เมตาเวิร์ส ในแบบฉบับ The Sims/Cool Tech จิตต์สุภา ฉิน

จิตต์สุภา ฉินFacebook.com/JitsupaChin

Cool Tech

จิตต์สุภา ฉิน

@Sue_Ching

Facebook.com/JitsupaChin

 

เมตาเวิร์ส

ในแบบฉบับ The Sims

 

เจเนอเรชั่นที่เติบโตมากับเกม The Sims เกมจำลองชีวิตซึ่งเป็นหนึ่งในซีรีส์วิดีโอเกมที่ขายดีที่สุดตลอดกาลเกมหนึ่งอย่างฉันมักจะอดไม่ได้ที่จะเชื่อมโยงกิจกรรมบางอย่างของชีวิตเข้ากับเนื้อหาในวิดีโอเกมอยู่เรื่อยๆ แม้ว่าฉันจะไม่ได้เปิดเกมเล่นมานานหลายปีแล้ว

เวลาต้องเรียนรู้ทักษะใหม่ๆ อย่างการทำอาหาร หรือการเขียนโค้ดคอมพิวเตอร์ ฉันก็มักจะแว้บนึกไปถึงว่านี่ถ้าหากฉันเป็นตัวละครในเกม The Sims ในจังหวะที่เริ่มลงมือเรียนรู้ทักษะนั้นๆ ฉันก็คงมีแท่งบอกพลังการเรียนรู้โผล่ขึ้นมาอยู่เหนือหัว และแท่งนั้นจะค่อยๆ ถูกเติมด้วยสีเขียวในระหว่างที่ฉันมุ่งมั่นฝึกฝนอย่างขะมักเขม้น

แปลกแต่จริง ภาพจินตนาการแบบนี้ทำให้ฉันมีความมุ่งมั่นในการเรียนรู้อะไรใหม่ๆ เพิ่มขึ้น ท้อถอยน้อยลงเพราะเข้าใจว่ากระบวนการเรียนรู้ของคนเรามันเริ่มต้นจากการที่แท่งนั้นว่างเปล่าหรือมีอยู่เพียงน้อยนิดเสมอ

หรืออย่างเวลาฉันมองไปรอบๆ ห้องนั่งเล่นที่ยังโหรงเหรงในบ้านที่เพิ่งย้ายเข้ามาอยู่ได้ไม่กี่เดือน ฉันก็จะคิดสนุกๆ ว่านี่ถ้าหากมีแถบเมนูขึ้นมาให้ฉันเลือกของตกแต่ง เฟอร์นิเจอร์ หรือภาพวาดสวยๆ มาลองวางเอาไว้ตามมุมต่างๆ ของบ้าน ชอบอันไหนก็กดคลิกซื้อแล้วให้มันหักเงินไปจากบัญชีที่มุมจอ

การแต่งบ้านก็คงสนุกและเหนื่อยน้อยกว่านี้เยอะ

เกมอย่าง The Sims ที่ให้เราได้ย้ายไปใช้ชีวิตเสมือนจริงในโลกที่ไม่มีอะไรจับต้องได้แบบนี้มีพื้นฐานเข้าข่ายคอนเซ็ปต์เมตาเวิร์สที่เราพูดถึงกันเป็นอย่างมากในช่วงปีสองปีที่ผ่านมา แทนที่เราจะรับบทเป็นพระเจ้าที่คอยชักใยทุกชีวิตในเกม เราอาจจะลองคิดว่าตัวละครในเกมก็คืออวตารในโลกเสมือนจริงของเรา เราทำกิจวัตรแทบจะเหมือนโลกความเป็นจริงทุกอย่าง ตื่นนอน อาบน้ำ กินข้าว ออกไปทำงาน ออกเดต ตกหลุมรัก แก่ และตาย ผู้เล่นหลายๆ คนน่าจะพบว่าเล่นไปเล่นมาเราก็ผูกพันกับตัวละครของเราจนในบางครั้งก็รู้สึกเหมือนเราได้เข้าไปใช้ชีวิตเสมือนจริงนั้นเสียเอง

