มโนธรรมสำนึก/ลึกแต่ไม่ลับ จรัญ พงษ์จีน

จรัญ พงษ์จีน

ลึกแต่ไม่ลับ

จรัญ พงษ์จีน

 

มโนธรรมสำนึก

 

สะเด็ดน้ำไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว “ญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไปเพื่อลงมติไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคล” ที่ฝ่ายค้านร่วมใช้เวลา 45 ชั่วโมง เปิด “ยุทธการเด็ดหัวสอยนั่งร้าน” ปักหมุดถล่ม 4 วัน 4 คืน

ผลโหวต หวยล็อกตามคาด ที่ประชุมสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ลงมติ “ให้” นายกรัฐมนตรีและ 10 รัฐมนตรี ผ่านฉลุยทุกราย มากบ้าง น้อยบ้าง ต่างเงื่อนไข

แม้จะจบบริบูรณ์ลงแล้ว แต่ขอบันทึกไว้เนื่องจากศึกซักฟอกครั้งนี้ สร้างประวัติศาสตร์ “ด้านลบ” น่าละอายใจอย่างยิ่ง ที่ “สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร” บางกลุ่ม บางพรรค ทำตัวแบบละครย้อนยุค ยอมกลับไปเป็น “ทาส” ได้ยินได้ฟังว่า ส.ส. คือผู้ทรงเกียรติ มาจากการเลือกตั้งของประชาชนพลเมือง ต้องมีสำนึกที่ดี เป็นคนดี นำความดีมาเป็นปัจจัยในการแสวงหาความนิยมจากประชาชนในโอกาสต่อไป

แต่ไม่เป็นยังงั้น “ผู้ทรงเกียรติ” จำนวนหนึ่งถูกข้อครหาว่า ไม่มีมโนธรรมสำนึก ไม่ได้ตั้งอยู่บนพื้นฐานแห่งความถูกต้องเที่ยงธรรม ไม่ยึดหลักนิติธรรม-คุณธรรม-ความโปร่งใส “กล้วย” อนุมัติมันสมอง และสองมือ

ซื้อสิทธิ-ขายเสียงกันอึกทึกครึกโครม ยิ่งกว่าตลาดขายปลา จึงต้องบันทึกเหตุการณ์ของศึกซักฟอก ที่แสดงถึงตรรกะอัปยศ ตกต่ำที่สุดเท่าที่เคยมีมา ภายใต้ร่มเงาของรัฐธรรมนูญปี 2560 เผื่อใครเก็บไปเล่าขานต่อยังรุ่นลูกรุ่นหลานในโอกาสต่อไปได้

เป็นการยื่นญัตติเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล “พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา” ครั้งที่ 4 หลังได้รับเลือกตั้งมาเมื่อเดือนสิงหาคม 2562

โดยผลโหวต

1. “พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา” นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ได้รับความไว้วางใจ ด้วยคะแนนเสียง 256 ไม่ไว้วางใจ 206 งดออกเสียง 9

2. “นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์” รองนายกฯ-รมว.พาณิชย์ ไว้วางใจ 241 ไม่ไว้วางใจ 207 งดออกเสียง 23

3. “นายอนุทิน ชาญวีรกูล” รองนายกฯ-รมว.สาธารณสุข ไว้วางใจ 264 ไม่ไว้วางใจ 205 งดออกเสียง 3

4. “พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ” รองนายกฯ ไว้วางใจ 268 ไม่ไว้วางใจ 193 งดออกเสียง 11

5. “พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา” รมว.มหาดไทย ไว้วางใจ 245 ไม่ไว้วางใจ 212 งดออกเสียง 13

6. “นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ” รมว.คมนาคม ไว้วางใจ 262 ไม่ไว้วางใจ 205 งดออกเสียง 5

7. “นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์” รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ไว้วางใจ 249 ไม่ไว้วางใจ 205 งดออกเสียง 18

8. “นายจุติ ไกรฤกษ์” รมว.การพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ไว้วางใจ 244 ไม่ไว้วางใจ 209 งดออกเสียง 17

9. “นายสันติ พร้อมพัฒน์” รมช.คลัง ไว้วางใจ 249 ไม่ไว้วางใจ 204 งดออกเสียง 18

10. “นายนิพนธ์ บุญญามณี” รมช.มหาดไทย ไว้วางใจ 246 ไม่ไว้วางใจ 206 งดออกเสียง 20

11. “นายสุชาติ ชมกลิ่น” รมว.แรงงาน ไว้วางใจ 243 ไม่ไว้วางใจ 208 งดออกเสียง 20

“ผู้ถูกอภิปราย” สอบผ่านกราวรูด ตามเกณฑ์เสียงมากกว่ากึ่งหนึ่งของจำนวน ส.ส.ทั้งหมดเท่าที่มีอยู่ของสภา คือ เกิน 239 เสียง จาก ส.ส.ที่ปฏิบัติหน้าที่อยู่ 477 คน

 

แต่คะแนนโหวตไม่ใช่ตัวชี้วัดว่าใครตอบข้อกล่าวหา-ประเด็นสงสัยได้เข้าเป้าเคลียร์ชัด ได้รับเสียงไว้วางใจมากหรือน้อย แต่ปัจจัยชี้ขาดขึ้นอยู่กับ “อำนาจกล้วย” มีความเด็ดขาดและทรงพลัง…มากกว่าอะไรอื่นทั้งหมด

