.อ.อภิรัชต์ก่อตั้งมากับมือ และสนับสนุนให้ไปฝึกหลักสูตรทหารคอแดงแบบนอกฤดู จนมีคุณสมบัติครบที่จะเป็นแม่ทัพภาคที่ 1 และจะทำหน้าที่ เสธ.ฉก.ทม.รอ.904 ด้วย นั่นหมายถึง การสนับสนุนให้เป็น ผบ.ทบ.ในอนาคตอันใกล้ เพราะมีอายุราชการถึงกันยายน 2569

โดยที่บิ๊กหนุ่ย พล.ท.ธราพงษ์ มะละคำ แม่ทัพน้อยที่ 1 ที่เคยเป็นเต็งหนึ่งแม่ทัพภาคที่ 1 สายตรง 3 ป. โดยเฉพาะ ป.ป้อมบ้านป่ารอยต่อฯ ถูกเขี่ยพ้นทางไปเป็นพลเอกที่ปรึกษาพิเศษ ทบ. ท่ามกลางเสียงวิจารณ์

ดังนั้น เมื่อ พล.อ.ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ ผบ.ทบ. เกษียณราชการกันยายน 2566 ก็คาดกันว่า บิ๊กต่อ พล.อ.เจริญชัย หินเธาว์ ที่โผนี้ขึ้นรอง ผบ.ทบ. หรือบิ๊กโต พล.ท.สุขสรรค์ หนองบัวล่าง ที่ขึ้น ผช.ผบ.ทบ. จะชิงกันขึ้นเป็น ผบ.ทบ. เพราะเกษียณกันยายน 2567 พร้อมกันพอดี

การแต่งตั้งโยกย้ายครั้งที่ผ่านมา ดูเสมือนว่า พล.อ.อภิรัชต์ และ พล.อ.ณรงค์พันธ์ จับมือกัน แต่ทว่า การดัน พล.ต.พนา ตท.26 ขึ้นแม่ทัพภาคที่ 1 ถือเป็นคุณกับ พล.อ.ณรงค์พันธ์ ที่ต้องการดันนายทหาร ตท.28 ขึ้นอยู่แล้ว เพราะเป็นที่รู้กันว่า ตท.28 จะเป็นสายตรงและฐานอำนาจจอง พล.อ.ณรงค์พันธ์ ไม่ใช่สายตรง พล.อ.อภิรัชต์

แถมมีการจับตามองว่า พล.อ.อภิรัชต์ ซึ่งสนิทสนมกับ พล.อ.ประยุทธ์ และมีน้องรักเป็นแกนนำ ตท.27 ทั้ง ผบ.ใหญ่ พล.ต.อมฤต บุญสุยา ผบ.พล.ร.2 รอ. ที่ขึ้นรองแม่ทัพภาคที่ 1 และบิ๊กตั้ง พล.ต.ธวัชชัย ตั้งพิทักษ์กุล ผบ.พล.ร.11 ที่แม้จะถูกขยับพ้นเส้นทางเหล็ก ไปเป็นรองแม่ทัพน้อยที่ 1 ก็ตามนั้น แต่ก็ถือเป็นคู่แข่ง ตท.28

โดย ตท.28 มีบิ๊กไก่ พล.ต.วรยส เหลืองสุวรรณ ผบ.พล.1 รอ. แกนนำ ตท.28 ที่จะขึ้นรองแม่ทัพภาคที่ 1 ก็จ่อที่จะเป็นแม่ทัพภาคที่ 1 ต่อจาก พล.ต.พนาเลยก็ว่าได้ เพื่อเข้าไลน์เตรียมเป็น ผบ.ทบ. เพราะมีอายุราชการถึงกันยายน 2571 และคาดว่า ผบ.กอล์ฟ พล.ต.สราวุธ ไชยสิทธิ์ ที่กำลังจะเป็นทหารคอแดง ผบ.พล.ร.2 รอ. แกนนำอีกคน ที่เกษียณกันยายน 2573 ก็ถูกจับตามอง

