โผ ‘เซอร์ไพรส์’ ศึก ‘บิ๊กบี้-ต่อ-โต’ สยายปีก ‘คอแดง’ ตท.27-28 รอมชอม? ‘ฉลามโต้ง’ สู้ ป.ทัพฟ้า ชี้ชะตา ‘ต้น-ป้อม’/รายงานพิเศษ

รายงานพิเศษ

 

โผ ‘เซอร์ไพรส์’

ศึก ‘บิ๊กบี้-ต่อ-โต’

สยายปีก ‘คอแดง’

ตท.27-28 รอมชอม?

‘ฉลามโต้ง’ สู้

ป.ทัพฟ้า ชี้ชะตา ‘ต้น-ป้อม’

 

บัญชีรายชื่อแต่งตั้งโยกย้ายชั้นนายพล หรือโผทหาร เดิมกำหนดให้ ผบ.เหล่าทัพ ส่งให้กลาโหมแล้ว 16 สิงหาคมที่ผ่านมา

โดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม มอบหมายให้บิ๊กช้าง พล.อ.ชัยชาญ ช้างมงคล รมช.กลาโหม เป็นคนเจรจากับ ผบ.เหล่าทัพ เขย่าโผให้เข้าที่ ก่อนจัดนัดถกบอร์ด 7 เสือกลาโหม ก่อนประชุมสภากลาโหม 25 สิงหาคมนี้

ในปีนี้ เป็นอีกปีที่มีความพยายามจากกลาโหม ที่จะปรับเปลี่ยนธรรมเนียมปฏิบัติของโผทหาร จากที่ ผบ.เหล่าทัพต้องส่งโผให้ ผบ.ทหารสูงสุดก่อน แล้ว ผบ.ทหารสูงสุดจึงรวบรวมส่งให้กลาโหมนั้น ก็จะเปลี่ยนเป็นให้ ผบ.เหล่าทัพส่งตรงให้กลาโหมเลย

โดยในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา ในยุค พล.อ.ประยุทธ์เป็น รมว.กลาโหม มีการริเริ่มเปลี่ยนธรรมเนียมปฏิบัตินี้ แต่ ผบ.เหล่าทัพยังเกรงใจ ผบ.ทหารสูงสุด จึงทำให้มีการส่งทั้งที่ ผบ.ทหารสูงสุด และกลาโหมด้วยเลย

เพราะตามเทรดดิชั่นที่ ผบ.ทหารสูงสุด ถือเป็นผู้บังคับบัญชา จึงทำให้ ผบ.เหล่าทัพยังเกรงใจและให้เกียรติ ผบ.ทหารสูงสุด จึงทำให้มีการส่งให้ ผบ.ทหารสูงสุดก่อน ก็มี หรือบางเหล่าทัพแจ้งว่ายังไม่เสร็จ ก็ยื้อเวลาเพื่อส่งตรงให้กลาโหมเลย

เช่นครั้งนี้ เดิมบิ๊กแก้ว พล.อ.เฉลิมพล ศรีสวัสดิ์ ผบ.ทหารสูงสุด กำหนดให้ส่งโผก่อน 16 สิงหาคม เพื่อส่งกลาโหมตามกำหนด เพื่อป้องกันโผรั่ว

แต่ไปๆ มาๆ ผบ.เหล่าทัพ เลือกที่จะยื้อโผไว้ให้นานที่สุด จนกว่านายกฯ จะนัดวันประชุม 7 เสือกลาโหม ถึงขนาดที่ พล.อ.ณรงค์พันธ์บอกเมื่อ 17 สิงหาคม ว่า ยังไม่ส่งโผ ทบ. เพราะกลาโหมยังไม่กำหนดมา ที่สะท้อนว่า ผบ.เหล่าทัพ กอดโผไว้

ที่น่าสังเกตคือความเงียบงันของ พล.อ.ประยุทธ์ ต่อเรื่องการจัดโผทหาร ที่เป็นโผส่งท้ายรัฐบาลและตัวเอง เพราะไม่รู้จะได้กลับมาเป็นนายกฯ อีกสมัยหรือไม่ จึงทำให้ถูกจับตามอง อาจมีเซอร์ไพรส์ในบางตำแหน่ง

โดยเฉพาะที่กองทัพบก ที่เป็นเหล่าเดียวที่ พล.อ.ประยุทธ์ซึ่งเป็นอดีตทหารบก ติดตามอย่างใกล้ชิด ดูไปถึงระดับผู้บัญชาการกองพลเลยด้วยซ้ำ

