ณัฐวุฒิ-เสื้อแดงและการเลือกตั้ง/ชกคาดเชือก วงค์ ตาวัน

วงค์ ตาวัน

ชกคาดเชือก

วงค์ ตาวัน

 

ณัฐวุฒิ-เสื้อแดงและการเลือกตั้ง

 

การเลือกตั้ง ส.ส.ทั่วประเทศ ที่มีโอกาสเกิดขึ้นเมื่อไหร่ก็ได้ เพราะมรสุมความขัดแย้งภายในพรรครัฐบาลไม่อาจคลี่คลายได้ง่ายๆ หรือถ้าหากรัฐบาลสามารถประคองตัวไปได้ยาวนาน สุดท้ายการเลือกตั้งใหญ่คงต้องเกิดขึ้นในต้นปี 2566 ซึ่งถือว่าไม่นานนัก

บรรยากาศการเตรียมตัวของพรรคการเมืองต่างๆ จึงเป็นไปอย่างคึกคัก ต้องพร้อมรับสถานการณ์ที่อะไรก็เกิดขึ้นได้ในทุกเมื่อ

ขณะเดียวกัน การอยู่มาอย่างยาวนานของคณะนายทหารใหญ่ ตั้งแต่เป็นผู้นำรัฐบาลหลังรัฐประหาร กระทั่งสืบทอดอำนาจผ่านการเลือกตั้ง 2562 โดยเอา 250 ส.ว.มาล็อกโหวตนายกฯ

ส่งผลให้ประเทศไทยเราขาดนักบริหารที่เท่าทันโลก ขาดผู้มีวิสัยทัศน์แหลมคมทางเศรษฐกิจ ดังนั้น สถานการณ์ปากท้องประชาชนจึงยากลำบากมาหลายปี ยิ่งเจอโควิด เจอวิกฤตน้ำมันแพง

สถานการณ์เศรษฐกิจการค้าตกต่ำเช่นนี้ ยิ่งประยุทธ์อยู่ยาวเช่นนี้ ยิ่งทำให้ผู้คนโหยหาพรรคการเมืองที่เคยประสบความสำเร็จในนโยบายด้านเศรษฐกิจ!

ดังนั้น การประกาศเป้าหมายชนะเลือกตั้งแบบแลนด์สไลด์ของพรรคเพื่อไทย จึงดูคึกคักเป็นอย่างมาก

การเข้ามามีบทบาทภายในพรรคเพื่อไทยของอุ๊งอิ๊ง-แพทองธาร ชินวัตร ย่อมทำให้ชาวบ้านรู้สึกเชื่อมโยงไปถึงมันสมองของทักษิณ

แถมการดึง ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำเสื้อแดง กลับบ้านเพื่อไทย ก็สอดรับกับแคมเปญชวนเสื้อแดงกลับบ้านเมื่อไม่นานมานี้

ถือเป็นการปลุกพลังคนเสื้อแดง ซึ่งเป็นรากหญ้าอยู่ในพื้นที่ภาคอีสานและภาคเหนือ ให้ฟื้นกลับมา เพื่อร่วมกันสร้างปรากฏการณ์แลนด์สไลด์ให้พรรคเพื่อไทย

กรณีที่กลุ่มอำนาจปัจจุบัน พยายามสร้างประเด็นสลายขบวนการเสื้อแดง สลายหมู่บ้านเสื้อแดง เป็นที่รู้กันดีว่า ไม่มีทางสลายได้

ที่สำคัญเสื้อแดงเป็นฐานมวลชนของเพื่อไทยอย่างแนบแน่นมายาวนาน

เพราะนโยบายทักษิณ และการให้ความสำคัญกับมวลชนในพื้นที่อีสานและภาคเหนือ เป็นการทำให้คนชนบทเหล่านี้ ได้ตื่นตัวในทางการเมือง และเห็นว่าการเมืองในระบอบประชาธิปไตย ที่สามารถมีส่วนร่วมเลือก ส.ส.และพรรคการเมืองที่มีนโยบายเกี่ยวข้องกับปากท้องและชีวิตของชาวบ้านได้ ทำให้ชีวิตความเป็นอยู่ได้ยกระดับขึ้น