ในเวลานี้ ขั้วอำนาจของ พล.อ.ณรงค์พันธ์ และสายบ้านพระราม 5 จึงกำลังถูกจับตามอง เพราะมีทั้งบิ๊กอ๊อบ พล.อ.ทรงวิทย์ หนุนภักดี ที่ข้ามจาก ทบ. ไปเป็นรอง ผบ.ทหารสูงสุด ที่กองบัญชาการกองทัพไทย เพื่อจ่อเป็น ผบ.ทหารสูงสุดคอแดง คนที่ 2 ต่อจากบิ๊กแก้ว พลเอกเฉลิมพล ศรีสวัสดิ์ ที่จะเกษียณกันยายน 2566

แล้วทำให้ต้องลุ้น ว่าที่ พล.อ.สุขสรรค์ ผช.ผบ.ทบ. สายตรง พล.อ.ณรงค์พันธ์ ที่จะชิงเก้าอี้ ผบ.ทบ. กับ พล.อ.เจริญชัย น้องรักทหารเสือราชินี ของ พล.อ.ประยุทธ์ เพื่อนร่วมรุ่นเตรียมทหาร 23 ด้วยกัน

และ ตท.28 ที่กำลังสยายปีก ขึ้นขุมกำลังระดับผู้บัญชาการกองพลสำคัญในกองทัพบก ทั้งรองแอ้ม ว่าที่ พล.ต.ณัญเดช จันทรางศุ ที่จะขึ้นเป็น ผบ.พล.1 รอ. พล.ต.สราวุธจะเป็น ผบ.พล.ร.2 รอ และรองต็อป ว่าที่ พล.ต.วุทธยา จันทมาศ ที่จะเป็น ผบ.พล.ร.9 คุม 3 กองพลหลักของกองทัพภาคที่ 1 เป็น 2 กองพลคอแดง และ 1 กองพลคอเขียว

โดยที่มีบิ๊กมด พล.ต.อาจิณ ปัทมจิตร เป็น ผบ.พล.ม.2 รอ. คุมกองพลทหารม้าคอแดง ที่เคยเป็นกองพลทหารม้าปฏิวัติในอดีตมาอยู่แล้ว

จึงทำให้การนั่งเป็น ผบ.ทบ. และ ผบ.ฉก.ทม.รอ.904 ของ พล.อ.ณรงค์พันธ์ในปีที่ 3 นี้ ยิ่งมั่นคง และถูกจับตามอง เพราะเป็นการจัดวางตัวขุมกำลัง ที่ไม่ใช่สายตรง 3 ป. แต่เป็นสายตรงพระราม 5 ที่กำลังมาแรง ท่ามกลางสถานการณ์ทางการเมืองที่ไม่แน่นอน และเป็นช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อของแผงอำนาจพี่น้อง 3 ป. กองทัพ โดยเฉพาะกองทัพบก จึงยิ่งต้องถอยห่างออกจากการเมือง

หลังมีประกาศคำสั่งแต่งตั้งโยกย้ายออกมา เป็นจังหวะที่บิ๊กป้อง พล.อ.อ.นภาเดช ธูปะเตมีย์ ผบ.ทอ. เดินทางไปประชุมที่สหรัฐอเมริกาพอดี แต่กระแสเสียงวิพากษ์วิจารณ์อย่างคนดังขรม

แม้แต่การส่งต่อข้อความและคอมเมนต์ต่างๆ ต่อการจัดโผครั้งนี้ของ พล.อ.อ.นภาเดช ที่ถูกมองว่า ให้ความสำคัญกับความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิด มากกว่าการยึดหลักการ หรือธรรมเนียม ทอ. ที่ ผบ.ทอ. ต้องเดินมาตามไลน์ ทางการเป็นผู้บังคับฝูงบิน ผู้บังคับการกองบิน ผู้ช่วยทูตทหารอากาศในต่างประเทศ

และเป็นที่ผิดคาด ที่ พล.อ.อ.นภาเดช ที่เป็นนักบินขับไล่ เอฟ 16 เลือกบิ๊กตุ๊ด พล.อ.อ.อลงกรณ์ วัณณรถ ผช.ผบ.ทอ. นักบิน T33 T-Bird ขึ้นเป็น ผบ.ทอ.