เพราะมีความเคลื่อนไหวที่เป็นข้อสังเกตระหว่างบิ๊กบี้ พล.อ.ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ ผบ.ทบ. กับบิ๊กต่อ พล.อ.เจริญชัย หินเธาว์ ผช.ผบ.ทบ. ที่จ่อรอคิวเป็น ผบ.ทบ.อยู่ แต่ทว่า พล.อ.ณรงค์พันธ์เกษียณกันยายน 2566

จนเกิดกระแสข่าวการขยับ พล.อ.ณรงค์พันธ์ให้ไปเป็นปลัดกลาโหมบ้าง ผบ.ทหารสูงสุดบ้าง เพื่อเปิดทางให้ พล.อ.เจริญชัย น้องรักสายทหารเสือฯ ของนายกฯ ขึ้นเป็น ผบ.ทบ.ในโผนี้เลย ไม่ต้องรอปีหน้า เผื่อ พล.อ.ประยุทธ์ไม่ได้กลับมา

แต่ก็ไม่ใช่เรื่องง่ายเพราะ พล.อ.ณรงค์พันธ์แม้จะไม่ใช่สายตรงนายกฯ แต่ก็มี “แบ๊กอัพ” ที่แข็งแกร่ง และเหนือกว่านายกฯ อีกทั้งไม่ได้มีความผิด เหตุใดจะต้องถูกย้ายไปเป็นปลัดกลาโหม

เพราะหากจะอ้างว่าเป็น ผบ.เหล่าทัพที่อาวุโส เพราะนั่งมา 2 ปีแล้ว ควรต้องขยับ เพราะ พล.อ.เฉลิมพลก็เป็น ผบ.ทหารสูงสุดมา 2 ปีแล้ว เหมาะที่จะขยับเป็นปลัดกลาโหม มากกว่าหรือไม่ จนเคยเกิดสูตร “สไลด์” ย้ายทางข้าง คือให้ พล.อ.เฉลิมพลไปเป็นปลัดกลาโหม แถมเป็นทหารคอแดงอีกด้วย แล้วให้ พล.อ.ณรงค์พันธ์ขยับขึ้นเป็น ผบ.ทหารสูงสุด

แต่ธรรมเนียมปฏิบัติที่มีมาช้านานคือ เก้าอี้ ผบ.ทบ. ห้ามแตะ มักจะเป็นไปจนเกษียณ ในอดีต รัฐบาลไหนย้าย ผบ.ทบ. เป็นอันเจอรัฐประหาร แต่ทว่า นี่เป็นรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ อดีตหัวหน้าคณะรัฐประหาร ที่แปลงร่างผ่านการเลือกตั้ง โดยรัฐธรรมนูญที่ออกแบบมาโดยเฉพาะ มาเป็นนายกฯ จึงยังไม่มี ผบ.ทบ.คนไหนที่จะกล้าปฏิวัติ

จึงกลายเป็นการวัดพลังกันของแบ๊กอัพที่ไม่ธรรมดาของ พล.อ.ณรงค์พันธ์ กับ พล.อ.ประยุทธ์ และกองหนุน สู้กันไปสู้กันมา หาก พล.อ.เจริญชัยพ่ายศึก อาจกลายเป็นคนที่ต้องถูกขยับเองหรือไม่

แม้ก่อนหน้านี้จะมีสัญญาณดีๆ ที่ พล.อ.เจริญชัยได้ปฏิบัติหน้าที่สำคัญ โดย พล.อ.ณรงค์พันธ์หารือเรื่องการจัดวางตำแหน่งหลัก

รวมทั้งการให้ พล.อ.เจริญชัยเป็นตัวแทนในการร่วมคณะ รมช.กลาโหม ปลัดกลาโหม ผบ.ทหารสูงสุด และ ผบ.เหล่าทัพ ตบเท้าอวยพรวันเกิดบิ๊กป้อม พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ พี่ใหญ่ ทั้งๆ ที่ ผบ.เหล่าทัพมากันพร้อมหน้า แต่ พล.อ.ณรงค์พันธ์ไม่มา อาจเพราะเห็นว่า พล.อ.เจริญชัยเป็นทหารเสือฯ และบูรพาพยัคฆ์ เช่นเดียวกับ พล.อ.ประวิตร เสมือนเปิดทางให้ก็ตาม

