ศิโรตม์ คล้ามไพบูลย์ | เอกสารมีชัย : ชนวนใหม่นำประเทศสู่กลียุค

ศิโรตม์ คล้ามไพบูลย์www.facebook.com/sirote.klampaiboon

ครึ่งเดือนแรกที่คุณประยุทธ์ จันทร์โอชา หลุดจากทำเนียบผ่านไปพร้อมความผันผวนทางการเมืองที่สูงขึ้นทุกวัน

ล่าสุดรัฐบาลมีตำแหน่งรัฐมนตรีว่างแล้ว 4 ราย ประกอบด้วย 2 ตำแหน่งที่ว่างเพราะคุณประยุทธ์ปลดคุณธรรมนัส พรหมเผ่า และคุณนฤมล ภิญโญสินวัฒน์, 1 รัฐมนตรีที่ศาลพักงาน และ 1 รัฐมนตรีที่ลาออกเพราะคดีถึงศาล

ถ้าไม่นับคุณกนกวรรณ วิลาวัลย์ ที่ศาลพักงานจากคดีรุกป่า รัฐมนตรีที่มีอันเป็นไปก็เกี่ยวพันกับคุณประยุทธ์ทั้งสิ้น คุณธรรมนัสและคุณนฤมลหลุดเพราะคุณประยุทธ์ไม่ชอบหน้า คุณประยุทธ์ถูกพักงานเพราะเป็นนายกฯ แล้ว 8 ปี ส่วนคุณนิพนธ์ บุญญามณี ที่ลาออกก็ถูกเทียบว่าทำไมคุณประยุทธ์ไม่มีสปิริตแบบเดียวกัน

รัฐบาลที่รัฐมนตรีหายไปเกือบ 1 ใน 7 ไม่มีทางที่จะไม่ปรับคณะรัฐมนตรี แต่ด้วยเหตุที่คุณประวิตร วงษ์สุวรรณ เกรงว่าจะถูกโจมตีเรื่องทำตัวเป็นนายกฯ แทนคุณประยุทธ์ รวมทั้งหลีกเลี่ยงที่จะเกิดความขัดแย้งกับพรรคร่วมรัฐบาล คุณประวิตรจึงปล่อยให้รัฐบาลขาดรัฐมนตรีจำนวนมากอย่างที่ไม่เคยมีในรัฐบาลอื่นเลย

แน่นอนว่าการไม่ปรับคณะรัฐมนตรีคือการให้เกียรติคุณประยุทธ์อย่างที่ควรทำ แต่ถ้าความสัมพันธ์ระหว่างคุณประยุทธ์กับคุณประวิตรแนบแน่นอย่างที่สร้างภาพ การปรับ ครม.ก็เป็นเรื่องเล็กๆ จนไม่ควรมีผลกระทบ และจริงๆ คุณประวิตรอาจลงชื่อปรับตามที่คุณประยุทธ์ต้องการได้ด้วยซ้ำไป

ผมเขียนไว้ตั้งแต่สองสัปดาห์ที่แล้วว่าคำสั่งพักงานคุณประยุทธ์จะทำให้สองนายพลเฒ่าแข่งกันลงพื้นที่อย่างที่เคยเกิดขึ้นปีที่แล้ว

และถึงแม้ตอนนี้ทั้งคุณประยุทธ์และคุณประวิตรจะทำอย่างที่ผมคาดไว้จริงๆ

แต่สิ่งที่เกิดขึ้นในรอบสองสัปดาห์นี้ถือว่ารุนแรงกว่าที่ปีที่แล้วมากเหลือเกิน

ขณะที่ศึกลงพื้นที่ระหว่างคุณประยุทธ์กับคุณประวิตรรอบที่แล้วเป็นการสลับกันลงพื้นที่แบบหักเหลี่ยมเฉือนคม ศึกสองพี่น้องรอบนี้กลับเป็นการแย่งกันลงพื้นที่แบบมียุทธศาสตร์ที่เอาให้ตายไปข้าง เพราะคุณประวิตรประกาศลงพื้นที่ทุกวันจันทร์ไม่มีหยุดอย่างที่ไม่มีใครคาดคิดมาก่อนเลย