และถูกมองข้ามช็อตว่า วางทายาทไว้แล้ว จาก พล.อ.อ.อลงกรณ์ เป็น ผบ.ทอ. 1 ปี จากนั้น บิ๊กณะ พล.อ.อ.ณรงค์ อินทชาติ ที่ปรึกษาพิเศษ ทอ. น้องรักนักบินขับไล่ ที่เป็นทีมนักกีฬาวิ่งผลัดโรงเรียนนายเรืออากาศมาด้วยกัน ที่คำสั่งนี้ได้เป็น เสธ.ทอ. เป็นต่ออีก 1 ปี

แต่อย่างไรก็ตาม แม้จะไม่ได้เป็นนักบินขับไล่ และไม่ได้เติบโตมาในสายยุทธการ แต่ พล.อ.อ.อลงกรณ์ก็มีจุดเด่นในด้านการงบประมาณ เพราะเติบโตมาในสายปลัดบัญชี ทอ.มากว่า 20 ปี และเคยเป็นปลัดบัญชี ทอ.

จึงไม่แปลกที่ ทอ.แจกจ่ายประวัติของ พล.อ.อ.อลงกรณ์ กับตำแหน่งในสายปลัดบัญชี ทอ.อย่างละเอียด และให้ถือว่าเป็นความโดดเด่น ที่เป็นเหตุผลหนึ่งที่ พล.อ.อ.นภาเดชใช้ประกอบการตัดสินใจ

พล.อ.อ.อลงกรณ์ นั้นเชี่ยวชาญเรื่องงบประมาณอย่างดี แบบที่หาตัวจับได้ยาก

ด้วยเหตุนี้ ทำให้ พล.อ.อ.นภาเดช พา พล.อ.อ.อลงกรณ์ ไปตรวจเยี่ยมกองบินทุกกองบิน ตลอด 1 ปีที่ผ่านมา เพื่อรับฟังข้อขาดแคลนของแต่ละแห่ง แล้วนำมาพิจารณาหางบประมาณสนับสนุน

พล.อ.อ.อลงกรณ์สามารถช่วยงาน ผบ.ทอ.ได้อย่างดียิ่ง เพราะสามารถผันหรือปรับเปลี่ยนงบประมาณในส่วนที่ยังไม่จำเป็นเร่งด่วนนัก นำไปผลักดันเป็นโครงการพัฒนากองบินต่างๆ ที่เสนอขึ้นมาช่วงเดินทางไปเยี่ยม รวมกันได้มากกว่า 60 โครงการ โดยถือเป็นงานภายใต้นโยบายของผู้บัญชาการทหารอากาศ ที่สร้างความสุข สร้างขวัญและกำลังใจต่อหน่วยทหารที่ห่างไกลจากส่วนกลาง

ทั้งนี้ พล.อ.อ.นภาเดชเชื่อมั่นว่า จากการตรวจเยี่ยมด้วยกัน และร่วมคิดอ่านแก้ไขปัญหาต่างๆ ด้วยกัน ก็เชื่อมั่นว่า พล.อ.อ.อลงกรณ์จะเข้าใจความต้องการต่างๆ ของกองบิน และซึมซับความรู้สึกนึกคิดของ พล.อ.อ.นภาเดช ในการสืบสานงานต่อเนื่องไป

ไม่แค่นั้น ยังมีผลต่อโครงการ F-35 หากสหรัฐอนุมัติขายให้แล้ว ในช่วง 2-3 ปีแรก จะต้องเดินควบคู่ไปกับความเชี่ยวชาญเรื่องงบประมาณ เพื่อให้เกิดความราบรื่นไม่ติดขัด พล.อ.อ.อลงกรณ์จะช่วยเติมเต็มในข้อนี้ได้อย่างดียิ่ง

