ฟ้า พูลวรลักษณ์ : มนุษย์”จีน”

ฟ้า พูลวรลักษณ์

หนังสือเรียนสำหรับเด็ก (๑๘๙)

เมื่อจีนคอมมิวนิสต์รุกรานทิเบต มันเป็นบาปกรรมอันมหันต์

ชาวทิเบตถูกฆ่าหนึ่งล้านกว่าคน วัดวาถูกทำลายหกพันกว่าแห่ง

ในทางเศรษฐกิจ ในทางการเมือง จีนทำถูกแล้ว มันเป็นการได้พื้นที่กว้างใหญ่ ทำให้จีนมั่นคง ปลอดภัย ทำให้พวกเขาเป็นชาติมหาอำนาจที่ใหญ่กว่าเดิม สำหรับพวกเขา ชาวทิเบตคือชนกลุ่มน้อย ที่โง่เขลา หลงผิด และล้าหลัง

จะอ้างเหตุผล ก็ข้างๆ คูๆ ว่าครั้งหนึ่ง ทิเบตเคยเป็นเมืองขึ้นของจีน นานมาตั้งแต่สมัยราชวงศ์ถัง ถ้าอ้างแบบนี้ ครั้งหนึ่งเมืองไทยก็เคยเป็นเมืองขึ้นของพม่า เป็นเมืองขึ้นของเขมร

ในโลกแห่งความเป็นจริง ชาติแข็งแรงกว่าก็สามารถรังแกชาติอ่อนแอกว่า ก็เป็นอย่างนี้มาแต่ไหนแต่ไร

หากเนปาล อินเดียอ่อนแอ ป่านฉะนี้ จีนอาจยึดครองเนปาล อินเดียด้วย

ที่ทำไม่ได้ เพียงเพราะว่าเนปาล อินเดียมีประชากรมากมายมหาศาล เกินเลยกว่าที่จีนจะเข้าไปได้ ก็เท่านั้น

การรังแกชาติเล็กๆ ที่รักสงบ หากเป็นที่อื่น ก็ทำได้ยาก เพราะทั้งโลกก็มองเห็นอยู่ แต่ทิเบตเป็นดินแดนยกเว้น พวกเขาอยู่บนหลังคาโลก ห่างไกลจากทุกที่ ชาติใดที่คิดจะเข้าไปแทรกแซง คงต้องทำสงครามใหญ่กับจีน ยังไม่มีชาติใดกล้าทำเช่นนั้น ในแง่ภูมิศาสตร์

ทิเบตจึงโชคร้าย จะถูกหรือผิด พวกเขาก็ต้องตกเป็นของจีน

น่าประหลาด ฉันเป็นคนไม่ชอบศาสนาทิเบต ไม่ชอบวัดวาของพวกเขา ที่ฉันชอบเพียงบางส่วน เช่น ภาพจิตรกรรม และชอบธรรมชาติของแผ่นดิน ความงดงามของที่ราบสูง เสน่ห์ของหลังคาโลก

แต่ฉันเคารพในเสรีภาพ และศรัทธาของพวกเขา

การไปรุกรานพวกเขา และยิ่งเพราะพวกเขาไม่มีทางสู้ เป็นบาปกรรมสูงสุดของจีน เสมอเหมือนครั้งที่เกิดสงครามฝิ่น อังกฤษมารังแกจีน กลายเป็นตราบาป ไปนานเท่าที่มีประวัติศาสตร์โลก นานเท่าที่มีประเทศอังกฤษ บัดนี้ก็เช่นกัน นี้คือบาปที่ยาวนาน ตราบเท่าที่มีประวัติศาสตร์ ตราบเท่าที่มีประเทศจีน

บาปกรรมนี้ คงมีวันย้อนกลับมาสนอง

ไม่มีใครหนีพ้นกฎแห่งกรรม ทั้งจีน ทั้งอังกฤษ หรือใครก็ช่าง ที่ทำกรรม

เพียงแต่เราไม่รู้ว่าเมื่อไหร่

บางครั้งนาน จนบางคนลืม

แต่นานแค่ไหน มันก็ย้อนกลับมา เป็นวงกลม

เอากันง่ายๆ แค่วันนี้ ทุกครั้งที่คิดถึงสงครามฝิ่น ฉันก็มองชาวอังกฤษด้วยความรังเกียจ ขนาดฉันยังคิดอย่างนี้ คนอีกมากมายนับร้อยล้าน ก็คิดอย่างนี้ แน่ละ ในวันนี้ คนจีนคงไม่ไปทำสงครามกับอังกฤษ เพื่อล้างแค้นสงครามฝิ่น คงไม่มีผู้นำจีนคนไหนบ้าพอจะทำอย่างนั้น แต่ความรู้สึกรังเกียจ ความชิงชัง มันปรากฏขึ้นแล้วในทุกวันเวลา เป็นร้อยล้านครั้ง เป็นพันล้านครั้ง มันเป็นคลิปที่มียอดชมเป็นล้านล้าน

