ฮุน มานิต : เมื่อรักคืนเรือน-และการเมืองคือพิษ/อัญเจียแขฺมร์ อภิญญา ตะวันออก

อภิญญา ตะวันออก

อัญเจียแขฺมร์

อภิญญา ตะวันออก

 

ฮุน มานิต

: เมื่อรักคืนเรือน-และการเมืองคือพิษ

 

เยืองขญม เกิดเป็นเด็กทไงพุธ-ลูกชายคนกลาง ที่ไม่ค่อยมีใครจะพูดถึง แต่หากเป็นเด็กตระกูลฮุนแล้วไซร้ ไม่ว่าจะเป็นคนที่เท่าใด ไม่มีเสียล่ะที่เขาจะรอดพ้นความสนใจไปได้ สำหรับพลโทฮุน มานิต (41) ที่กุมบังเหียนหน่วยงานด้านข่าวกรองของกัมพูชา ตั้งแต่เขาจบการศึกษาศาสตร์นี้โดยตรงจากสหรัฐ

นอกจากนี้ ยังเป็นลูกคนแรกที่ออกเรือนของตระกูลตั้งแต่อายุเพียง 22 ปี

ฮุน มานิต ยังสร้างสถิติที่น่าจดจำหลายอย่างแก่ตระกูลอันบ่งบอกว่าเขาไม่เคยนอกแถว

ที่น่าแปลกใจคือในปี 2553 ขณะที่เด็กๆ ตระกูลฮุนทุกคนนั้นไม่ว่าเขยหรือสะใภ้ ต่างถือครองอภิมหาทรัพย์สินและความมั่งคั่งจากชาวเขมรทุกคนที่ต้องใช้สินค้าอุปโภคบริโภคในชีวิตประจำวันตลอด 24 ชั่วโมงเลยนั่น แต่ฮุน มานิต และภรรยา ดูจะไม่มีชื่อถือครองในเครือข่ายนั้น

ไม่เท่านั้น ฮุน มานิต ยังถือเป็นลูกชายคนเดียวของฮุน เซน ที่ระยะหลังมานี้ เขามีเริ่มเปิดกว้างและเผยให้เห็นถึงสไตล์ชีวิตไม่ซับซ้อนหรือมีโลกหลายใบเหมือนพี่น้องคนอื่น

หนำซ้ำ ความสัมพันธ์อันอบอุ่นในครอบครัวของเขา ยังให้ภาพรวมของความไม่เฟกจริงใจ และมีความเป็นตรงกลางระหว่างการสร้างภาพในแบบนักการเมือง หรือแบบคนที่มีโลก 2 ใบ

แต่ตรงข้าม ฮุน มานิต ที่เป็นหนึ่งเดียวกับภรรยาจะเต็มไปด้วยอารมณ์ขัน อันเห็นได้ยากจากสมาชิกตระกูลฮุนคนอื่นๆ ซึ่งเป็นบางครั้งก็ให้ความรู้สึกที่เหลือเชื่อว่า นี่คือคนที่ฮุน เซน วางมือให้เป็นผู้บัญชาการหน่วยข่าวกรอง ตลอดจนยากจะเชื่อว่า นี่คือลูกเขยฮก ลองดี (หรือลอง ดี) อดีต ผบ.ตร.ที่สุดเฮี้ยบยุคหนึ่ง

แม้จะอยู่ในกรอบทุกประการ กระนั้น ฮุน มานิต ยังไม่มีดีเอ็นเอที่ถอดแบบมาจากพ่อตนและพ่อตาอีกด้วย

ในฐานะที่แต่งงานแต่ยังกเม็งกับลูกสาวตำรวจคนดัง ขณะยังวัยรุ่นอยู่นั้น เด็กๆ ตระกูลฮุนและฮกมักไปๆ มาๆ ศึกษาเล่าเรียนที่สิงคโปร์ ซึ่งเป็นช่วงเวลาความสัมพันธ์ของคนรุ่นพ่อกำลังไปได้ดี หากไม่มีเหตุการณ์หนึ่งเข้ามาและทำให้บุน รานี วีนแตก เมื่อฮก ลองดี ทำพิเรนทร์ หาเมียน้อยให้สามีของเธอ และชู้รักคนนั้นก็ถูกฆาตกรรมอย่างอุกอาจ

พิสิต พิลิกา เขียนบันทึกพาดพิงถึงฮก ลองดี ที่ขอร้องให้เธอหนีออกนอกประเทศ และนั่นคือหลักฐานเดียวที่ทำให้เรารู้ว่า นี่คือระยะห่างระหว่างคน 2 ตระกูลแต่ไม่ใช่เด็กๆ ไม่กี่ปีต่อมา ก่อนฮุน มานิต ไปเรียนต่อสหรัฐ เขาตัดสินใจแต่งงานกับบุตรสาวของฮก ลองดี โดยทันที

