การ์ตูนที่รัก/A Silent Voice The Movie

นพ.ประเสริฐ ผลิตผลการพิมพ์

การ์ตูนที่รัก/นายแพทย์ประเสริฐ ผลิตผลการพิมพ์

A Silent Voice The Movie

การ์ตูนญี่ปุ่น รักไร้เสียง ชื่อภาษาอังกฤษ A Silent Voice The Movie หรือ The Shape of Voice The Movie เป็นหนังใหม่ปี 2016 กำกับฯ โดย นาโอโกะ ยามาดะ เขียนเรื่องโดย เรอิโกะ โยชิดะ จากมังงะของ โยชิโตกิ โออิมะ หนังดีมาก
เปิดฉาก เด็กหนุ่มคนหนึ่งเดินไป เขาเพิ่งลาออกจากงานพาร์ตไทม์ ขายสมบัติส่วนตัวได้สามหมื่นเยน ปิดบัญชีธนาคารเอาเงินไปวางไว้ให้แม่ จากนั้นเขาเดินไปที่สะพานข้ามแม่น้ำแห่งหนึ่ง
เพื่อที่จะกระโดดน้ำตาย

หนังตัดกลับไปที่ตอนเริ่มต้น ชั้นประถม 6 เด็กหนุ่มคนนั้นชื่อ โชยะ อิชิดะ มีเพื่อนซี้สองคน ฮิโรเสะและชิมาดะ คนหนึ่งอ้วน คนหนึ่งผอม ท่าเดินของอิชิดะตอนเปิดเรื่องนี้กวนโอ๊ยมาก เขาเป็นจอมซ่าของห้อง เด็กชายสามคนสนิทกัน
วันนี้ครูประจำชั้นพานักเรียนใหม่มาแนะนำตัว เธอชื่อ โชกะ นิชิมิยะ เพื่อนๆ รอเธอพูด เธอไม่พูด เธอแนะนำสมุดประจำตัวเล่มหนึ่งแทน เธอเขียนชื่อตัวเองบนสมุด แล้วพลิกหน้าต่อไปเขียนว่า “หวังว่าเราจะใช้สมุดเล่มนี้เป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน” และ “กรุณาใช้สมุดเล่มนี้เพื่อคุยกับฉัน” และ “ฉันหูหนวก”
ในตอนเริ่มต้น ดูเหมือนใครๆ ก็ปฏิบัติต่อนิชิมิยะเรียบร้อยดี แต่เธอแตกต่างจากเด็กคนอื่น พูดข้างหลังก็ไม่ได้ยิน จดการบ้านไม่ทัน ร้องประสานเสียงไม่ตรงคนอื่น พูดได้บ้างแต่เสียงก็ประหลาดมาก แล้วอะไรๆ ก็เริ่มก่อตัวชึ้นช้าๆ
นาโอกะ อุเอโนะ เป็นเด็กหญิงน่ารัก ค่อนข้างจะเป็นดาว เธอเริ่มนำทีมเพื่อนๆ ผู้หญิงปลีกตัวออกจากนิชิมิยะ อิชิดะในตอนแรกก็ดูเหมือนจะพยายามพูดกับนิชิมิยะ “นี่เธอ พยายามมากกว่านี้ ไม่งั้นพวกนั้นจะเบื่อเธอนะ” ครั้นเธอใช้ภาษามือบอกเขาว่า “เป็นเพื่อนกันนะ”
อิชิดะกลับกำทรายซัดใส่เธอ “ยัยตัวประหลาดนี่!”