แต่ทว่า ในความเป็นจริงแล้ว พล.อ.ณรงค์พันธ์ยังแข็งแกร่ง คนที่จะสะเทือน อาจกลายเป็น พล.อ.เจริญชัยเสียเอง ที่อาจถูกส่งข้ามไปเสียบเป็นปลัดกลาโหมเลยก็เป็นได้ ตัดหน้าบิ๊กหนุ่ม พล.อ.สนิธชนก สังขจันทร์ รองปลัดกลาโหม สายตรงบิ๊กป้อม ที่เป็นเต็งหนึ่ง แต่เป็นรุ่นน้อง ตท.24 และมีอายุราชการถึงกันยายน 2568 จึงจะให้รอไปก่อน เอาเก้าอี้ปลัดกลาโหมมารองรับการโยกย้ายที่ไม่ลงตัวเสียก่อน

งานนี้ต้องมองหมาก 2 ชั้น เพราะสำหรับ พล.อ.เจริญชัย สายตรงบิ๊กตู่แล้ว หากโผนี้ไม่ได้เป็น ผบ.ทบ. แต่ต้องรอโยกย้ายปลายปีหน้า แล้ว พล.อ.ประยุทธ์ไม่ได้เป็นนายกฯ ก็เสี่ยงที่จะพลาด เพราะมีคู่แข่งสำคัญที่จะมาชิง ผบ.ทบ.อีกคน อย่างบิ๊กโต พล.ท.สุชสรรค์ หนองบัวล่าง แม่ทัพภาคที่ 1 เพื่อนร่วมรุ่น ตท.23 ที่เกษียณกันยายน 2567 พร้อมกัน ที่คาดว่าโผนี้จะขึ้นมาเป็น 5 เสือ ทบ. และอาจได้เป็น เสธ.ทบ. คุมหัวใจสำคัญ ทบ. และเป็นเลขาธิการ กอ.รมน.ด้วย

สมมุติฐานหนึ่ง กำลังเกิดขึ้นมาใน ทบ. ที่เชื่อมโยงการจัดโผทหารนี้กับสถานการณ์ทางการเมือง หลังการเลือกตั้ง หาก พล.อ.ประยุทธ์ไม่ได้กลับมาเป็นนายกฯ อีกสมัย แต่เปลี่ยนขั้วอำนาจเป็นพรรคเพื่อไทย หรือแม้แต่หากเรื่อง “บิ๊กดีล” ระหว่าง พล.อ.ประวิตร และพรรคพลังประชารัฐ กับพรรคเพื่อไทยเป็นจริง

ย่อมมีความวุ่นวายตามมา จากการที่ พล.อ.ประยุทธ์ไม่ได้เป็นนายกฯ อีกสมัย กลุ่มมวลชน และกองเชียร์จะปลุกกระแสต้าน มีม็อบออกมายึดถนนอีก เช่น กลุ่ม กปปส.เดิม

ดังนั้น ผบ.ทบ.ในเวลานั้น จะต้องรับภาระหนัก และอาจถึงขั้นต้องใช้กำลังทหาร และอาจลุกลามไปสู่การจลาจล และอาจเกิดคำถามถึงขั้นต้องยึดอำนาจอีกครั้ง หรือไม่

จึงเป็นที่จับตามองว่า พล.อ.ประยุทธ์อาจจะมองว่า พล.อ.ณรงค์พันธ์อาจจะไม่เหมาะกับสถานการณ์ที่จะเกิดขึ้นในเวลานั้น และอาจมองว่า พล.อ.เจริญชัย หรือแม้แต่ พล.ท.สุขสรรค์ อาจจะเหมาะสมกว่า หรือไม่

เพราะหากในที่สุด โผนี้ไปจบลงที่ พล.อ.เจริญชัยต้องถูกโยกไปเป็นปลัดกลาโหม นั่นหมายถึงการเปิดทางให้ พล.ท.สุขสรรค์ ที่ขึ้นมาเป็น 5 เสือ ทบ. และกลายเป็นแคนดิเดต ผบ.ทบ.โดยทันที และเป็นนายทหารสายบูรพาพยัคฆ์คอแดง ที่ถูกทำนายทายทักเรื่องดวงชะตาว่าจะขึ้นถึง ผบ.ทบ.เลยทีเดียว

พล.อ.เจริญชัย หินเธาว์,พล.อ.ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้

แต่ทั้งหมดนี้เป็นแค่กระแสข่าวลือที่เกิดจากการคาดการณ์ และการสนับสนุนของกองเชียร์ และเพื่อนร่วมรุ่น เพื่อนใครเพื่อนมัน เตรียมทหาร 22 ก็เชียร์ พล.อ.ณรงค์พันธ์ให้เป็น ผบ.ทบ.ต่อจนเกษียณปีหน้า 2566

