โลกหมุนเร็ว/ความคิดสาธารณะ

โลกหมุนเร็ว/เพ็ญศรี เผ่าเหลืองทอง [email protected]

ความคิดสาธารณะ

ถ้าเราไปทำธุรกิจหรือท่องเที่ยวที่สิงคโปร์ เกิดเดินหาทางไปไหนไม่ถูก งกๆ เงิ่นๆ เห็นหนุ่มสิงคโปร์ท่าทางคล่องแคล่วเดินผ่านมา เรียกเขาเพื่อขอความช่วยเหลือ จะโดนเขาทำหน้าบึ้งๆ ไม่ตอบหรือไม่ก็ตอบสั้นมาก แล้วรีบเดินจ้ำจากไป แต่ถ้าหากเป็นคนไทย จะพยายามตอบ ผิดหรือถูกก็ขอตอบไว้ก่อน

แล้วก็มีเฉพาะเมืองไทยเท่านั้นนะคะ ที่เวลาคุณจะถอยรถ จะมีคนที่ไม่รู้จักกัน ที่ยืนอยู่แถวนั้น จะรีบเข้ามาบอกให้ถอยหน้าถอยหลัง ราวกับว่าเขาเป็นพี่ชาย น้องชาย แฟน หรือเพื่อนคุณ

เป็นเรื่องที่ปฏิบัติติดต่อกันมาจนกลายเป็นประเพณี ผู้เขียนยอมรับว่ารู้สึกตะขิดตะขวงใจตอนแรกๆ ที่ยังไม่เคยชิน ว่าเอ๊ ไม่รู้จักมักจี่ และเราก็ไม่ได้ขอร้อง เราก็ผ่านการสอบใบขับขี่มา สามารถพึ่งพาตัวเองได้ มองกระจกซ้ายขวาหน้าหลัง ก็รู้ว่าจะเดินหน้าถอยหลังยังไง แต่เมื่อเจอหลายครั้งก็เริ่มคุ้นชินกับประเพณีเฉพาะตัวของคนไทยที่ว่านี้ และเออออไปได้อย่างหน้าชื่นตาบาน

ไม่รู้จะหาคำอะไรมาอธิบายพฤติกรรมที่ว่านี้ คิดมาคิดไป น่าจะเรียกว่า “การขอมีส่วนร่วม” คงจะได้

คนสิงคโปร์ไม่มีน้ำใจที่จะเสียเวลามาคอยตอบคำถาม แต่มีความรับผิดชอบที่เกี่ยวกับสาธารณะ เช่น ข้ามถนนเป็นที่เป็นทาง ขับรถตามกฎจราจร เคารพกฎหมาย ไม่ทิ้งขยะมูลฝอยตามทาง แม้ว่าในถิ่นที่มีนักท่องเที่ยวจะเห็นขยะประปราย

คนไทยขอมีส่วนร่วมเวลาเห็นคนถอยรถ แต่ไม่ชอบจอดรถให้คนข้ามทางม้าลาย น่าสงสารคนที่ยืนขาแข็งอยู่ริมถนน ตาปริบๆ มองรถแต่ละคันวิ่งผ่านหน้าไป เมื่อเห็นถนนพอมีช่วงว่างก็ต้องรีบวิ่งข้ามถนนไป ดูแล้วออกจะอนาถใจ ฝรั่งมังค่าแขกญี่ปุ่นจีนเกาหลีมาเมืองไทยก็ต้องยอมรับว่าเมืองนี้เขาไม่หยุดให้คนข้ามทางม้าลาย

ทางเท้าเป็นสมบัติของทุกคน แต่กลายเป็นสมบัติของเจ้าของห้องแถวที่อยู่ตรงนั้น จะเอากระถางมาตั้ง หรือแม้แต่ราวตากผ้าก็ไม่มีใครกล้าท้วงติง กลายเป็นว่าที่สาธารณะคือที่ของฉัน

และคนเดินถนนต้องอะลุ้มอล่วยให้ฉันนะ

เพิ่งจะสองวันนี้ที่ขับรถไปที่สวนสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ เพื่อไปเดินออกกำลังกายตอนเช้า วันนั้นเกิดมีกิจกรรมที่จอดรถเลยเต็ม ขับผ่านประตูเข้าไปแล้วก็ยินดีจะขับออก โชคดีที่มีสวนรถไฟอีกสวนให้ไปเดินออกกำลังได้ แต่มีชายคนหนึ่งต้องการจะจอดรถในที่ว่างที่มีอยู่ที่เดียว รถของเขาเป็นรถกระบะ มุมตรงนั้นแคบ เขาก็ต้องขยับรถหลายที รวมทั้งเข็นรถบางคันให้ชิดคันหน้าเพื่อให้มีที่ถอยหลังเดินหน้ามากขึ้น