ปรากฏว่าเป็นการ์ตูนญี่ปุ่นที่น่ารัก สีสวย ไม่เว่อร์มากและไม่ฟูมฟาย ในตอนเริ่มต้นของการกลั่นแกล้ง หรือ bullying เด็กแต่ละคนมิใช่ปิศาจร้ายมาจากบ้าน พวกเขาพยายามเข้าหาเด็กใหม่แต่ด้วยเหตุผลที่ไม่รู้ชัด แต่ละคนเริ่มกีดกันเธอและกลั่นแกล้งเธอ เรื่องเริ่มขึ้นช้าๆ
วันหนึ่งมีครูพิเศษมาสอนภาษามือให้เด็กทั้งห้องเพื่อให้ทุกคนพูดกับนิชิมิยะง่ายขึ้น จะเห็นระบบรองรับเด็กที่ต้องการความช่วยเหลือพิเศษของบ้านเขา แต่อุเอโนะตัวร้ายกลับยืนขึ้นถามว่าภาษาเขียนไม่ดีตรงไหน ในขณะที่เด็กหญิงอีกคนหนึ่ง มิโยโกะ ซาฮาระ ลุกขึ้นยืนพูดว่าหนูอยากเรียนภาษามือค่ะ
ซาฮาระเข้ามาใกล้ชิดนิชิมิยะเพื่อเรียนภาษามือจากนิชิมิยะ เธอจึงกลายเป็นเป้าหมายต่อไปที่จะถูกกีดกัน
อิชิดะลงมือกลั่นแกล้งนิชิมิยะหนักข้อขึ้น นอกจากเขียนประจานเธอบนกระดานดำแล้ว วันหนึ่งเขาตะโกนใส่หูนิชิมิยะจากด้านหลังทำให้เธอตกใจสุดขีดเหวอและหูอื้อไปชั่วขณะ เพราะที่แท้แล้วเธอใส่เครื่องช่วยฟังอยู่
อุเอโนะเดินเข้าไปขอดูเครื่องช่วยฟัง คว้าเครื่องช่วยฟังโยนให้อิชิดะ อิชิดะโยนเครื่องช่วยฟังออกนอกหน้าต่างไป
หลังจากวันนั้น เหมือนเด็กๆ จะรู้ว่าทำได้จึงทำซ้ำ เตะตัดขานิชิมิยะ ฉีดน้ำใส่เธอ โยนเครื่องช่วยฟังของเธอทิ้งน้ำ วันหนึ่งอิชิดะเล่นดึงเครื่องช่วยฟังออกจากหูของเธออย่างแรงจนเลือดไหลตามออกมาเป็นทาง

ตลอดเวลาที่การกลั่นแกล้งดำเนินไป แม้ว่าจะมีเสียงห้ามปรามกันเองบ้าง เสียงเตือนกันเองว่าอย่าแรงเกินไปบ้าง โดยเฉพาะจากฮิโรเสะและชิมาดะ แต่ไม่มีอะไรมากกว่านั้น ครั้งนี้ก็เช่นกัน แม้ว่าทุกคนจะตกใจที่นิชิมิยะเลือดออก แต่ก็เหมือนว่าเรื่องจะผ่านไปอีกครั้งหนึ่ง
เย็นวันนั้นนิชิมิยะดักรออิชิดะ เธอเขียนลงสมุดว่า “ขอโทษนะ” ให้แก่อิชิดะ นั่นยิ่งทำให้เขาโกรธมาก พอนิชิมิยะใช้ภาษามือว่า “เป็นเพื่อนกันนะ” อิชิดะยิ่งโมโหคว้าสมุดของนิชิมิยะขว้างลงน้ำ แต่นิชิมิยะก็เดินลงบ่อน้ำไปเก็บขึ้นมา
วันรุ่งขึ้นครูใหญ่มาถึงห้องเรียนเพื่อแจ้งว่าคุณแม่ของนิชิมิยะบอกว่าห้าเดือนที่ผ่านมานิชิมิยะทำเครื่องช่วยฟังหายหรือเสียหายไปแล้วแปดเครื่อง “เราเชื่อว่าเธอถูกกลั่นแกล้ง และวันนี้เธอไม่มาโรงเรียน มีใครรู้เห็นอะไรมั้ย”
พอทุกคนเงียบ ครูประจำชั้นโกรธมาก พูดขึ้นว่าเป็นอิชิดะนั่นแหละ แล้วสั่งให้อิชิดะลุกขึ้นยืน ถึงตอนนี้อุเอโนะชิ่งหลบ เพื่อนบางคนกล่าวหาอิชิดะเพิ่มเติม อิชิดะเป็นเดือดเป็นแค้นไล่ชี้หน้าคนอื่นที่ร่วมด้วยช่วยแกล้ง รวมทั้งเด็กหญิงใส่แว่นท่าทางเรียบร้อย มิกิ คาวาอิ ด้วย ตอนนี้เพื่อนๆ ทั้งห้องจับจ้องมาที่อิชิดะ
มิกิ คาวาอิ ปฏิเสธว่าเธอไม่ได้ทำ เธอเป็นตัวแทนของเพื่อนๆ อีกจำนวนมากในห้องที่ไม่ได้ทำ แต่ทำเฉย พวกผู้ชายก็ไม่มีใครกล้าขัดอิชิดะ พวกผู้หญิงก็ไม่มีใครกล้าฝืนอุเอโนะ
เย็นวันนั้นอิชิดะกลับบ้านถูกแม่ซักฟอกซ้ำเพราะครูโทรศัพท์มาแจ้งแม่แล้ว แม่พาเขาไปธนาคารเพื่อถอนเงินจำนวนหนึ่งนำไปให้คุณแม่ของนิชิมิยะและเรียกเขาลงจากรถมาขอโทษ เขาไม่ลง