อันที่จริงแล้วแฟนๆ เกม The Sims ที่กำลังตั้งหน้าตั้งตาคอยภาคใหม่ The Sims 5 ก็แอบลุ้นกันตัวโก่งว่าค่าย Electronic Arts จะเปิดตัวภาคนี้ออกมาให้เป็นแบบเมตาเวิร์สด้วยหรือเปล่า

นับตั้งแต่ภาคแรกมาจนถึงภาค 4 ในปัจจุบันนี้ ค่ายผู้ผลิตเกม The Sims ก็ได้มีการพัฒนาปรับปรุงให้เกมมีความสมจริงมากขึ้นเรื่อยๆ ใส่ตัวเลือกต่างๆ เพิ่มแพ็กใหม่ๆ ให้ตัวละครใช้ชีวิตได้ใกล้เคียงกับความเป็นจริงมากที่สุด อย่างการเพิ่มอาชีพให้หลากหลาย เพิ่มวงสังคมให้ซิมมีกิจกรรมทำร่วมกันได้มากขึ้น ใส่สัตว์เลี้ยงเข้าไปให้ซิมเลี้ยง ฯลฯ

ฉันรู้สึกว่าเกมพยายามทำให้ผู้เล่นได้สัมผัสกับชีวิตในอีกจักรวาลหนึ่งที่ตัวผู้เล่นเองอาจจะรู้สึกว่าคงไม่มีทางทำให้เป็นจริงขึ้นมาได้ในชีวิตนี้ อย่างเช่น การใส่แพ็กเสริมที่เพิ่มตัวเลือกของการเป็นเซเลบบริตี้ ตัวละครจะต้องทำทุกหนทางที่จะไต่เต้าขึ้นมาเป็นเซเลบในแวดวงต่างๆ และพอได้สถานะเซเลบมาครองแล้วชีวิตเสมือนจริงนั้นก็จะเฟื่องฟูหรูหราขึ้นด้วยสิทธิพิเศษต่างๆ ที่ถาโถมเข้ามา แพ็กเสริมชีวิตบนเกาะให้ตัวละครกลับไปหาธรรมชาติและความเรียบง่าย

มาจนถึงแพ็กล่าสุดที่ให้ผู้เล่นได้กลับไปใช้ชีวิตในโรงเรียนมัธยมอีกครั้ง

 

ฉันได้อ่านบทความหนึ่งที่ผู้เขียนเป็นนักเรียนที่เพิ่งจบการศึกษาระดับชั้นมัธยมไปหมาดๆ เขียนเล่าประสบการณ์ว่าเกม The Sims 4 ช่วยให้เธอได้ใช้ชีวิตการเป็นนักเรียนมัธยมในแบบที่เธอไม่ได้ทำในชีวิตจริง โรคโควิด-19 ที่นำไปสู่การล็อกดาวน์อันยาวนานทำให้เธอจบการศึกษาด้วยการเรียนออนไลน์ และเข้าร่วมพิธีจบการศึกษาอันแบนเรียบผ่านโปรแกรม Zoom

เด็กผู้หญิงคนนี้เล่าว่าเธอใฝ่ฝันอยากจะมีประสบการณ์การเรียนจบมัธยมในแบบที่เธอได้เห็นมาตลอด อย่างการฉลองความสำเร็จกับเพื่อนและครอบครัว การได้เลือกชุดสวยๆ ไปงานพรอม การไปเต้นรำและถ่ายภาพกับเพื่อนสนิทหรือคู่เดต ทั้งหมดนี้เป็นสิ่งที่ถูกพรากไปจากเธออย่างน่าเสียดาย ทำให้การเรียนจบมัธยมที่ควรจะเป็นอีเวนต์ใหญ่ในชีวิตกลายเป็นความทรงจำที่ประกอบไปด้วยภาพจากการประชุมออนไลน์เท่านั้น