คุณดูเอาเถอะ ประเทศสหรัฐอเมริกา สิ่งที่เป็นเอกลักษณ์ของพวกเขาคือ มีปัญหาคนผิวดำเยอะ ถึงขนาดเคยเกิดสงครามกลางเมือง มีคนตายร่วมล้านคน เกิดความปวดร้าวครั้งใหญ่ แม้วันนี้ ปัญหาก็ยังไม่ได้หมดไป ต้นกำเนิดเพียงเพราะคนที่นี่เคยมักง่าย ใช้แรงงานทาสคนดำ มันไม่ใช่หมื่นคนหรือแสนคน แต่ประเทศนี้ใช้ทาสคนผิวดำ หลายสิบล้านคน บนความตายและความบ้านแตกของคนดำนับไม่ถ้วน เฉพาะหลังสงครามกลางเมือง มีทาสที่ได้รับการปลดปล่อยสี่ล้านคน

ที่ฉันพิศวงคือ วิบากกรรมนี้ ไม่อาจถูกลบล้างได้ง่ายๆ มันยังดำเนินอยู่ มันเป็นรอยดำที่ล้างไม่ออก ถูไม่ออก ยิ่งล้างยิ่งเข้าลึก

ยังไม่นับสิ่งที่คนขาวที่เคยทำกับชาวอินเดียนแดง มันเกือบถูกลืมไปแล้ว แต่ไม่ใช่ บาปกรรมเหล่านี้ไม่มีวันหมดอายุความ มันเพียงเปลี่ยนรูปไปเรื่อยๆ เปลี่ยนชื่อ เปลี่ยนนามสกุล

หากเราสังเกตคนจีน พวกเขามีจุดอ่อนจุดแข็งที่เหมือนเดิม

พวกเขาทระนง รักชาติ คิดว่าตัวเองเป็นศูนย์กลาง เป็นอย่างนี้มาหลายพันปี วันที่พวกเขาอ่อนแอ อารมณ์นี้จะฝ่อตัว แต่วันที่พวกเขารุ่งเรือง อารมณ์นี้ก็กลับมา และทำให้ชาตินี้ไม่ประสบความสำเร็จเท่าที่ควร คือพวกเขาจะทำลายตัวเองเสียก่อน

วันนี้ประเทศจีนกลับมาเป็นมหาอำนาจอีกครั้ง อารมณ์ทระนงแบบนี้ ก็กลับมาอีก มันแฝงอยู่ลึกในยีน

ขอให้สังเกต หากมีชาวโลกเดินมาหกคน ในนั้นจะมีคนจีนอยู่หนึ่งคน

แต่คนจีนลืมไปว่า หากอีกห้าคนเป็นศัตรูกับจีน จีนก็ดับ

เพราะหนึ่งต่อห้า ก็แพ้อยู่ดี

หากคนจีนคิดแบบนี้ พวกเขาก็จะไม่ทระนง ไม่ยโส ไม่เอาความรักชาติมาเป็นข้ออ้าง เพราะความรักชาตินี่เอง ที่ทำลายชาติจีนมานักต่อนัก มาในหลายยุคหลายสมัย

ฉันจำได้ ราชวงศ์ซุยที่ยิ่งใหญ่ของจีน เริ่มรวมประเทศได้ไม่นาน และร่ำรวยแข็งแกร่งเป็นอันมาก แต่อยู่ได้แค่ฮ่องเต้องค์เดียว ก็ล่มสลาย เพราะไปทำสงครามกับเกาหลี ยกทัพไปตีเกาหลีกี่ครั้ง ก็แพ้กลับมา

และพอแพ้หลายๆ ครั้งเข้า ราชวงศ์ก็ล่มสลาย เกิดความปั่นป่วนในทางการเมืองและเศรษฐกิจ

ไม่ใช่เพราะประเทศเล็กๆ อย่างเกาหลีจะมาบุกจีน แต่เพราะแพ้ภัยตัวเอง ผู้นำจีนในยุคนั้น มองเกาหลีด้วยความดูถูก ประเทศเพื่อนบ้านเล็กๆ ที่จะเหยียบเมื่อไหร่ก็ได้

