จดหมาย

จดหมาย

ประจำวันที่ 8-14 กรกฏาคม 2565 ฉบับที่ 2186

 

จดหมาย

 

• กัญชา

ผมไม่เคยเห็นด้วยเลยกับการใช้กัญชาโดยเสรี

เพราะเมื่อปี 2516 ผมเคยเมามา 3 วัน

เพราะเจ้าหน้าที่ที่ทำกับข้าวเอากัญชาใส่ให้มากเกินไป

แต่อาการเมาไม่มีโทษทางร้าย มีแต่ความกลัวกับง่วงนอน

ตั้งแต่นั้นมาผมไม่เคยใช้อีกเลย

เหมือนเพลงคุณคำรณน สัมบุญณานนท์ ร้องนั่นแหละ

ฉันบ้ากัญชาจนหูตาลาย

เห็นหมูตัวเท่าควาย

คือมักจะเห็นของเล็กเป็นของใหญ่

แต่เมื่อรัฐบาลนี้เห็นด้วย ผมก็ไม่อยากออกความเห็น

ตะวันรอน

อ.ลอง จ.แพร่

 

เดิม จากบ้องไม้ไผ่ พอเหลาลงไป

กลายเป็นบ้องกัญชา

แต่ตอนนี้ บ้องกัญชา

เหลาลงไปจะกลายเป็นอะไรยังไม่รู้

เพราะเกิดกระแสตีกลับ

กลัวกัญชากันอย่างหนัก

ภาพหมูตัวเท่าควายออกมาหลอนกันยกใหญ่

ก็หวังว่าคนเกี่ยวข้องทั้งหลาย จะตั้งบ้อง เอ้ย ลำได้เร็วๆ?!?

• พิบูลสงคราม

จอมพล ป.พิบูลสงคราม จดทะเบียนตั้งพรรคการเมืองของตนเอง

คือพรรคเสรีมนังคศิลา

เป็นพรรคลำดับแรกของประเทศไทยเมื่อวันที่ 29 กันยายน 2498 หลังมีพระราชบัญญัติพรรคการเมือง พุทธศักราช 2498 ออกมาใช้

ซึ่งถือว่าเป็นกฎหมายที่เปิดให้พรรคการเมืองจดทะเบียนพรรคการเมืองได้เป็นครั้งแรกของประเทศ

และหัวหน้าพรรคเสรีมนังคศิลา มีจอมพล ป.พิบูลสงคราม เป็นหัวหน้าพรรค

มี พล.ต.อ.เผ่า ศรียานนท์ เป็นเลขาธิการพรรค

ตอนที่จอมพล ป.ตั้งพรรค อีตาปิยพงศ์ เพิ่งเลื่อนชั้นเรียนจากชั้นประถม 3 ขึ้นประถม 4 มาหมาดๆ

วันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2500 มีการเลือกตั้งครั้งใหญ่เกิดขึ้น

จอมพล ป.พิบูลสงคราม ส่งพรรคเสรีมนังคศิลาของตนลงแข่งขัน ในทีมมีทั้งหมด 9 คน

โดยมีเบอร์ 25 จอมพล ป.พิบูลสงคราม เป็นหัวหน้าพรรค

มีลูกพรรคในทีมอีก 8 คน

เบอร์ 26 พล.อ.ท.ม. (มุนี) เวชยันต์รังสฤษดิ์

เบอร์ 27 พล.อ.พระบริภัณฑ์ยุทธกิจ

เบอร์ 28 พระยาลัดพลีธรรมประคัลภ์

เบอร์ 29 พล.ท.มังกร พรหมโยธี

เบอร์ 30 พล.ท.บัญญัติ เทพหัสดิน

เบอร์ 31 พล.อ.หลวงสวัสดิ์สรยุทธ

เบอร์ 32 พล.อ.เดช เดชประดิยุทธ

เบอร์ 33 พ.ต.รักษ์ ปันยารชุน

โดยมีคำขวัญของพรรคว่า

“ความสุขของประชาชนอย่างเดียวเท่านั้น ที่คณะ 9 คนของเราปรารถนาอย่างยิ่ง ในการเลือกตั้ง 26 กุมภาพันธ์ 2500 ป.พิบูลสงคราม”

ผลการเลือกตั้ง ปรากฏว่าพรรคเสรีมนังคศิลาได้รับชัยชนะ เป็นแกนจัดตั้งรัฐบาล

แต่ปรากฏการณ์เลือกตั้งครั้งนั้น สกปรก มีการโกงกันอย่างมโหฬาร ทั้งไพ่ไฟ การเวียนเทียน

จนประชาชนและนักศึกษาออกมาเดินขบวนขับไล่จอมพล ป.พิบูลสงคราม

จนเป็นเหตุให้จอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ ออกมาปฏิวัติจอมพล ป.พิบูลสงคราม ลูกพี่ของตน

จนจอมพล ป.ต้องหนีออกไปทางเขมร และไปจบชีวิตที่ลี้ภัยอีกหลายปีต่อมาที่ญี่ปุ่น

อิ อิ ตั้งแต่บัดโน้นมาจนถึงบดีนี้ ทหารกับการเมืองแยกกันไม่ออกจริงๆ

ดูทีมของจอมพล ป.ที่ลงสมัครรับเลือกตั้งก็แล้วกัน เป็นจอมพลเสีย 1 พล.ท. พล.อ.ท. 3 พลเอก 3 พันตรี 1 พร้อมทั้งหลวง พระ และพระยาครบถ้วน

มิน่า บ้านเมืองมันถึงเจริญลงฮวบๆ อย่างรวดเร็ว ตั้งแต่บัดนั้นถึงบัดนี้ และคงจะบัดโน้นต่อไปอีกในอนาคตข้างหน้าอย่างแน่นอน

หากลูกหลานคนรุ่นใหม่ของเราไม่รวมพลังกันขับไล่พวกพระเดชพระคุณผู้ถือปืนในเครื่องแบบเหล่านี้ ที่เป็นเจ้ากี้เจ้าการ ทำเป็นคุณพ่อรู้ดี เข้ามาวุ่นวายกับการปกครองบ้านเมืองกันอีกต่อไป

ปิยพงศ์ (เมืองหละปูน) เจ้าเก่า

ป.ล. ภาพประกอบที่เห็น เป็นผ้าเช็ดหน้า ของชำร่วย ที่พรรคเสรีมนังคศิลา แจกและประชาสัมพันธ์ในการเลือกตั้งครั้งนั้น ที่อีตาปิยพงศ์ได้รับแจกจากผู้ใหญ่รายหนึ่ง ที่มอบให้ด้วยความเอ็นดู และถ่ายเก็บไว้เมื่อสามสิบกว่าปีที่แล้ว เพราะผ้าเช็ดหน้าเลือกตั้ง เริ่มเสื่อมสภาพ และเหลืองกรอบไปตามกาลเวลา

 

ในอดีต จอมพล ส.ไล่จอมพล ป.ไปแล้ว

ปัจจุบัน เกิดปรากฏการณ์

“ล้าง” พิบูลสงคราม ขึ้นมาอีก

ล้างให้หายไปจากตึก ถนน สะพาน

และค่ายทหาร

อย่างน่าพิศวง

เหมือนต้องการให้เรื่องของจอมพล ป. เป็นดั่งผ้าเช็ดหน้าพรรคเสรีมนังคศิลา

ที่เหลืองกรอบ เสื่อมสภาพ สูญสลายไป

หรือไม่!?! •