และนับเป็นการตัดสินใจที่ถูก สำหรับความสัมพันธ์เชิงอำนาจอันทับซ้อนของพวกผู้ใหญ่ที่มองไม่เห็นลงมาในการสร้างครอบครัวที่อบอุ่นระหว่างฮุน มานิต และฮก จินดาวี

ทั้งสองมีหลานชายคนแรกและอีกหลายคนให้แก่วงศ์ตระกูล แต่นั่นก็ไม่ได้ทำให้พ่อและแม่กลับมาคืนดีกันเหมือนอดีต โดยเฉพาะเมื่อลูกๆ คนอื่นๆ เริ่มแต่งงานและพ่อๆ ของเขย-สะใภ้เหล่านั้น ต่างเสวยวาสนาได้เป็นรองนายกรัฐมนตรีตลอดเป็นออกญาและบ้างก็เป็นชั้นสมเด็จ

แต่ฮก ลองดี ไม่เคยมีโอกาสขยับฐานอำนาจตน

อย่างไรก็ตาม ความขุ่นเคืองไม่ปรองดองระหว่างพ่อและคุณหญิงแม่แห่งตระกูลนี้ นัยทีได้ส่งผลต่อพี่สาวของตนและพี่ชายของภรรยา นั่นคือ ฮุน มานา กับดี วิเจีย ตั้งแต่น้องๆ ชอบพอกัน และความหวาดระแวงนั้นก็เป็นอุปสรรครักที่ดี วิเจีย-ฮุน มานา ยากจะไปต่อได้

ด้วยเหตุนี้ การคลุมถุงชนฮุน มานา กับลูกนายทหารเพื่อนพ่อคือ มึง กุมเพียะ จึงเกิดขึ้นทันทีที่ฮุน มานา เรียนจบ ขณะที่ดี วิเจีย นั้น ก็ตัดสินใจแต่งงานกับฮุน จันทา ซึ่งเป็นคนรักของมึง กุมเพียะ ซ้ำยังมีศักดิ์เป็นลูกสาวของลุงฮุน มานา

เรื่องประหลาดที่ว่านี้คงไม่มีอะไรพลาด หากความรักอันคลุมเครือระหว่างลูกแลหลาน “ฮก-ฮุน-มึง-ดี” จะไปรอด แทนที่จะวนเวียนไปมา และนั่นก็ทำให้ความสัมพันธ์ฉันชู้รักระหว่างมานากับสามีและวิเจียกับภรรยา สลับกันไปมา

มีแต่มานิตและภรรยาเท่านั้น ที่เก็บงำความลับในฐานะที่ตนอยู่ตรงกลางและรู้ลึกว่าข่าวกรอง ซึ่งท้ายที่สุดแล้ว ต่างอยู่ในภาวะที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออกและอีรุงตุงนัง

นั่นเองหรือไม่ ที่ทำให้ฮุน มานิต ถือคติมั่นคงต่อครอบครัว ที่มาจากความเจ็บปวดของคนใกล้ตัว คือจุมเตียวมารดาและพี่สาวฮุน มานา ที่ต่อมาหย่าร้างกับกุมเพียะ ส่วนพี่เมีย ดี วิเจีย ก็หย่าขาดฮุน จันทา ทิ้งไว้แต่ความอื้อฉาวที่ตามมาในหมู่สังคมไฮโซ ด้วยเหตุนั้น ความรักฮุน มานา-ดี วิเจีย จึงไม่เปิดเผยต่อไป กระทั่ง ฮก ลองดี ถูกพรากชีวิตไปจากเหตุเฮลิคอปเตอร์ตกใน 2551

ขณะที่ครอบครัวฮก/ดี ยังไม่ทันจะปาดน้ำตาให้เหือดแห้ง และทันทีที่ภาพฮุน มานา ยืนเคียงข้างดี วิเจีย ในงานศพฮก ลองดี นั้น พลัน คำประกาศการสมรสระหว่างคนทั้งสองก็ตามมาในเดือนพฤศจิกายนนั้นเอง

ตามมาด้วยพิธีมงคลสมรสอย่างเป็นทางการในวันชาติ (7 มกราคม) มีการเชิญแขกต่างชาติของพ่อมาเป็นสักขีพยาน อันเป็นนัยว่า ภาวะคลุมเครือบาดหมางของ 2 ตระกูลได้ถึงกาลสิ้นสุดแล้ว

เยืองขญม นั่นเป็นแค่เปลาะแรกๆ ของการนำ “รักคืนเรือน” มาสู่ครอบครัวที่มีฮุน มานิต และฮก จินดาวี เป็นศูนย์กลาง