แต่ไม่เพียงไม่อาจเอาชนะ ยังพาลทำให้ตัวเองล่มสลาย

หากฉันเป็นรัฐบาลจีน ฉันจะ

๑ ให้ทิเบตปกครองตนเอง

๒ ให้อังกฤษเช่าฮ่องกงต่อสัก ๒๕ ปี เพียงเท่านี้ ชาวโลกก็จะมองจีนเปลี่ยนไปทันที จะเห็นความยืดหยุ่น ความพร้อมจะปรับตัว ความพร้อมจะเป็นมิตร เป็นคนรุ่นใหม่ ที่ใส่ใจปัญหาเศรษฐกิจ ความร่วมมือกันระหว่างประเทศ มากกว่าเรื่องศักดิ์ศรี เรื่องการอยากได้พื้นที่ และผลของมันจะกระทบชาวฮ่องกงโดยตรง พวกเขาจะมีความสุขมาก พร้อมจะทำงานหนัก พร้อมจะลงทุนในจีน และเป็นสะพานเชื่อมโยงจีนกับทั้งโลก มูลค่าตรงนั้นประเมินไม่ได้

๓ ให้ชาวไต้หวันทำประชามติ ว่าอยากมาอยู่รวมกับจีน หรืออยากแยกออก หากรวม ก็คือรวม หากแยก ก็เป็นชาติอิสระ แต่การที่มีต้นกำเนิดเดียวกัน ใช้ภาษาเดียวกัน วัฒนธรรมร่วมกัน หมายถึงความผูกพันเป็นพี่น้อง เหมือนอังกฤษกับออสเตรเลีย ที่ก็ผูกพันกัน ถึงคราวคับขัน พวกเขาก็จะเคียงบ่าเคียงไหล่กันอยู่ดี

๔ พื้นที่ในทะเล ไม่เหมือนพื้นดิน มันแบ่งยากกว่า มันคลุมเครือ ให้มองว่ามันถูกทั้งคู่ และพร้อมจะให้เกียรติชาติเล็ก หากเด็กตัวโตรังแกเด็กตัวเล็ก แม้เขาจะถูกครึ่งหนึ่ง เด็กตัวเล็กจะจำไปจนตาย จะเกิดปมด้อย เกาะเล็กๆ บางเกาะ หากเป็นไปได้ก็ยกให้เขา หรือมาปกครองร่วมกัน เป็นเขตพิเศษ เพราะจีนใหญ่กว่า การยกให้ชาติเล็กกว่า ไม่มีใครว่าได้เลย ว่าคุณกลัว

๕ ฉันรู้ว่าใต้ทะเลมีขุมทรัพย์ เช่น บ่อน้ำมัน แต่ขุมทรัพย์นี้หากจีนพร้อมจะแบ่งกับเพื่อนบ้าน ปัญหาใดก็ไม่มี แต่หากเกิดความโลภ อยากจับจองไว้คนเดียว ชาติเล็กๆ เหล่านั้น จะเจ็บใจยาวนาน จะอิจฉา นิดเดียวนี้เปลี่ยนมิตรเป็นศัตรู เปลี่ยนศัตรูเป็นมิตร

หากจีนใจกว้าง เพื่อนบ้านอยากทำการค้ากับจีน ฉันไม่เคยเห็นเจ้าพ่อที่ไหน จะงกกับเพื่อนบ้าน หากมีเจ้าพ่อแบบนั้น เขาก็อยู่ได้ไม่นาน เพื่อนบ้านคือกำแพงทองแดง ปกป้องเจ้าพ่อ

สหรัฐอเมริกา หากอยากแผ่อิทธิพลเข้ามาทะเลแถบนี้ ก็จะพบว่าจีนมีกำแพงทองแดงปกป้องโดยรอบ คือเพื่อนบ้านที่รักจีน พวกเขาได้แต่ลอยเรืออยู่ห่างๆ ทำตาปริบๆ

ทุกอย่างตรงข้ามกันหมด ยิ่งจีนยโส เพื่อนบ้านยิ่งกลัว ยิ่งหันไปจับมือกับอเมริกา

ในที่สุดก็อย่างที่ฉันบอก หนึ่งต่อห้า จีนจะดับ

สิ่งที่ฉันเห็น เรียบง่าย ที่คนจีนมองไม่เห็น ก็เพราะบาปกรรมนี้อยู่ในพันธุกรรม เห็นใจผู้นำจีนเหลือเกิน พวกเขาไม่อาจข้ามพ้นตัวเอง ไม่อาจแตกต่างไปจากบรรพบุรุษ