ส่วน ตท.23 ก็หนุนให้ พล.อ.เจริญชัยขึ้น ผบ.ทบ.เลยในโผนี้

ทว่า ยังไม่มีสัญญาณใดจาก พล.อ.ประยุทธ์ถึง ผบ.เหล่าทัพ หรือที่ผ่าน พล.อ.ชัยชาญมา บัญชีรายชื่อโยกย้ายที่ส่งมาให้กลาโหม จึงยังเป็นโผที่ไม่มีการขยับ พล.อ.เฉลิมพล หรือ พล.อ.ณรงค์พันธ์

แต่เป็นการจัดโผตามธรรมเนียม ที่คาดว่า พล.อ.เจริญชัยจะขึ้นเป็นรอง ผบ.ทบ. เพื่อครองอาวุโส จ่อคิวไว้ก่อน เพื่อเตรียมเป็น ผบ.ทบ.ในตุลาคม 2566

เพราะถึงอย่างไร เก้าอี้ปลัดกลาโหม เสมือนถูกจองให้ พล.อ.สนิธชนก แม้จะเป็น ตท.24 เกษียณ 2568 จะเป็นน้องเล็กสุดของ ผบ.เหล่าทัพก็ตาม แต่เป็นสายตรงทั้งบิ๊กป้อม บิ๊กตู่ แถมมีแผง ตท.20 หนุน ทั้งบิ๊กหน่อย พล.อ.วรเกียรติ รัตนานนท์ ปลัดกลาโหม และยังมี พล.อ.ณัฐ อินทรเจริญ อดีตปลัดกลาโหม ลูกรักบิ๊กป้อม ที่เคยนั่งยาว 3 ปีมาแล้วเหมือนกัน หนุนเพราะถึงอย่างไรกลาโหมจะยังเป็นอาณาจักรของสายตรง 2 ป.

แต่ที่มีการมองข้ามช็อตคือ ในโยกย้ายตุลาคมปีหน้า พล.อ.เจริญชัยจะชิง ผบ.ทบ.กับคนดวงแรงที่เด็ดขาดอย่าง พล.ท.สุขสรรค์ แม่ทัพภาคที่ 1 ที่โผนี้จะขึ้นมาเป็น 5 เสือ ทบ.

ที่สำคัญ สายสัมพันธ์ระหว่าง พล.อ.ณรงค์พันธ์ กับ พล.ท.สุขสรรค์ น่าจะดีกว่า กับ พล.อ.เจริญชัย โดยเฉพาะช่วงเขย่าเก้าอี้บิ๊กบี้ แม้ พล.อ.เจริญชัยจะไม่เกี่ยว แต่ ตท.22 รุ่นบิ๊กบี้ก็อาจจะเล็งมาที่ ตท.23 เพื่อนบิ๊กต่อ

จนเกิดสูตรการโยกย้ายในปีหน้า ที่ว่า หาก พล.อ.ณรงคฺพันธ์และบรรดาคีย์แมนในกองทัพและนอกกองทัพ ตกลงใจให้ พล.ท.สุขสรรค์เป็น ผบ.ทบ. ก็ต้องส่ง พล.อ.เจริญชัย จากรอง ผบ.ทบ. ไปเป็น ผบ.ทหารสูงสุด ตัดหน้าบิ๊กอ๊อบ พล.อ.ทรงวิทย์ หนุนภักดี ที่โผนี้อาจจะข้ามจาก ทบ. ไปเป็นเสนาธิการทหารคอแดง เพื่อหวังจ่อขึ้น ผบ.ทหารสูงสุดคอแดง

ตอนนั้น กองทัพไทยก็คงจะเข้มข้น แต่เพราะ พล.อ.เจริญชัยเป็นรุ่นพี่ ตท.23 เกษียณก่อนในปี 2567 ส่วน พล.อ.ทรงวิทย์ เทียบ ตท.24 และเกษียณ 2568 ก็รอเป็น ผบ.ทหารสูงสุดต่อได้อีก 1 ปี

พลตรี อมฤต บุญสุยา,พลโท ธราพงษ์ มะละคำ,พลโท สุขสรรค์ หนองบัวล่าง

 

แต่เหล่านี้ล้วนเป็นแค่การคาดการณ์เท่านั้น เพราะต้องรอดูโฉมหน้ากองทัพในโผนี้ รวมทั้งผลการเลือกตั้งในปี 2566 และใครจะเป็นนายกฯ และ รมว.กลาโหม

แม้ปัญหาทหารคอเขียว กับทหารคอแดง คุกรุ่นที่ บก.ทัพไทย เพราะทหารคอเขียวคนในจะไม่ได้ขึ้นเป็น ผบ.ทหารสูงสุดอีกแล้ว เพราะมี พล.อ.ทรงวิทย์มาจ่อ แถมยังมีบิ๊กบุ๋ม พล.อ.สุวิทย์ เกตุศรี ทหารม้าคอแดง เป็นเต็ง 2 รออีกคน ทหารคอเขียวอย่างบิ๊กจ่อย พล.อ.ธิติชัย เทียนทอง รอง เสธ.ทหาร คงต้องหลบทางให้ทหารคอแดง