เศรษฐกิจที่พุ่งกระฉูดทั้งในเมืองและในชนบท เป็นความจริงที่เคยพบเห็นกันมาแล้ว

จนเกิดคำกล่าวที่ว่า ประชาธิปไตยสำหรับชาวบ้าน เป็นการเมืองที่จับต้องได้กินได้

แน่นอนสำหรับพรรคไทยรักไทย พรรคพลังประชาชน มาจนถึงพรรคเพื่อไทยนั้น ได้สร้างยุคการเมืองที่ชนะเลือกตั้งด้วยนโยบายอันสัมผัสได้จับต้องได้และได้ประโยชน์แบบเห็นๆ จนกล่าวกันว่า การเมืองแบบซื้อขายเสียง แม้มีอยู่ แต่ไม่มีส่วนชี้ขาดการเลือกตั้ง เพราะนโยบายของพรรคการเมืองประเภท 30 บาทรักษาทุกโรค กองทุนหมู่บ้าน ต่างๆ นานา เหนือกว่าเงินซื้อเสียงไม่กี่ร้อยบาทอย่างลิบลับ

ดังนั้น เมื่อเพื่อไทย โดยลูกสาวของทักษิณ ออกมาเชิญชวนคนเสื้อแดง และชวนณัฐวุฒิ ให้กลับมาร่วมมือกันทำให้พรรคเพื่อไทยประสบความสำเร็จในการเลือกตั้งครั้งต่อไป

จึงฟื้นพลังที่เป็นฐานเสียงใหญ่ภาคอีสานและเหนือของเพื่อไทย ให้กลับมามีชีวิตชีวา พร้อมจะแห่กันเข้าคูหาอย่างคึกคัก

พลังเสื้อแดงอาจจะเหมือนเงียบหายไป หลังเหตุการณ์รัฐประหาร 22 พฤษภาคม 2557 เพราะตกเป็นเป้าของรัฐบาลทหาร ขณะเดียวกันคงบอบช้ำอย่างมากจากเหตุการณ์ปราบม็อบเสื้อแดงในปี 2553 ที่มีผู้เสียชีวิตมากถึง 99 ศพ จึงต้องระมัดระวังตัวไม่เคลื่อนไหวให้ถูกปราบอีก

ไม่เท่านั้นแกนนำเสื้อแดง จตุพร พรหมพันธุ์ ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ต้องเข้าคุกตะรางกันหลายต่อหลายรอบ จนอ่อนล้า

พลังคนเสื้อแดงก็เลยต้องสงบ แต่ก็เหมือนกบดานรอเวลา

จนกระทั่งเกิดม็อบคนรุ่นใหม่ เคลื่อนไหวอย่างร้อนแรงในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา เป็นช่วงที่คนเสื้อแดงปรากฏตัวขึ้นอีกครั้ง โดยเข้าร่วมกับคนรุ่นใหม่ในฐานะพี่เลี้ยงคอยประคับประคอง คอยป้องกันภัย

อีกทั้งแกนนำของขบวนการคนรุ่นใหม่ชู 3 นิ้ว ได้แสดงท่าทีเคารพชื่นชมการต่อสู้ของคนเสื้อแดงในยุคก่อนหน้าอย่างจริงจัง บางคนที่เคยมองเสื้อแดงผิดๆ ด้วยสายตาแบบชนชั้นกลางเมืองหลวง ได้ประกาศคำขอโทษอย่างจริงใจ

ขบวนการคนเสื้อแดงจึงเริ่มมีชีวิตชีวา เพราะที่ต่อสู้มา เคยถูกคนเมืองหลวงปฏิเสธไม่ยอมรับมาตลอด บัดนี้ได้รับคำขอโทษและแสดงความเคารพในการต่อสู้ที่ผ่านๆ มาแล้ว

ที่สำคัญ บาดแผลหรือหนี้เลือดของเสื้อแดง จากเหตุการณ์ 99 ศพ ปี 2553 ยังไม่ได้รับการสะสาง คดีไม่สามารถนำขึ้นสู่กระบวนการศาลได้

แต่ก็ยังจดจำกันไม่ลืมเลือน มีงานรำลึกถึงทุกๆ ปี การทวงถามความเป็นธรรมต่อคนเสียชีวิตร่วมร้อย ยังเข้มข้น

ประวัติศาสตร์ไม่ได้ยาวนานนัก ยังไม่จืดจางไปแต่อย่างใด

การพลิกขั้วการเมืองเมื่อปี 2551 จนนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ได้เป็นนายกฯ ทั้งที่ไม่ใช่ผู้ชนะการเลือกตั้ง เป็นที่รู้กันว่า มีการเจรจาลับเพื่อพลิกขั้วการเมืองและตั้งรัฐบาลใหม่ในค่ายทหาร

เป็นจุดเริ่มต้นทำให้คนเสื้อแดงเริ่มเคลื่อนไหวลงถนน

จนกระทั่งในปี 2553 จึงเริ่มชุมนุมใหญ่ โดยเสื้อแดงจากชนบททั้งภาคอีสาน ภาคเหนือ และภาคกลาง เดินทางมาชุมนุมกันในเมืองหลวงอย่างมืดฟ้ามัวดิน