ในบรรดาผู้ถูกซักฟอก ปรากฏว่า “พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ” เข้าป้ายคว้าแชมป์ไว้วางใจ 268 เสียง ไม่ไว้วางใจน้อยที่สุด 193 แต้ม ทั้งที่ไม่ได้ตอบคำถามอะไรเลย แต่คะแนนมากจนล้นเหลือ ซึ่งก็ว่าอะไรไม่ได้ เพราะ “บิ๊กป้อม” เป็นเหมือนผู้จัดการรัฐบาล และมากบารมี

ขณะเดียวกัน “ศึกซักฟอก-สงครามยกสุดท้าย” ก็กลายเป็น “บูมเมอแรง” ย้อนเกล็ด “พล.อ.ประวิตร-พลังประชารัฐ” หนักหน่วง มากกว่าใครทั้งหมด มีเผือกร้อนเกิดขึ้นหลายปมเงื่อน

กรณี 6 ส.ส.จังหวัดสมุทรปราการ ใต้อาณัติของ “อัศวเหม” แหกมติพรรค ยกมือโหวตสวน ไม่ไว้วางใจ “พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กับ “นายสุชาติ ชมกลิ่น” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน

ทำให้ผลโหวตของ “บิ๊กป๊อก-เสี่ยเฮ้ง” ออกมาปริ่มน้ำ ที่ 245 กับ 243 และคะแนนไม่ไว้วางใจ แชมป์กับรองแชมป์ 212 กับ 208 เสียง

ตามกฎกติกาข้อบังคับของการเมือง “บิ๊กป้อม” ในฐานะหัวหน้า พปชร. ต้องเรียก 6 ส.ส.ปากน้ำมาเฉ่ง และหาทางจัดการลงโทษสถานหนึ่งสถานใด เพื่อป้องกันการแหกโผในอนาคต

แต่กลับตาลปัตร “บิ๊กป้อม” ดีงามกับกลุ่มปากน้ำน่าน้ำตาไหล อีกสองวันต่อมา นำคณะเดินทางไปตรวจเยี่ยมพื้นที่ใน จ.สมุทรปราการ โดยมี 6 ส.ส.มาตั้งแถวต้อนรับ “กรุงศรีวิไล สุทินเผือก” ถึงกับคุกเข่าลงหมอบกราบ

แถมยังผลักดัน “เกาหลัง” โดย “บิ๊กป้อม” คอนเฟิร์มเสียงดังฟังชัดว่า หากปรับ ครม.รอบใหม่ในเร็วๆ นี้ “กลุ่มปากน้ำ” จะมีเก้าอี้รัฐมนตรีเป็นของขวัญ

ขณะที่ 6 ส.ส.ม้าผยศ ตัวเปียกแล้ว จะกลัวอะไรกับการว่ายน้ำอีก ออเคสตราเรียกร้องให้ “นายป้อม” รับปากว่าจะสลับฟันปลาไปนั่งเก้าอี้ มท.1 แทน “บิ๊กป๊อก” ที่กลุ่มปากน้ำดับเครื่องชน

ไม่เพียงแต่ 6 ส.ส.สมุทรปราการเท่านั้น ที่ชักธงเชียร์ให้ “พล.อ.ประวิตร” ข้ามห้วยไปนั่งเก้าอี้ว่าการกระทรวงมหาดไทย มีข่าวคลุกวงในว่า ส.ส.เกินครึ่งของ พปชร.ที่กำลังออกแรงขับเคลื่อนไปในทิศทางเดียวกัน

เพราะประเมินสถานการณ์ว่า สภาผู้แทนราษฎรชุดปัจจุบันเหลือเวลาอยู่ประมาณ 6-7 เดือนจะครบเทอม และมีแนวโน้มสูงที่ “บิ๊กตู่” จะชิงลงมือยุบสภาก่อนกำหนด

“บิ๊กป้อม” มีความใกล้ชิดกับ ส.ส.มากทุกคน ขณะที่ “2 ป.” ทั้ง “ประยุทธ์-บิ๊กป๊อก” เท้าไม่ค่อยแตะสัมผัส ลงมาดูแลรับผิดชอบ ส.ส. จึงถึงเวลาแล้วที่ “บิ๊กป้อม” ต้องก้าวไปนั่ง มท.1 เพื่อกอบกู้วิกฤตศรัทธา ทั้งรัฐบาลและพรรคที่ตกต่ำดำดิ่งอย่างหนัก ซึ่งแคนนอนจากเศรษฐกิจตกต่ำ

ขณะที่ภาระหน้าที่ของ “พี่ใหญ่” รับหน้าเสื่อ เคลียร์คัตให้ “น้องตู่-ป๊อก” มาทุกเรื่อง ตั้งแต่เลือกตั้งใหญ่ ในทางกลับกันตำแหน่งแห่งหนที่ “พี่ป้อม” ได้รับมอบหมายคือรองนายกฯ ไม่มีงานอะไรกำกับดูแลเป็นเรื่องเป็นราว

ถึงเวลาแล้วที่ “พล.อ.ประวิตร” จะต้องสยายปีก แม้เวลาจะเหลือน้อยมากก็ตาม มาสายดีกว่าไม่มา

แต่การเมืองไม่ใช่เย็บปักถักร้อย จะปรับหรือไม่ปรับ “บิ๊กป้อม” จะได้นั่ง มท.1 หรือไม่ ขึ้นอยู่กับ “พล.อ.ประยุทธ์”