แต่ที่ ทบ. ที่กองทัพภาคที่ 1 ทหารคอเขียวก็ต้องหลบทางให้ทหารคอแดง เพราะในระดับรองแม่ทัพภาคที่ 1 นั้น คาดว่าจะเป็นทหารคอแดงทั้ง 3 คน แต่แชร์อำนาจกันได้ลงตัว ระหว่าง ตท.27 และ ตท.28 ที่ล้วนมีแบ๊กอัพสายแข็งแกร่งนอกกองทัพ

คาดว่า บิ๊กใหญ่ พล.ต.อมฤต บุญสุยา (ตท.27) ผบ.พล.ร.2 รอ. อดีตทหารเสือราชินี น้องรักบิ๊กตู่ และบิ๊กตั้ง พล.ต.ธวัชชัย ตั้งพิทักษ์กุล (ตท.27) ผบ.พล.ร.11 จากวงศ์เทวัญคอแดง และมี ตท.28 สอดแทรกขึ้นมา 1 เก้าอี้ คือ บิ๊กไก่ พล.ต.วรยส เหลืองสุวรรณ ผบ.พล.1 รอ. ที่เป็น “ทหารคอแดงวงใน” เพราะถูกวางตัวจากในรุ่น ให้ชิง ผบ.ทบ. กับ ตท.27

เพราะ ตท.27 และแบ๊กอัพนอกกองทัพ มีการวางตัว พล.ต.อมฤต สายตรงบิ๊กตู่ ให้ขึ้นแม่ทัพภาคที่ 1 และเป็น ผบ.ทบ.ในอนาคต โดยมีอายุราชการถึงกันยายน 2571 พร้อมกับ พล.ต.วรยส แกนนำรุ่น

ดังนั้น ระหว่าง พล.ต.อมฤต ตท.27 ทหารเสือคอแดง กับ พล.ต.วรยส ตท.28 วงศ์เทวัญคอแดง จะมีแค่คนเดียวเท่านั้นที่ได้เป็น ผบ.ทบ.

พลตรี ขิษณุพงศ์ รอดศิริ กับ พลตรี พนา แคล้วปลอดทุกข์

พล.ต.วรยส ถือเป็นแกนนำรุ่น ใกล้ชิดกับแกนนำรุ่นที่มีบารมีนอกกองทัพ รวมทั้ง เสธ.เก๋ พล.ต.จักรชัย ศรีคชา ผู้ช่วย ผบ.รร.จิตอาสาฯ

ขณะที่ พล.ต.อมฤต น้องรักนายกฯ ก็เป็นน้องรักของบิ๊กแดง พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ อดีต ผบ.ทบ. และรองราชเลขาธิการด้วย

โดยที่ ตท.27 ก็ยังมี พล.ต.ธวัชชัย ที่ในโผนี้จะขึ้นมาเป็นรองแม่ทัพภาคที่ 1 ที่รอรับไม้ต่อเพราะเกษียณกันยายน 2572 หาก ตท.27 กับ ตท.28 เจรจารอมชอมกันได้ ก็ต่อด้วย ผบ.กอล์ฟ พล.ต.สราวุธ ไชยสิทธิ์ ผบ.มทบ.11 ที่โผนี้จะขยับมาเป็น ผบ.พล.ร.2 รอ. ที่เกษียณ 2573

อย่างน้อย การจัดโผระดับรองแม่ทัพภาคที่ 1 ในโผนี้ ก็มีสัญญาณรอมชอมของ 2 รุ่นนี้ ที่ทำให้ พล.ต.บรรยง ทองน่วม ผบ.พล.ร.9 ที่เป็นทหารคอเขียว พลังน้อยกว่า แม้มีผลงานเพียบ ก็ต้องหลบทางให้ เช่นเดียวกับบิ๊กรุ่ง พล.ต.ชิษณุพงษ์ รอดศิริ รองแม่ทัพน้อยที่ 1 จาก ตท.26 ที่แม้เป็นสายบูรพาพยัคฆ์คอแดง น้องรัก พล.ท.สุขสรรค์ ก็ยังต้องหลีกทางให้