ด้วยคำประกาศลงพื้นที่ทุกวันจันทร์ของคุณประวิตร คุณประยุทธ์ถูกบีบให้ไม่สามารถลงพื้นที่ในวันเดียวกันได้ต่อไป และเมื่อคำนึงว่าวันอังคารซึ่งเป็นวันประชุม ครม. คือวันของรักษาการนายกฯ ไปแล้ว โอกาสที่คุณประยุทธ์จะช่วงชิงพื้นที่ข่าวได้ย่อมเหลือเพียงวันพุธถึงศุกร์เท่านั้นเอง

เมื่อคุณประวิตรประกาศลงพื้นที่ดูปัญหาน้ำและปัญหาอื่นไปแล้วทุกวันจันทร์ คุณประยุทธ์จะลงพื้นที่ดูปัญหาเดียวกันในวันอื่นคงเป็นเรื่องตลก ทางออกของคุณประยุทธ์จึงได้แก่การลงพื้นที่เรื่องอื่นในวันอื่น แต่ปัญหาคือตำแหน่งรัฐมนตรีกลาโหมไม่เปิดทางให้คุณประยุทธ์มีทางเลือกมากพอ

ขณะที่คุณประวิตรในฐานะรักษาการนายกฯ มีอำนาจลงพื้นที่ประเด็นต่างๆ โดยไม่มีข้อจำกัด คุณประยุทธ์ในฐานะรัฐมนตรีกลาโหมกลับเหมือนจะมีประเด็นให้ลงพื้นที่ได้แค่ตรวจเยี่ยมกำลังพล หรือไม่อย่างนั้นก็ให้กำลังใจพลทหารที่ลอกท่อหรือกรอกกระสอบทรายเท่านั้นเอง

ถ้าคุณประยุทธ์ใช้เวลาในวิชาชีพทหารแบบทหารอาชีพมากกว่าทหารการเมือง คุณประยุทธ์ย่อมมองเห็นตำแหน่งรัฐมนตรีกลาโหมทำอะไรได้อีกเยอะ ตัวอย่างเช่น การลงพื้นที่สามจังหวัดภาคใต้ทั้งโดยไปแนวหน้าจริงๆ หรือนอนอยู่ในค่าย รวมทั้งสะสางปัญหาเด็กฝากบัญชีผีของกองทัพไทย

อย่างไรก็ดี การทำหน้าที่รัฐมนตรีกลาโหมแบบทหารอาชีพไม่มีทางเกิดในทหารที่เกี่ยวพันการเมืองระดับต่างๆ มากว่า 20 ปี คนที่รู้จักคุณประยุทธ์ดีทุกคนรู้ว่าคุณประยุทธ์ภูมิใจกับการแทบไม่ไปไหนนอกค่ายตั้งแต่เป็นแม่ทัพภาคที่ 1 ในปี 2549 จนเป็นไปไม่ได้ที่จะลงพื้นที่ภาคใต้อย่างจริงจัง

ถ้าเปรียบความสัมพันธ์ของคุณประวิตรกับคุณประยุทธ์เป็นการชกมวย คุณประวิตรก็คือฝ่ายที่ต้อนคุณประยุทธ์เข้ามุมจนแทบไม่มีทางออก ทางรอดคุณประยุทธ์เหลือแค่ลุ้นให้คุณประวิตรออกหมัดจนหมดแรงไปเอง หรือไม่ก็คือให้กรรมการเป่านกหวีดหมดการแข่งขันไวๆ ด้วยการตัดสินคดี 8 ปี