สำหรับดี วิเจีย ที่กลับมารับตำแหน่งเก่าของบิดาคือ ผบ.ตร. ทว่า พ่อตาฮุน เซน ที่นิยมให้ลูกๆ ของตนรวมทั้งเขย นั่งกินบุญเก่าในตำแหน่ง “ท่านรอง” เท่านั้น ซึ่งหาใช่อะไรที่ลักลั่น แต่เป็นแง่งามของครอบครัว

กระนั้น ดี วิเจีย ที่ที่ร่วมหอกับฮุน มานา มา 8-9 ปีกลับไม่มีทายาทของตนสักที ซึ่งเรื่องนี้ได้สร้างความกระวนกระวายใจต่อสมเด็จฮุน เซน เป็นที่ยิ่ง

คำตัดพ้อของบิดาเรื่องนี้ ทันทีนั้น ภารกิจแบกท้องตอนวัยกลางคนของฮก จินดาวี ก็กลายเป็นแรงบันดาลใจให้พี่สะใภ้ และเพชร จันมุนี ภรรยาฮุน มาเนต ที่เฝ้ารอลูกคนที่ 3 และเป็นลูกชายคนแรกมาเติมเต็มให้ครอบครัว

น่าอัศจรรย์ที่ 3 สาวต่างตั้งครรภ์ในเวลาไล่เลี่ยกัน และนั่นเป็นครั้งแรกที่ทำให้ฮุน มานา มีหลานตาให้บิดาปลาบปลื้ม โดยเฉพาะในช่วงที่เขาป่วยหนักและรักษาตัวอย่างลับๆ อยู่นั้น

ดูเหมือนหลานๆ ที่ไล่เรียงอายุกัน ฮุน มานิต ที่ได้ลูกสาวคนที่ 5 ดังที่ตนปรารถนาเช่นเดียวกับฮุน มาเนต ที่ได้ลูกชาย ส่วนฮุน มานา นั้น “ดี เซน วิทู” คือของขวัญพิเศษที่คุณตาฮุน เซน ปลาบปลื้มใจ และกลับมาหายป่วยกายและใจ

2 ปีต่อมา ฮุน มานา ในวัย 40 ปีที่กลับมาตั้งครรภ์อีกครั้ง และคราวนี้เธอได้เติมเต็มให้ตัวเองด้วยการมีหลานฮุนคนสุดท้าย และเป็นหลานสาวที่ฮุน เซน สุดโปรดปราน

อา ต้องขอบคุณฮก จินดาวี และฮุน มานิต ต่อความเพียรพยายาม

แลใครเลยจะนึกว่า นี่คือสิ่งที่มองไม่เห็นในความเป็น “เดอะแบก” ในลูกชายเบอร์รองของฮุน เซน ที่เป็นเหมือนลมใต้ปีกในทุกๆ กรณีของครอบครัว ตั้งแต่ตัวเอง ไปจนถึงครอบครัวของพี่สาว หรือแม้แต่ฮุน มาเนต ในทันทีที่เขากลายเป็นตำบลกระสุนตกใส่ ตั้งแต่ถูกวางตัวเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีคนต่อไป

ที่ผ่านมา ฮุน มานิต ดูจะสนิทสนมและให้ความเคารพต่อพี่ชายอย่างไม่มีหลักเหลี่ยมใดๆ ดังนั้น ไม่ว่าจะเป็นสิ่งที่เขาโพสต์ในเฟซบุ๊กอย่างให้ความเคารพ ขณะที่กับฮุน มานี นั้น เขากลับรักษาระยะห่างอย่างเหมาะสม และนั่นคือวิถีการเมืองของฮุน มานิต กับพี่น้อง

ในฐานะนักประเมินข่าวกรอง เขาย่อมทราบดีว่าใครคือจุดอ่อนและจุดแข็ง เช่นเดียวกับภาพวงกว้างที่ทำให้ฮุน มาเนต และฮุน มานี ถูกจับตาในฐานะขั้วศัตรูการเมือง

ในฐานะผู้ผ่านบทเรียนร้อนหนาวแบบฮุน มานิต โดยเฉพาะความขัดแย้งระหว่างพ่อตนและพ่อตา ช่างเป็นบทเรียนแห่งการท้าทาย ในการขานรับกับมิตรและศัตรูซึ่งเป็นครอบครัวของตน และเขาได้ผ่านห้วงเวลานั้นมาได้อย่างงดงามในฐานะของลมใต้ปีกที่คอยพยุงทุกฝ่าย

บนความวิตกใดๆ เหล่านั้น ไม่เว้นความขัดแย้งวิถีการเมืองระหว่าง “ฮุน มาเนต-ฮุน มานี”

เรื่องลับๆ ของพี่ๆ น้องๆ และข่าวกรองสุดท้าย ขอให้บอกฮุน มานิต

เครดิตภาพ Facebook : Manith Hun