เพราะอย่างน้อย ตท.26 ก็ยังมีบิ๊กปู พล.ต.พนา แคล้วปลอดทุกข์ รองแม่ทัพภาคที่ 1 ที่โผนี้จะขึ้นแม่ทัพน้อยที่ 1 เป็นแกนนำรุ่นสายคอแดง เป็นแคนดิเดตแม่ทัพภาคที่ 1 และอาจถึง ผบ.ทบ.ในอนาคต เพราะมีอายุราชการถึงกันยายน 2570

พล.อ.ทรงวิทย์ หนุนภักดี

หากเรียงลำดับการวางตัวแม่ทัพภาคที่ 1 และ ผบ.ทบ. เรียงตามอายุราชการแล้วจะเห็นว่า แม่ทัพหนุ่ย พล.ท.ธราพงษ์ มะละคำ (ตท.24) แม่ทัพน้อยที่ 1 ที่จะขึ้นแม่ทัพภาคที่ 1 ในโผนี้ เป็นบูรพาพยัคฆ์คอแดง เกษียณ 2569

ต่อด้วย พล.ต.พนา (ตท.26) ที่กลายเป็นวงศ์เทวัญคอแดงคนล่าสุด ที่เกษียณกันยายน 2570

แต่ที่ต้องชิงกันคือ พล.ต.อมฤต (ตท.27) กับ พล.ต.วรยส (ตท.28) ที่เกษียณ 2571 พร้อมกัน ที่อาจมีปฏิบัติการชิงตัดหน้า พล.ต.พนา เพื่อขึ้นเป็น ผบ.ทบ.ก่อน เพื่อนั่ง 2 ปีเลย ก็เกิดขึ้นได้

คาดกันว่า ใครพลาดหวัง ก็จะถูกส่งไปเป็น ผบ.ทหารสูงสุด ที่กำลังจะประทับตราว่า จะต้องเป็นทหารคอแดงเท่านั้น หลังจากที่ พล.อ.ณรงค์พันธ์ ผบ.ทบ. และ ผบ.ฉก.ทม.รอ.904 ที่คุมทหารคอแดงในกองทัพ ส่งบิ๊กอ๊อบ พล.อ.ทรงวิทย์ หนุนภักดี หัวหน้าคณะนายทหารฝ่ายเสนาธิการ ประจำ ผบ.ทบ. ข้ามไปเสียบเป็นเสนาธิการทหาร เพื่อจ่อขึ้น ผบ.ทหารสูงสุดคอแดงคนที่ 2 ในปลายปี 2566 โดย พล.อ.ทรงวิทย์เกษียณกันยายน 2568

ขณะที่ใน ทบ. พล.ต.ธวัชชัย (ตท.27) ที่เกษียณ 2572 กับ พล.ต.สราวุธ (ตท.28) ที่เกษียณ 2573 ก็ถูกจับตามองต่อไปว่า จะรอมชอมเป็น ผบ.ทบ.ต่อกันคนละปี หรือวัดพลังกันอีกที

เพราะในโผนี้ พล.ต.สราวุธจะขยับเป็น ผบ.พล.ร.2 รอ. และจะกลายเป็นทหารคอแดงระดับนายพลของ ทบ.คนใหม่ ที่จะต้องไปฝึกหลักสูตรทหารคอแดง 3 เดือน เนื่องจาก พล.ร.2 รอ. เป็นหน่วยที่ไปขึ้นกับ ฉก.ทม.รอ.904 ด้วย จึงต้องเป็นทหารคอแดง

พล.ต.สราวุธ นั้นเติบโตในสายคอมแมนด์ สายวงศ์เทวัญ ร.1 รอ. และทั้ง พล.1 รอ. พล.ร.9 และ พล.ร.11 ที่เป็นกองพลในกองทัพภาคที่ 1 แม้จะไม่เคยรับราชการใน พล.ร2 รอ. หน่วยบูรพาพยัคฆ์ก็ตาม แต่ก็เคยปฏิบัติหน้าที่ในชายแดนภาคใต้ กับนายทหารใน พล.ร.2 รอ. ที่ไปขึ้นตรงกับ ฉก.นราธิวาสด้วยกัน อีกทั้งสไตล์การทำงานของ พล.ต.สราวุธที่ดูแลลูกน้อง และผลงานที่ผ่านมา รวมถึงบุคลิกลักษณะทหาร เข้าตา พล.อ.ณรงค์พันธ์ และผู้บังคับบัญชา