เขาเดินขากะเผลก และไม่มีครอบครัวมาช่วยดูรถให้

คนอยากมีส่วนร่วมและหวังดีคนหนึ่งก็เดินมาด้วยความกระตือรือร้นและเริ่มออกคำสั่งให้เขาถอยรถตามแบบที่ตัวเองคิดว่าใช่ แต่ไม่ใช่อย่างที่เจ้าของรถวางแผนไว้

รถของผู้เขียนก็จอดรอให้คุณคนนั้นถอยเข้าจอดจะได้ผ่านไปได้ และที่สำคัญมีรถตามมาข้างหลังรถผู้เขียนอีกเป็นขบวนยาว ผู้เขียนจึงไม่สนใจว่าตัวเป็นผู้หญิงก็ลงไปเชียร์คุณเจ้าของรถคันนั้นให้จอดอย่างที่เขาวางแผนไว้ จะได้เร็ว และรถขบวนยาวหลังผู้เขียนจะได้เคลื่อนได้เมื่อรถผู้เขียนแล่นผ่านไปได้

เป็นความคิดสาธารณะเล็กๆ ในใจที่ผลักดันให้ลงไปช่วยเชียร์และเข็นรถเล็กน้อย เพื่อให้รถข้างหลังไม่ติดยาวนาน

สิ่งเล็กๆ มักจะรวมเป็นสิ่งใหญ่เสมอ เมื่อเป็นเรื่องของสาธารณะ เห็นได้จากเรื่องขยะ

ถูกใจแคมเปญ “ไม่ทิ้ง ไม่ท่วม” ของกรุงเทพมหานคร คนคนหนึ่งทิ้งขยะไม่มากหรอก แต่รวมกันหลายๆ คนกลายเป็นมาก และที่กลายเป็นมากได้มากคือเมื่อร้านค้าเทขยะโครมลงไปในน้ำ

แล้วกลายเป็นขยะที่ทำให้น้ำท่วมได้

สิ่งที่เป็นพัฒนาการทางความคิดของคนกรุงก็คือ บัดเดี๋ยวนี้คนกรุงยอมรับแล้วว่าสาเหตุหนึ่งที่ทำให้น้ำท่วมคือขยะที่ทิ้งอยู่ตามคูคลอง ไม่อย่างนั้นแคมเปญ “ไม่ทิ้ง ไม่ท่วม” ก็คงไม่โดนใจ

เมื่อวันที่ไปเดินสวนรถไฟ เห็นพัฒนาการใหม่ๆ ที่น่ายินดี คือที่นั่นมีที่ทิ้งขยะเพิ่มมากขึ้น ประมาณว่าทุกสิบเมตร ถังขยะที่ว่าเป็นรูปแบบใหม่ คือเป็นขาเหล็ก มีถุงพลาสติกขนาดใหญ่สวม มองเห็นขยะที่ทิ้งอยู่แล้ว เหมือนเชิญชวนให้ทิ้งตาม ถุงขยะแบบนี้ดูมีอนามัยกว่าถังแบบเก่าที่ปิดทึบที่พนักงานเก็บขยะต้องเปรอะเปื้อน คนทิ้งก็เปรอะเปื้อน ส่วนแบบใหม่ไม่เป็นภาระสำหรับคนเก็บขยะ ถอดถุงไปทิ้งได้รวดเร็ว และไม่เปรอะเปื้อน

อยากให้คนที่นำที่ทิ้งขยะแบบใหม่นี้มาติดตั้งได้รู้ว่ามีคนสังเกตและชื่นชม

สิ่งที่ไม่ชื่นชมในสวนรถไฟคือการที่เจ้าของพื้นที่โลภเกินไปและนำพื้นที่ทางเข้าประตูสวนด้านหลังไปหารายได้อนุญาตให้ตั้งโต๊ะขายน้ำและที่หนักมากคือราวขายเสื้อผ้า ดูจะหารายได้แบบไม่ลืมหูลืมตา เกะกะทางสัญจรเป็นอย่างยิ่ง สิ่งอะไรที่ทำไปแล้วจะถอยหลังก็เริ่มยาก ถ้าจะทบทวนตอนนี้คงกระอักกระอ่วน ในฐานะประชาชนผู้ใช้สวนอยากให้คิดก่อนทำค่ะ อย่าเห็นแก่รายได้เล็กน้อย

มันจะได้ไม่คุ้มเสีย