คอลัมน์ประจำ

เห็นประชาชนเป็นอะไร/เมนูข้อมูล นายดาต้า

ที่มามติชนสุดสัปดาห์ ฉบับวันที่ 5 - 11 สิงหาคม 2565
คอลัมน์เมนูข้อมูล
เผยแพร่

เมนูข้อมูล

นายดาต้า

 

เห็นประชาชนเป็นอะไร

 

หากติดตามการเมืองจากการดูท่าทีของแต่ละฝ่าย อาจจะปฏิเสธได้ยากว่า “กลิ่นของการดันทุรังสืบทอดอำนาจให้สำเร็จ” ยังเป็นไปอย่างเข้มข้น เหมือนไม่มีทางที่จะยอมให้อำนาจการจัดการประเทศหลุดมืออย่างเด็ดขาดในช่วงนี้

การเกิดขึ้นของพรรคการเมืองที่เป็นไปในทางออกลูกออกหลานในสายเครือข่ายบริวารอำนาจนิยมเป็นไปอย่างคึกคัก ขณะที่พรรคของนักการเมืองอาชีพที่ทำมาหากินจากอำนาจรัฐมายาวนานทั้งหลาย ต่างยังมุ่งสนับสนุน “กลุ่มสืบทอดอำนาจ” อย่างไม่ลังเล แม้จะมาจากการเลือกตั้งแต่พฤติกรรมไม่ต่างอะไรจาก “นักการเมืองจากการแต่งตั้ง” ที่เป็นอะไรไม่ได้มากกว่า “ฝักถั่ว” มีสนองไว้ใช้แค่ทำตามคำสั่งของผู้อวยตำแหน่งให้

พรรคการเมืองในฟากที่ไม่ถูกเลือกให้ร่วมสืบทอดอำนาจ ตกอยู่ในสภาพทุกลักทุเล ทั้งจากความพยายามสารพัดที่จะทำให้ถูกกดข่มไว้ด้วยกติกาที่ถูกเอารัดเปรียบ และหน้าถมึงทึงขององค์กรที่มีอำนาจชี้ชะตานักการเมืองซึ่ง “เสวยวาสนาจากการได้รับแต่งตั้งมาเช่นกัน”

ที่กระหึ่มจากปากที่พล่ามถึง “อำนาจประชาชน” ดูจะ “เสียงดังแต่ไม่มีพลังเร่ง” นักการเมืองของประชาชน คล้ายกับพร้อมจะทำในทางที่ไม่เห็นหัวประชาชนอย่างไม่รู้สึกอะไร

 

ผลการโหวตอภิปรายไว้วางใจนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรี 11 คนที่ธนาคาร 4 แห่งและสถานีโทรทัศน์ดิจิตอล 4 ช่องร่วมกันทำโครงการให้ประชาชนโหวตนั่นก็ทีหนึ่งแล้ว

ในโครงการนี้ประชาชนแทบจะเรียกได้ว่าเกือบทั้งหมดโหวต “ไม่ไว้วางใจ” มีคนที่เลือกไว้วางใจแค่ไม่กี่คน แต่ในสภาผู้แทนราษฎรกลับโหวต “ไว้วางใจ” ทั้ง 11 คนอย่างท่วมท้น

ความเห็นของ ส.ส.ยืนอยู่คนละฝั่งกับความเห็นของประชาชน

มาคราวนี้ “นิด้าโพล” ก็เช่นกัน

ผลสำรวจหัวข้อ “รัฐบาล-ฝ่ายค้านในญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจ” เมื่อถามว่า “ในภาพรวมข้อมูลของฝ่ายค้านในการอภิปรายไว้ไว้วางใจรัฐบาล มีความชัดเจนหรือไม่” ร้อยละ 42.43 ตอบว่าชัดเจนมาก, ร้อยละ 34.25 ค่อนข้างชัดเจน มีแค่ร้อยละ 15.63 เท่านั้นที่บอกว่าไม่ค่อยชัดเจน และร้อยละ 7.69 ที่เห็นว่าไม่ชัดเจนเลย

และเมื่อถามว่าการตอบคำถามของในการอภิปรายไม่ไว้วางใจมีความชัดเจนหรือไม่ ส่วนใหญ่เห็นว่า “ไม่ชัดเจน” ทั้ง 11 คน

ที่เห็นว่า “พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา” ตอบไม่ชัดเจนมีร้อยละ 75.68 ชัดเจนร้อยละ 21.34, “พล.อ.ประวิทย์ วงศ์สุวรรณ” ร้อยละ 75.44 เห็นว่าชัดเจน ร้อยละ 15.63 ไม่ชัดเจน, “อนุทิน ชาญวีรกูล” ร้อยละ 57.07 ไม่ชัดเจน ร้อยละ 25.56 ชัดเจน, “จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์” ไม่ชัดเจนร้อยละ 52.36 ขณะร้อยละ 17.62 ชัดเจน, “พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา” ไม่ชัดเจนร้อยละ 45.16 ชัดเจนร้อยละ 17.37, “ศักดิ์สยาม ชิดชอบ” ไม่ชัดเจนร้อยละ 47.64 ชัดเจนร้อยละ 14.39, “ชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์” ไม่ชัดเจนร้อยละ 44.91 ชัดเจนร้อยละ 14.15

“จุติ ไกรฤกษ์” ไม่ชัดเจนร้อยละ 44.91 ชัดเจนร้อยละ 14.89, “สันติ พร้อมพัฒน์” ไม่ชัดเจนร้อยละ 44.91 ชัดเจนร้อยละ 13.40, “นิพนธ์ บุญญามณี” ไม่ชัดเจนร้อยละ 42.93 ชัดเจนร้อยละ 12.41 และ “สุชาติ ชมกลิ่ม” ไม่ชัดเจนร้อยละ 42.43 ชัดเจนร้อยละ 16.13

 

“นิด้าโพล” นี้เป็นการย้ำอีกครั้งว่า หากสะท้อนจากเสียงของประชาชนโดยตรง ผลการโหวตไม่ไว้วางใจไปในทางตรงกันข้ามกับความเป็น “ส.ส.” ซึ่งประชาชนเลือกไปใช้อำนาจแทน

ทัศนคติและการแสดงออกที่สวนทางกลับภารกิจที่ควรจะเป็นคือ “เป็นปากเป็นเสียงให้ประชาชน” ของ “ส.ส.” มีความน่าสนใจยิ่ง ท่ามกลางความพยายามสืบทอดอำนาจอย่างที่ว่า

เป็นปรากฏการณ์ทางการเมืองที่พิสดารยิ่ง เพราะคนที่มีหน้าที่ใช้อำนาจแทนประชาชน กลับใช้อำนาจไปในทางที่ประชาชนส่วนใหญ่ไม่เห็นด้วย

และที่น่าประหลาดใจคือ การเดินสวนหมัดกับประชาชนเช่นนั้น แต่ยังกลับเชื่อว่าเมื่อถึงวันเลือกตั้ง ประชาชนจะเลือกคนจำพวกนี้กลับเข้ามา