แต่ที่สำคัญที่สุดก็คือ การที่ พล.อ.อ.อลงกรณ์เป็นคนจิตใจดี ละเอียดอ่อน สุขุมรอบคอบ และมีความเมตตาต่อข้าราชการชั้นผู้น้อยเป็นอย่างมาก จะดูแล ทอ. และกำลังพลได้ดี ซึ่ง พล.อ.อ.นภาเดชรู้จัก พล.อ.อ.อลงกรณ์ มาตั้งแต่เป็นเด็กๆ จึงรู้นิสัยกันเป็นอย่างดี

“เขาอาจไม่ใช่คนเก่งที่สุด รอบรู้ที่สุด หรือเชี่ยวชาญงานด้านยุทธการที่สุด แต่เขาจิตใจดี และละเอียดอ่อน เหมาะสมกับสถานการณ์ ผมเชื่อมั่นว่า เขาจะทำหน้าที่ได้ดี นำพากองทัพอากาศรุ่งเรืองก้าวหน้า ทันสมัย และสามัคคี” ความเห็นของ พล.อ.อ.นภาเดช ต่อ พล.อ.อ.อลงกรณ์

 

อย่างไรก็ตาม ระยะเวลา 1 ปี หลังรับมอบตำแหน่งเป็น ผบ.ทอ.คนที่ 29 ของ ทอ.นั้น พล.อ.อ.อลงกรณ์จะต้องพิสูจน์ให้ลูกทัพฟ้าเห็นฝีมือในการแก้ปัญหางบประมาณต่างๆ การบริหารจัดการงบฯ หากโครงการ F-35 ได้ไปต่อ

รวมทั้งภาพลักษณ์ที่เป็นนายทหารอารมณ์ดี ร่าเริง ชอบการแดนซ์ และมักเต้นโชว์ในงานต่างๆ ของ ทอ. และเป็นการแดนซ์ทั้งครอบครัว

โดย พล.อ.อ.อลงกรณ์เดินตามแนวทางของ พล.อ.อ.นภาเดชเป็นส่วนใหญ่ และจะแถลงนโยบายต่อ ผบ.หน่วยขึ้นตรง ทอ. ในวันที่ 7 ตุลาคม 2565 และจะแถลงข่าวต่อสื่อมวลชน

พร้อมๆ กันนั้น พล.อ.อ.นภาเดชก็เคลียร์ใจกับแคนดิเดต ผบ.ทอ.ที่พลาดหวัง ด้วยการไปหาพูดคุยแบบตัวต่อตัว เพื่อให้น้องๆ เข้าใจ และไม่เกิดความขัดแย้ง

ทั้งกับบิ๊กป้อม พล.อ.อ.ธนศักดิ์ เมตะนันท์ รอง ผบ.ทอ. ที่พลาดเก้าอี้ ผบ.ทอ. และถูกส่งข้ามไปเป็นรองปลัดกลาโหม แถมมีอายุราชการเหลือ 2 ปี เกษียณ 2567 ที่คาดว่าจะเกษียณที่กลาโหม และบิ๊กต้น พล.อ.อ.คงศักดื์ จันทรโสภา ผบ.คปอ. น้องรัก ที่ถูกส่งไปเป็นรอง ผบ.ทหารสูงสุด

ดังนั้น ไม่ใช่แค่พิสูจน์ฝีมือเท่านั้น แต่ พล.อ.อ.อลงกรณ์คงต้องเยียวยาแผลใจลูกทัพฟ้าหลายคน เพื่อสร้างความปรองดอง เช่นที่ พล.อ.อ.นภาเดชคาดหวังไว้ เพราะ 1 ปีของ พล.อ.อ.อลงกรณ์ จะส่งผลต่อ พล.อ.อ.นภาเดชด้วยนั่นเอง

นี่เป็นผลพวงจากโผทหารในช่วงเลี้ยวหัวต่อทางการเมือง

สะดวก ฉับไว คุ้มค่า สมัครสมาชิกนิตยสารมติชนสุดสัปดาห์ได้ที่นี่https://t.co/KYFMEpsHWj

— MatichonWeekly มติชนสุดสัปดาห์ (@matichonweekly) July 27, 2022