มุมมอง : หน้า 8

และแล้ว พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ก็ได้ประสานมือกับ นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาสำเร็จ

ต้องชมทีมงานด้านต่างประเทศของรัฐบาลไทยที่สามารถเดินเกมจนเกิดภาพนี้ขึ้นได้

เพราะเป็นภาพที่มีความหมายในทางการเมืองอย่างยิ่ง

ส่วนหนึ่ง ถือเป็นโชคดีที่ “ลมการเมือง” ของสหรัฐอเมริกาเปลี่ยนทิศ

จากประธานาธิบดีที่เชิดชู “ประชาธิปไตย” มาเป็นประธานาธิบดีที่สนใจแต่เรื่อง “ค้าขาย”

และโชคดีที่ “จีน” แผ่อิทธิพลมายังอาเซียนอย่างเต็มตัว

ที่สำคัญที่สุด โชคดีที่เกิดกรณีพิพาท “เกาหลีเหนือ” ขึ้นมา

ทุกองค์ประกอบทำให้ “ทรัมป์” ต้องหันมามองประเทศไทย

และยอมทิ้งหลักการที่สหรัฐอเมริกายึดถือมานาน

จับมือกับ พล.อ.ประยุทธ์

แต่โลกนี้มีหลายมุมให้มอง

โดยเฉพาะในวันที่เมืองไทยยังแบ่งเป็นฝักฝ่าย

ฝ่ายที่สนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ นั้นถือว่าการพบปะกันครั้งนี้ประสบความสำเร็จอย่างยิ่ง

แสดงให้เห็นว่ารัฐบาลไทยได้รับการยอมรับจากสหรัฐอเมริกา

ไม่รังเกียจเดียดฉันท์เหมือนสมัยประธานาธิบดี บารัค โอบามา

รัฐบาลไทยย่อมหวังผลต่อเนื่องไปถึงมาตรการกีดกันทางการค้าต่างๆ จะคลี่คลายไปในทางบวก เช่น เรื่องการบินและประมง

แต่อีกฝ่ายหนึ่งมองว่ารัฐบาลไทยไปครั้งนี้ “เสีย” มากกว่า “ได้”

เพราะกลายเป็นว่าต้องจ่ายเงินซื้อสินค้าจากสหรัฐอเมริกาจำนวนมหาศาล

ไม่ใช่แค่ถ่านหิน

แต่อาจหมายถึงอาวุธยุทโธปกรณ์ที่จะตามมาในอนาคต

เป็น “รายจ่าย” เพื่อให้ได้ “ภาพ” นี้มาโชว์คนไทย

นี่คือ “มุมมอง” ที่แตกต่าง

ไม่ใช่เพียงแค่เรื่องนี้

แม้แต่เรื่อง “ตูน บอดี้สแลม” จะวิ่งครั้งใหญ่ที่สุดในชีวิต

จากใต้สุดสู่เหนือสุด

55 วัน 2,191 กิโลเมตร

ระดมทุนเพื่อมาซื้ออุปกรณ์การแพทย์ให้กับโรงพยาบาลหลัก 11 แห่งทั่วประเทศ

เขาตั้งเป้าหมายระดมเงินจำนวนน้อยๆ จากคนจำนวนมาก

คนละ 10 บาท 70 ล้านคน

หรือ 700 ล้านบาท

มุมมองของคนยังแตกต่างกัน

คนกลุ่มหนึ่งเห็นตัวเลขเป้าหมายจะเริ่มคำนวณ

“700 ล้านบาท” เขารำพึง

“โรงพยาบาลละ 60 กว่าล้านบาท”

แต่อีกกลุ่มหนึ่ง คิดอีกแบบหนึ่ง

“700 ล้านบาท” รำพึงเหมือนกัน

“ซื้อเรือเหาะได้ 2 ลำ”