เป็นเรื่องไม่ปกติอย่างยิ่งที่จู่ๆ มีการปล่อยเอกสารซึ่งคุณมีชัย ฤชุพันธุ์ ยื่นให้ศาลรัฐธรรมนูญประกอบคดี 8 ปี ยิ่งกว่านั้นก็คือเป็นเอกสารที่ระบุให้นับอายุการดำรงตำแหน่งนายกฯ ของคุณประยุทธ์ตั้งแต่ปี 2560 ซึ่งเท่ากับบอกทางอ้อมว่าคุณประยุทธ์เป็นนายกฯ ได้ถึงปี 2568 หรือเป็นนายกฯ รวมกันจริงๆ 11 ปี

คนที่เกี่ยวข้องกับเอกสารนี้มีแค่คุณมีชัยกับศาลรัฐธรรมนูญ และเมื่อคำนึงถึงสภาพแวดล้อมทั้งมวล โอกาสที่เอกสารนี้จะหลุดจากศาลรัฐธรรมนูญนั้นมีความเป็นไปได้น้อยมาก

ส่วนจะหลุดจากใครจริงๆ ก็ไม่มี

ต้องยอมรับว่าวันที่ศาลรัฐธรรมนูญพักงานคุณประยุทธ์คือวันที่คนไทยมีความสุขที่สุดในหลายปี โพลหลายสำนักยืนยันว่าคนส่วนใหญ่ไม่อยากให้คุณประยุทธ์เป็นนายกฯ เกินกว่า 8 ปีต่อไปแล้ว

เอกสารหลุดจึงเป็นเหมือนการแตะเบรกไม่ให้คนไทยลิงโลดจนคิดว่าคุณประยุทธ์จะพ้นตำแหน่งนายกฯ จริงๆ

คุณมีชัยไม่ใช่ศาลรัฐธรรมนูญ และในการที่ศาลรัฐธรรมนูญจะฟังคุณมีชัยจนตัดสินแบบคุณมีชัย ศาลต้องมีคำอธิบายทางกฎหมายว่าทำไมศาลฟังคุณมีชัยกว่านักวิชาการหรือผู้พิพากษาที่ฝ่ายค้านเสนอชื่อ ซึ่งมีความเป็นไปได้ว่าคำอธิบายนี้อาจไม่ใช่ประเด็นทางกฎหมายที่มีผู้แสดงความเห็นช่วงที่ผ่านมา

เท่าที่มีแหล่งข่าวระบุมา ประเด็นที่ตุลาการใช้ในการพิจารณาคดี 8 ปี ไม่ใช่ประเด็นที่นักวิชาการหรือสื่อวิจารณ์และตอบโต้กันในช่วงที่ผ่านมา

แต่เป็นประเด็นที่ยังไม่มีใครพูดกันในขณะนี้ ซึ่งหมายความว่าข้อวิพากษ์ที่เป็นอยู่นั้นอาจไม่เกี่ยวข้องกับการพิจารณาคดีของศาลรัฐธรรมนูญเลย

ศาลรัฐธรรมนูญมักถูกกล่าวหาว่าตัดสินโดยไม่คำนึงถึงหลักประชาธิปไตย ต่อให้เป็นคดีที่นักวิชาการค้านมากมาย คำพิพากษาก็เป็นแบบที่ฝ่ายประชาธิปไตยไม่พอใจเสมอ ยิ่งในกรณีนี้ที่นักกฎหมายฝ่ายประชาธิปไตยพูดอ้อมๆ ว่าบิ๊กตู่อยู่ได้ถึงปี 2568 ก็ทำให้คำตัดสินมีโอกาสเป็นแบบคุณมีชัยพูดจริงๆ

แน่นอนว่าทั้งหมดนี้เป็นข่าวดีสำหรับคุณประยุทธ์ที่ต้องการเป็นนายกฯ เกิน 8 ปี

แต่ปัญหาคือการเปิดทางให้เป็นนายกฯ เกิน 8 ปี ไม่ได้หมายความว่าคุณประยุทธ์จะดำรงตำแหน่งได้ตามโอกาสที่เปิดขึ้น เพราะเส้นทางที่จะทำให้คุณประยุทธ์เกินกว่าที่กฎหมายกำหนดนั้นมีอุปสรรคมากเหลือเกิน