เธอสร้างความทรงจำใหม่ด้วยการแบบซิมให้ใกล้เคียงตัวเองมากที่สุดแล้วย้ายไปใช้ชีวิตนักเรียนมัธยมปลายอย่างเต็มที่อยู่บนนั้น

เธอคว้ารางวัลป๊อบปูลาร์ประจำค่ำคืนงานพรอมแบบเสมือนจริงมาครองได้สำเร็จโดยไม่ต้องรับมือกับความเจ็บปวดของฮอร์โมนอันว้าวุ่น การถูกรังแก หรือการบ้านกองโตเลย

 

การที่ The Sims พยายามจำลองทุกแง่มุมของการใช้ชีวิตมาอยู่ในเกมให้ได้มากที่สุดก็ทำให้เกมต้องรับมือกับประเด็นทางสังคมต่างๆ ที่เกิดขึ้นในโลกความเป็นจริงด้วย เพราะผู้เล่นก็คาดหวังว่าสังคมที่มีแนวความคิดก้าวหน้าขึ้นเรื่อยๆ ก็ควรต้องถูกสะท้อนเข้าไปอยู่ในเกม The Sims ด้วยเหมือนกัน

The Sims ปรับตัวด้วยการใส่ฟีเจอร์ใหม่ๆ เข้าไปในเกม อย่างเช่นการให้ผู้เล่นเลือกเพศวิถีที่สะท้อนความเป็นตัวเองมากที่สุดได้

ผู้เล่นสามารถเลือกติ๊กได้ว่าจะให้ซิมของตัวเองสนใจเพศไหน จะเลือกติ๊กทั้งหมด หรือไม่ติ๊กอันไหนเลยก็ได้ และลงรายละเอียดไปถึงขั้นว่าต้องการให้ซิมยังค้นหารสนิยมของตัวเองไปเรื่อยๆ หรือว่าแน่วแน่ไปเลยว่าชอบแบบนี้

ส่วนในประเด็นขัดแย้งบางประเด็นที่ทางค่ายเกมยังไม่ได้ประกาศจุดยืนให้แน่ชัด อย่างเช่น การทำแท้งเสรี ก็จะมีนักพัฒนาที่เป็น Third-party เข้ามาช่วยเสริมทางเลือกให้แทนโดยปล่อยออกมาในรูปแบบที่เรียกว่า mod เพิ่มฟีเจอร์อย่างไม่เป็นทางการให้ผู้เล่นที่ต้องการดาวน์โหลดไปลงในเกมได้ มีการระบุรายละเอียดเอาไว้ว่าจะต้องเสียค่าใช้จ่ายเท่าไหร่ในการทำแท้งในเกม และกำหนดกฎเกณฑ์เอาไว้ด้วยว่าจะต้องทำภายในไตรมาสที่สองของการตั้งครรภ์เท่านั้น

ฉันคิดว่า The Sims น่าจะเป็นประตูสู่เมตาเวิร์สที่สามารถชักจูงคนให้เข้าไปสัมผัสโลกเสมือนจริงได้ด้วยทางเลือกที่ใกล้เคียงกับการใช้ชีวิตจริงๆ มากที่สุด ในฐานะคนที่สนใจเทคโนโลยีฉันก็อยากรู้ว่าถ้าเราเอาอวตารของเราไปใช้ชีวิตอยู่ในนั้นจริงๆ จะเกิดอะไรขึ้นบ้าง มันจะเปลี่ยนปฏิสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์ การตลาด การเงินและการลุงทุนไปในทิศทางไหน

แต่ในฐานะของคนเล่นเกมฉันก็หวังว่า The Sims จะยังคงเป็นพื้นที่ให้ฉันได้หลบไปใช้ชีวิตในจักรวาลคู่ขนานที่ผลลัพธ์ของมันไม่ว่าจะร้ายหรือดีก็ไม่ต้องมายุ่งเกี่ยวกับชีวิตจริงของฉันแบบนี้ต่อไปอีกนานๆ