โผนี้แม้จะเป็นการชิงเก้าอี้กันของ ตท.27-28 แต่ก็มีรอมชอมกันได้บ้าง เช่น รองกบ พ.อ.ปัญญา ตั้งความเพียร รอง ผบ.พล.ร.2 รอ. จาก ตท.27 คาดว่าจะขยับไปเป็นพลตรี ในตำแหน่ง ผบ.พล.ร.11 แทน พล.ต.ธวัชชัย ขณะที่รองต๊อบ พ.อ.วุทธยา จันทมาศ (ตท.28) รอง ผบ.พล.ร.9 คาดว่าจะขึ้นเป็น ผบ.พล.ร.9 ส่วนรองแอ้ม พ.อ.ณัฐเดช จันทรางศุ (ตท.28) รอง ผบ.พล.1 รอ. คาดว่าจะขยับขึ้น ผบ.พล.1 รอ. แทน พล.ต.วรยส

พล.อ.อ.นภาเดช ธูปะเตมีย์

ขณะที่กองทัพอากาศนั้น บิ๊กป้อง Snowy พล.อ.อ.นภาเดช ธูปะเตมีย์ ผบ.ทอ. กำลังปฏิบัติการ “พราง” การตัดสินใจเลือก ผบ.ทอ.คนใหม่

แม้จะให้สัมภาษณ์ว่า การเป็นนักบินตระกูล F หรือไม่ และการผ่านการเป็นผู้บังคับฝูงบิน ผู้การกองบิน และ ผช.ทูตทหารอากาศ ตามเทรดดิชั่น ทอ. หรือไม่นั้น เป็นแค่องค์ประกอบย่อยก็ตาม อาจจะเป็นการพรางเท่านั้น

แต่จุดเปลี่ยนในการตัดสินใจสำคัญของ พล.อ.อ.นภาเดช อยู่บนทาง 2 แพร่ง ระหว่างความสนิทสนมใกล้ชิด ความไว้วางใจ กับเรื่องภาพรวม ทอ. และให้ความสำคัญกับเรื่องนิสัยใจคอ จิตใจเอื้อเฟื้อ มีความเมตตาต่อผู้น้อย ซื่อตรงมั่นคงต่อผู้อื่น และงานในหน้าที่เป็นหลักสำคัญ

จึงทำให้ชื่อของ Rocket บิ๊กต้น พล.อ.อ.คงศักดิ์ จันทรโสภา ผบ.คปอ. น้องรักนักบิน F16 ที่เติบโตจากกองบิน 1 มาด้วยกัน และบิ๊กป้อม พล.อ.อ.ธนศักดิ์ เมตะนันท์ รอง ผบ.ทอ. ที่เป็นประธานคณะกรรมการศึกษา F35 และมีบทบาทสำคัญในการทำโครงการจัดซื้อ F35 กลายเป็นเต็งหนึ่ง และเต็ง 2 แม้ พล.อ.อ.ธนศักดิ์จะไม่ใช่นักบิน F16 แต่เป็นอดีต ผช.ทูต ทอ. ประจำวอชิงตัน ดี.ซี. ที่อาจเอื้อต่อการประสานงานโครงการ F35

ทั้งคู่เป็นเพื่อน ตท.22 ด้วยกัน แต่ พล.อ.อ.ธนศักดิ์มีอายุราชการเหลือ 2 ปี เกษียณ 2567 ที่แม้จะทำให้การสานต่อ F35 ต่อเนื่อง แต่ทว่า จะปิดทางบรรดาน้องรักของ พล.อ.อ.นภาเดช ที่เล็งจะขึ้น ผบ.ทอ.ต่อ โดยเฉพาะบิ๊กณะ พล.อ.อ.ณรงค์ อินทชาติ ที่ปรึกษาพิเศษ ทอ. น้องรัก ตท.23 นักบิน F16 อีกคน ที่อยู่กองบิน 1 มาด้วยกัน ทั้งกับ พล.อ.อ.นภาเดช และ พล.อ.อ.คงศักดิ์ โดยเกษียณ 2567

ดังนั้น หากดูสไตล์ของบิ๊กป้อง ป.ทัพฟ้าแล้ว จึงทำให้ใน ทอ.ให้น้ำหนักกับ พล.อ.อ.คงศักดิ์มากกว่า ว่าจะเป็น ผบ.ทอ.คนใหม่ และมีอายุราชการแค่ 1 ปี เกษียณ 2566 พล.อ.อ.ณรงค์สามารถเป็นต่อได้อีกปี

นี่เองจึงทำให้ พล.อ.อ.นภาเดชยอมรับว่า ลำบากใจในการเลือก ผบ.ทอ.อย่างมาก แต่ที่สุดก็ต้องจรดปากกาเขียนชื่อ ผบ.ทอ.คนใหม่ ส่งพิมพ์ในบัญชีรายชื่อ