ถ้าคุณประยุทธ์สามารถยึดตำแหน่งนายกฯ ได้จนยุบสภาในปี 2566 ตามแผนที่เคยวางไว้จริงๆ คุณประยุทธ์จะเข้าสู่การเลือกตั้งครั้งหน้าโดยมีระยะเวลาเป็นนายกฯ ถึงปี 2568 อีกแค่ 2 ปีเท่านั้น ซึ่งไม่มีทางที่พรรคการเมืองจะหาเสียงโดยชูคุณประยุทธ์เป็นนายกฯ ในระยะเวลาแค่นี้อย่างแน่นอน

ต่อให้มีพรรคการเมืองไหนกล้าพอจะเสนอให้คุณประยุทธ์เป็นนายกฯ แค่ 2 ปี โอกาสที่พรรคการเมืองนั้นจะชนะการเลือกตั้งก็มีน้อยมาก เพราะไม่มี ส.ส.คนไหนอยากสังกัดพรรคที่อีก 2 ปีก็สูญเสียตำแหน่งนายกฯ แน่ๆ ไม่ต้องพูดถึงสภาพการเมืองของประเทศที่จะไม่มีความมั่นคงอะไรเลย

การขับเคี่ยวระหว่างคุณประวิตรกับคุณประยุทธ์เป็นหลักฐานว่าสองคนนี้มีรอยร้าวจนยากจะเป็นทองแผ่นเดียวกัน

ยิ่งถ้าหากคุณธรรมนัสกลับมาที่พรรคพลังประชารัฐจริงๆ แทนที่จะไปอีกพรรคใหญ่อย่างที่เป็นข่าว สัญญาณว่าคุณประวิตรพร้อมแตกหักกับคุณประยุทธ์ก็จะชัดเจนอย่างสมบูรณ์

แน่นอนว่ามีพรรคการเมืองจำนวนหนึ่งพร้อมชูคุณประยุทธ์เป็นนายกฯ ต่อไป

แต่พรรคทั้งหมดนี้แทบไม่มีโอกาสได้ ส.ส.ในการเลือกตั้งระบบหาร 100 และยิ่งยากขึ้นที่จะมี ส.ส.มากถึง 25 คนในการเสนอชื่อคุณประยุทธ์เป็นนายกฯ

โอกาสในการเป็นนายกฯ ของคุณประยุทธ์ถึงปี 2568 จึงริบหรี่เหลือเกิน

ทางเดียวที่คุณประยุทธ์จะเข้าใกล้ตำแหน่งนายกฯ หลังปี 2566 คือศาลรัฐธรรมนูญต้องตัดสินให้นับวาระเป็นนายกฯ ของคุณประยุทธ์จากการเลือกตั้ง 2562 ซึ่งจะทำให้คุณประยุทธ์มีสิทธิเป็นนายกฯ ถึงปี 2570 หรือเท่ากับดำรงตำแหน่งนี้ 13 ปีถ้านับจากปี 2557

แต่คำตัดสินนี้จะทำให้ประเทศลุกเป็นไฟ

 

แปดปีของคุณประยุทธ์ทำให้ความอดทนของประชาชนต่อคุณประยุทธ์สิ้นสุดไปนานแล้ว วันไหนที่มีคำตัดสินให้คุณประยุทธ์เป็นนายกฯ ได้ถึงปี 2570 วันนั้นประตูบานแรกของการต่อต้านคุณประยุทธ์รอบใหม่จะเริ่มต้นขึ้นทันที

เอกสารหลุดของคุณมีชัยเป็นชนวนใหม่ของความขัดแย้งทางการเมือง

และถ้าเอกสารหลุดเป็นส่วนหนึ่งของการเปิดทางให้คุณประยุทธ์เป็นนายกฯ ถึงปี 2570 อนาคตของประเทศก็คงเดินหน้าสู่กลียุคอย่างแทบไม่มีทางเป็นอื่นไปได้เลย

อย่าปล่อยให้คุณประยุทธ์สืบทอดอำนาจด้วยการสร้างประเทศสู่กลียุคอย่างที่กำลังจะเป็น