ทางรอดอยู่ในครัว : สำคัญแต่ไม่ซับซ้อน / ครัวอยู่ที่ใจ : อุรุดา โควินท์

ครัวอยู่ที่ใจ

อุรุดา โควินท์

 

ทางรอดอยู่ในครัว

: สำคัญแต่ไม่ซับซ้อน

 

ฉันอยากให้มื้อเช้าเป็นข้าว ข้าวหุงเม็ดเรียงสวย กับข้าวง่ายๆ แต่มีประโยชน์ อืม…อาจมีจานไข่เพิ่ม เพราะมื้อเช้าเราต้องการโปรตีน และพลังงาน

มื้อเช้าเป็นเรื่องสำคัญ แต่เรื่องสำคัญไม่จำเป็นต้องยาก ซับซ้อน หรือแพง บางมื้อเช้าของเราจึงถูกแสนถูก ดัดแปลงจากอาหารที่คุ้นเคยในวัยเยาว์ (ให้ถูกปากมากขึ้น)

เต้าหู้ผัดถั่วงอก เป็นมื้อเช้าที่ฉันและเขาโปรดปรานยิ่ง ในวงเล็บว่า เรามีถั่วงอกที่สดพอ และได้เต้าหู้ที่อร่อย

เต้าหู้ผัดถั่วงอกคือเมนูจากวัยเยาว์ที่ฉันไม่เคยชอบ อันที่จริง ฉันต้องใช้คำว่าเกลียด ไม่ถูกต้องเลยนะ ที่เราจะเกลียดอาหารชนิดใดชนิดหนึ่ง มันต้องมีสักอย่างผิดพลาด-ฉันคิด

เพราะเต้าหู้เป็นวัตถุดิบที่ฉันชอบมาก ถั่วงอกก็เช่นกัน แต่ทำไมฉันไม่เคยสั่งเต้าหู้ผัดถั่วงอกในร้านขายข้าวแกง

ตอนเป็นเด็ก ถ้าแม่ห่อเต้าหู้ผัดถั่วงอกให้ ฉันหน้างอทันที แน่นอน มื้อกลางวันของวันนั้น ฉันอาศัยกับข้าวจากปิ่นโตเพื่อน (มีเพื่อนดีก็รอดตัวไป)

ฉันตั้งแง่กับอาหารจานนี้เสมอมา กระทั่งฉันรู้จักเขา เขาบอกว่า ก๋งของเขาชอบกินเต้าหู้อ่อนทอดมาก เขาทำให้ฉันคิดได้ว่าตาของฉันก็ชอบเมนูเต้าหู้เหมือนกัน

เมนูโปรดของตา คือเต้าหู้อ่อนทอดก้อนใหญ่ๆ ราดหน้าด้วยหมูที่ผัดกับขิงและเต้าเจี้ยว

เต้าหู้อยู่กับครอบครัวของเรามาแสนนาน ทำไมเราไม่ยอมกินเต้าหู้ผัดถั่วงอก-เป็นปัญหาที่น่าสนใจ

เอาล่ะ เริ่มต้นจากเต้าหู้ผัดถั่วงอกของแม่ก็แล้วกัน มันหวานไปนิด น้ำมันหอยเยอะไปหน่อย ถั่วงอกดูเศร้าเกินกว่าจะน่ากิน อา…ซึ่งหมายความว่า หัวใจของจานนี้คือต้องกินตอนร้อน

ส่วนเต้าหู้ผัดถั่วงอกที่ขายในโรงอาหารหรือร้านข้าวแกง สำหรับฉัน มันไม่ค่อยมีรสชาติ เต้าหู้ก็แข็งไป บางเจ้าใช้เต้าหู้แข็งผัดแบบไม่ทอด แถมยังมีน้ำในผัดเยอะจนเกือบจะเป็นแกงจืด และใช่ ถั่วงอกดูเศร้า (มากกว่าของแม่)

ฉันเก็บรายละเอียดสิ่งที่ไม่ชอบในวัยเยาว์ เอามาปรับทำเต้าหู้ผัดถั่วงอกในแบบของฉัน

อันดับหนึ่ง ฉันไม่ใส่เลือดหมู (บางคนชอบใส่) มันไม่มีรส และฉันไม่ชอบกินเลือด

สอง ฉันไม่ใส่ต้นหอม ฉันจะกินถั่วงอก ถั่วงอก และถั่วงอก จานออกจะซีดหน่อย แล้วไงล่ะ อร่อย คือจบ