เรียกร้องการยุบสภา คืนอำนาจให้ประชาชนตัดสินใจกันใหม่ เพราะเห็นว่าที่มาของรัฐบาลไม่ชอบธรรม ไม่ยอมรับรัฐบาลที่เจรจากันในค่ายทหาร

แล้วถูกปราบปราม 99 ศพ ภายใต้อำนาจของกลุ่มนักการเมืองและผู้นำทหาร ที่ร่วมกันจัดตั้งรัฐบาลนั้น

แล้วต่อมา ในการเลือกตั้งปี 2554 พรรคเพื่อไทยสามารถชนะเลือกตั้งได้อย่างถล่มทลายอีก มียิ่งลักษณ์เป็นนายกฯ แต่ก็โดนนักการเมืองและคณะผู้นำทหารกลุ่มเดียวกันกับปี 2551 และ 2553 ก่อการชุมนุมประท้วง ไม่ยอมให้เลือกตั้งใหม่ ขัดขวางเลือกตั้ง จนเป็นเงื่อนไขให้เกิดรัฐประหารล้มรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ในปี 2557

ครบถ้วนกระบวนความคณะเดิมทั้งสิ้น

เป็นข้อเท็จจริงที่ขบวนการเสื้อแดงไม่มีลืม!

 

ความจริงการเลือกตั้งหนล่าสุดคือ 24 มีนาคม 2562 นั้น พรรคเพื่อไทยก็ยังชนะ ได้ ส.ส.เข้าสภามากที่สุด แต่ไม่อาจสู้เสียง 250 ส.ว.ที่ล็อกโหวตนายกฯ จึงทำให้พลังประชารัฐได้ตั้งรัฐบาล มี พล.อ.ประยุทธ์ เป็นนายกฯ สืบต่อจากรัฐบาลรัฐประหาร

ภายใต้กติกาเดิม ที่ 250 ส.ว.ยังมีเสียงเหนือประชาชนที่ไปลงคะแนนเลือกตั้ง

ดังนั้น จึงเกิดกระแส ต้องทำให้ผลการเลือกตั้งครั้งหน้าปรากฏผลแบบถล่มทลาย เพื่อให้พรรคการเมืองฝ่ายประชาธิปไตยรวมเสียงได้เหนือกว่าฝ่ายสืบทอดอำนาจผสมกับ 250 ส.ว.

ขณะเดียวกันด้วยผลงานของรัฐบาลประยุทธ์ ทั้งเรื่องจัดหาวัคซีนโควิด ทั้งเรื่องฟื้นเศรษฐกิจ ทั้งเรื่องราคาน้ำมันแพง และสินค้าแพงขนานใหญ่แพงทั้งแผ่นดิน

เป็นผลงานที่ช่วยหาเสียงให้พรรคเพื่อไทยได้เป็นอย่างดี เพราะผู้คนจะพากันโหยหาฝีมือรัฐบาลแบบทักษิณ

การประกาศเป้าหมายชนะแบบแลนด์สไลด์ของเพื่อไทย จึงสร้างความฮึกเหิมได้อย่างมาก เพราะสถานการณ์ชีวิตความเป็นอยู่ปากท้องประชาชน เป็นตัวเปรียบเทียบสำคัญที่มีผลต่อการตัดสินใจของชาวบ้าน

การกลับมาของณัฐวุฒิ แกนนำเสื้อแดง และการปลุกพลังเสื้อแดงให้มาร่วมมือกันทำแลนด์สไลด์ให้เป็นจริง

จึงเป็นอีกยุทธศาสตร์ของเพื่อไทย ที่น่าจะได้ผลดีอย่างมาก

ภาพเดิมที่ยังคงติดตามชาวเสื้อแดงในเหตุการณ์ 99 ศพ ภายใต้อำนาจของคณะนักการเมืองและผู้นำกองทัพ ซึ่งก็คือคณะเดียวกันกับการชิงอำนาจรัฐบาลในปี 2551 และคณะเดิมนี่แหละที่ร่วมกันก่อการในปี 2557

ภาพเหล่านี้ จึงเป็นเรื่องสวนทางกับที่บอกกล่าวกันง่ายๆ ว่า ขบวนการเสื้อแดงสลายไปหมดแล้ว หมู่บ้านเสื้อแดงไม่มีอีกแล้ว

การเลือกตั้งครั้งต่อไป ต้องจับพลังขับเคลื่อนของเสื้อแดงที่แนบแน่นกับเพื่อไทยให้ดี!