ยิ่งเมื่อการเดินทางไปอำลา ทอ.สิงคโปร์ เมื่อ 15-17 สิงหาคมที่ผ่านมา พล.อ.อ.นภาเดชหนีบ พล.อ.อ.คงศักดิ์ไปด้วยเพียงคนเดียว โดยไม่มีแคนดิเดตคนอื่นเลย ก็ยิ่งถูกมองว่าเป็นการส่งสัญญาณหรือไม่ เพราะเสมือนเป็นการพาไปแนะนำตัว

ในอีกมุมหนึ่ง อาจเป็นเพราะ พล.อ.อ.คงศักดิ์เคยเป็น ผช.ทูต ทอ.ประจำสิงคโปร์ และจะต้องคุยเรื่องการฝึกร่วม และเรื่อง F35 เพราะ ทอ.สิงคโปร์ก็ขอซื้อ F35 และสหรัฐก็อนุมัติแล้ว

แต่ก็ยิ่งทำให้เชื่อกันใน ทอ.ว่า พล.อ.อ.นภาเดชจะเลือก พล.อ.อ.คงศักดิ์มาสานต่อภารกิจดูแล ทอ.

ทว่า พล.อ.อ.นภาเดชย้ำเสมอว่า จะไม่เอาเรื่องความสนิทสนมมาเป็นปัจจัยหลักในการตัดสินใจเลือก ผบ.ทอ.คนใหม่ ดังนั้น จึงอาจมีเซอร์ไพรส์ชื่อออกมา กลายเป็น Little Joe พล.อ.อ.ธนศักดิ์ ก็เป็นได้

พลเรือเอก สมประสงค์ นิลสมัย, พลเรือเอก เชิงชาย ชมเชิงแพทย์

กล่าวกันว่า โผโยกย้ายทหารโผนี้ ส่งท้ายบิ๊กตู่ อาจมีเซอร์ไพรส์แบบรัวๆ เลยทีเดียว รวมทั้งที่กองทัพเรือ แม้บิ๊กเฒ่า พล.ร.อ.สมประสงค์ นิลสมัย ผบ.ทร. จะเสนอชื่อบิ๊กจอร์จ พล.ร.อ.เชิงชาย ชมเชิงแพทย์ ผช.ผบ.ทร. เป็น ผบ.ทร.คนใหม่ก็ตาม

แต่มีความเคลื่อนไหวในการเรียกร้องความชอบธรรมให้บิ๊กโต้ง พล.ร.อ.ธีรกุล กาญจนะ รอง ผบ.ทร. ที่ทั้งอาวุโส และเคยได้รับการเสนอชื่อเป็น ผบ.ทร.มาแล้วครั้งหนึ่ง แต่หลบทางให้ พล.ร.อ.สมประสงค์ ที่ในเวลานั้นอาวุโสและมีความชอบธรรม ข้ามจากรองปลัดกลาโหม กลับมาเป็น ผบ.ทร.

งานนี้ไม่ใช่มีแค่ พล.อ.เฉลิมพล ผบ.ทหารสูงสุด แกนนำ ตท.21 เท่านั้น แต่ในทำเนียบก็มีผู้ร่วมสนับสนุน รวมทั้งบิ๊กลือ พล.ร.อ.ลือชัย รุดดิษฐ์ อดีต ผบ.ทร. ซี่งก็เป็นน้องชายบิ๊กโชย พล.อ.กัมปนาท รุดดิษฐ์ องคมนตรี ที่เป็นน้องรักสายตรงนายกฯ ที่ถูกถล่มโจมตี ถูกกระทำมาตลอด จนสะเทือนตระกูลรุดดิษฐ์ ก็จำต้องขยับ

จนทำให้ พล.ร.อ.สมประสงค์ ต้องต้านทานพลังต่างๆ ด้วยการหารือกับทั้ง พล.อ.ประยุทธ์ และ พล.อ.ประวิตร จนมีข่าวจากบ้านป่ารอยต่อฯ ว่าพา พล.ร.อ.เชิงชายไปแนะนำตัวมาแล้ว รวมทั้งรายงานเรื่องการแก้ปัญหาเรือดำน้ำจีน ที่ พล.อ.ประวิตรติดตามอยู่ และเคยให้สัมภาษณ์ยืนยันว่า ไม่ยกเลิกสัญญา มีเครื่องยนต์แน่ จนที่สุด ทร.ส่อเค้ายอมเปลี่ยนมาใช้เครื่องยนต์จีนนั่นเอง

ดังนั้น โผทหารครั้งนี้ จึงอาจมีอะไรที่ไม่คาดคิดเกิดขึ้นก็ได้ ติดตามกันต่อไป ใกล้จบแล้ว