สาม ฉันไม่เติมน้ำในผัดถั่วงอกเด็ดขาด เพราะถั่วงอกมีน้ำเยอะอยู่แล้ว

สี่ ทำแล้วตักใส่จาน โรยพริกไทยขาว ยกขึ้นโต๊ะโดยพลัน

ห้า ไม่ได้เต้าหู้อ่อนอร่อย ก็ไม่ต้องทำ เช่นกัน ถ้าหาถั่วงอกสดไม่ได้ ควรผ่านไปก่อน

เมื่อใดครบห้าองค์ประกอบ เราจะได้มื้อเช้าเอร็ดอร่อยเกินราคา เหลือเชื่อที่อาหารต้นทุนไม่ถึงห้าสิบบาท คือจานโปรดของเราทั้งคู่

 

อาจเพราะเราเป็นลูกจีน บางเช้าเรากินข้าวสวยในถ้วย เพื่อระลึกถึงก๋งและตา

เนื่องจากเช้านี้มีไข่ดาวด้วย กินข้าวในจานจึงเหมาะกว่า

มักมีคนถามฉัน-ทอดไข่ดาวอย่างไรให้ได้แบบนี้ ปัจจัยมีสองข้อ หนึ่ง ไข่ต้องสด และสอง น้ำมันต้องร้อน และมากพอที่ไข่จะลอย

ตอกไข่สดลงถ้วยใบเล็ก รอน้ำมันในกระทะร้อน เทไข่ลงไปกลางกระทะ แล้วปล่อยให้น้ำมันทำงานกับไข่เอง พอขอบไข่เกรียม ฉันก็แค่ช้อนไข่ขึ้นมาพักในกระชอน

เตรียมพริกน้ำปลาให้พร้อม ใช้ทั้งหัวหอมซอยและกระเทียมซอย บีบมะนาวนิดหน่อย และใส่มะนาวฟานบางๆ สองชิ้น (พริกน้ำปลาที่ทำอย่างใส่ใจช่วยให้เมนูง่ายๆ น่ากินขึ้นอีกเท่าตัว)

คราวนี้ฉันก็พร้อมผัด

 

ตั้งกระทะ ใส่น้ำมันเยอะๆ หั่นเต้าหู้อ่อนเป็นก้อนสี่เหลี่ยมพอดีคำ เท่ากันบ้าง ไม่เท่ากันบ้าง ก็ไม่เป็นไร

ทอดเต้าหู้ตอนน้ำมันร้อนจัด ทิ้งเต้าหู้ไว้จนกว่าเต้าหู้จะลอยขึ้นมาเอง จึงพลิกด้าน หลังจากพลิกไม่นานเต้าหู้ก็เป็นสีทองทั่วก้อน ตักขึ้นมาพักไว้ ถ้าเต้าหู้มาดี ด้านในจะยังนุ่ม ส่วนข้างนอกกรอบ

ตั้งกระทะอีกใบ ใช้น้ำมันใหม่ (นิดเดียว) พอน้ำมันเริ่มร้อน ฉันใส่กระเทียมทุบ ผัดให้หอม แล้วจึงใส่หมูสับ ผัดให้หมูสุก เร่งไฟแรง รอกระทะร้อนขึ้นอีกนิด ค่อยเทถั่วงอกลงไป

ฉันจะเตรียมเครื่องปรุงไว้ในชามถั่วงอกเลย ประกอบด้วย น้ำมันหอยเล็กน้อย เกลือ ซีอิ๊วขาว และน้ำตาลทรายปลายช้อน

ผัดเร็วๆ ให้ถั่วงอกสุก จากนั้นก็เทเต้าหู้ทอดลงกระทะ คลุกให้ร้อนทั่วกัน

ใครชอบต้นหอม ก็ใส่ตอนนี้ แต่ฉันขอข้าม ปิดเตา และตักลงจานเลย

 

เขาเห็นอาหารแล้วยิ้มกว้าง

“คิดถึงก๋งล่ะสิ” ฉันแซว

“ก๋งชอบเต้าหู้จริงจัง บางทีแค่นึ่งราดเต้าเจี้ยว แล้วกินเลย”

เป็นมื้อเช้าที่ดีเหลือเกิน มีทั้งโปรตีนจากไข่ เต้าหู้ และหมู เราเน้นกินกับข้าวให้หมด ตักข้าวคนละครึ่งจาน ตบท้ายด้วยกาแฟร้อนคนละแก้ว

ก่อนแยกย้ายกันทำงาน •