หลังจากวันที่อิชิดะกล่าวหาคนอื่นก็ไม่มีใครคบเขาอีก บางคนกลั่นแกล้งเขากลับ บัดนี้อิชิดะเหลือตัวคนเดียว ตอนนี้เขาเป็นฝ่ายเสียหน้า ละอายใจ หลบหน้าเพื่อนฝูง
เย็นวันหนึ่งเขาเดินมาพบนิชิมิยะกำลังพยายามลบรอยตัวหนังสือที่เพื่อนๆ เขียนประจานเขา นั่นยิ่งทำให้เขาโกรธยายแสนดีหูหนวกนี้อย่างมาก สองคนผลักกันไปมา นิชิมิยะเปล่งเสียงที่ฟังไม่เข้าใจ จบลงด้วยการต่อสู้ตบตีเตะถีบกันจนล้มลงไปที่พื้นทั้งสองคน
แล้วนิชิมิยะก็ย้ายโรงเรียนไป

การรังแกหรือ bullying กำลังเป็นปัญหาที่ทวีความรุนแรงมากขึ้นในโรงเรียนทั่วโลกทั้งชั้นประถมและมัธยม สาเหตุทางสังคมวิทยาว่าเกิดขึ้นเพราะการเสียสมดุลของคานอำนาจ ฝ่ายหนึ่งกุมอำนาจในมือ เป็นหัวโจก ทำเพราะทำได้ ทำซ้ำเพราะไม่มีคนห้าม ในขณะที่อีกฝ่ายหนึ่งมีความอ่อนด้อยทางกายภาพหรือความแตกต่างจากคนอื่นที่เห็นได้ชัด ดังกรณีของนิชิมิยะ
ในทางจิตวิทยาพบว่าผู้รังแกมักมีเซลฟ์เอสตีมไม่ดีอยู่เดิม ไม่นับถือตัวเอง ทำอะไรอย่างอื่นไม่ได้ดีนักแล้วพบว่าการรังแกคนอื่นทำได้ง่ายกว่า
ดังกรณีของอิชิดะ หรือผู้รังแกรู้สึกว่ากำลังถูกท้าทายอำนาจ ถูกแย่งชิงความสนใจ
ดังกรณีของอุเอโนะ พบอีกด้วยว่าผู้รังแกหลายคนป่วยด้วยโรคซึมเศร้าอยู่ก่อน โดยที่โรคซึมเศร้าในเด็กมิได้แสดงอาการออกเหมือนโรคซึมเศร้าในผู้ใหญ่จึงตรวจพบได้ยาก
เป็นที่ทราบกันว่าการรังแกมักเกิดขึ้นได้ด้วยแรงเสริมจากกลุ่มเพื่อน มีทั้งที่เชียร์ออกนอกหน้า อยู่เฉยไม่ห้ามปราม หรือห้ามปรามแต่ไม่จริงจัง ดังที่เห็นในหนังเรื่องนี้หลายครั้ง หากปราศจากแรงเสริมจากกลุ่มเพื่อนแล้วผู้รังแกมักไม่สามารถทำอะไรได้นานนัก
ดังนั้น การจัดการที่ดีคือการเข้าไปจัดการ “ทุกคน” เพื่อให้ทุกคนเข้าใจว่ากำลังเกิดปรากฏการณ์อะไรขึ้นในห้องเรียนแล้วแต่ละคนควรทำตัวอย่างไร
อย่าลืมว่าทุกคนเป็นเด็ก และกระบวนการที่เกิดขึ้นเป็นกระบวนการทางสังคม

เวลาผ่านไป ทุกคนขึ้นมัธยมปลาย อิชิดะไปเรียนภาษามือและตามหานิชิมิยะจนพบ เขาขอโทษและขอคบนิชิมิยะอีกครั้งหนึ่ง แต่บาปที่เขาเคยทำไว้กับเพื่อนๆ รวมทั้งนิชิมิยะยังไม่สิ้นสุด เขามีเรื่องต้องชดใช้เพื่อนๆ มีเรื่องต้องชดใช้คุณแม่ของนิชิมิยะซึ่งปราดเข้ามาตบหน้าเขาทันทีที่เห็น สำคัญที่สุดคือตัวนิชิมิยะเอง แผลที่เขาสร้างไว้มิใช่หายไปโดยง่าย ถึงวันนี้เขาไม่มองหน้าคน ระแวงว่าคนอื่นพูดถึงเขาว่าอย่างไร เขาแค่ไปเรียนและไปทำงานหาเงินคืนแม่
การ์ตูนสื่อตอนนี้ด้วยวิธีที่น่าสนใจมากคือกากบาทหน้าคนทุกคนรอบอิชิดะ
แล้ววันหนึ่ง ในคืนเทศกาลดอกไม้ไฟที่อิชิดะและนิชิมิยะออกไปเที่ยวดูไฟกับคุณแม่และน้องสาวของเธออย่างมีความสุข นิชิมิยะขอตัวกลับมาที่อพาร์ตเมนต์เพื่อกระโดดตึกตาย
งานวิจัยสมัยใหม่บอกว่าการกลั่นแกล้งอย่างเดียวไม่ทำให้เด็กฆ่าตัวตาย เด็กฆ่าตัวตายเพราะมีโรคซึมเศร้าร่วมด้วย
อย่างไรก็ตาม การ์ตูนญี่ปุ่นเรื่องนี้ไม่ชี้ชัดว่าเด็กทั้งสองคือทั้งผู้รังแก อิชิดะ และผู้ถูกรังแก นิชิมิยะฆ่าตัวตายเพราะอะไร หนังเพียงเล่าเรื่องไปเรื่อยๆ ให้คนดูเป็นผู้สังเกตการณ์ นอกเหนือจากเพื่อนๆ ที่เติบโตมาด้วยกันแล้ว เด็กทั้งสองคนมีแม่ที่มีบุคลิกแตกต่าง มีน้องสาว และไม่มีพ่อ ดูจนจบก็ไม่อาจจะสรุปได้ว่าทำไมสองคนจึงพยายามฆ่าตัวตาย นี่คือข้อดีมากของการ์ตูนเรื่องนี้
ตายหรือเปล่า คงต้องหามาดูเอง