2503 สงครามลับ สงครามลาว (85)/บทความพิเศษ พล.อ.บัญชร ชวาลศิลป์

พล.อ.บัญชร ชวาลศิลป์

บทความพิเศษ

พล.อ.บัญชร ชวาลศิลป์

 

2503 สงครามลับ

สงครามลาว (85)

 

14 มีนาคม

ข้าศึกเริ่มปฏิบัติการแต่เช้าโดยยิงปืนใหญ่และอาวุธหนักเข้าสู่ที่ตั้งฝ่ายเราทั่วบริเวณ โดยเฉพาะที่ CW และ CA บนสกายไลน์ (ที่ตั้งฐานกองพัน 224 กรม 24 ฝ่ายนายพลวังเปา) พร้อมกับใช้กำลังทหารราบเข้าตี ปืนใหญ่ฝ่ายเราพยายามยิงช่วยอย่างสุดความสามารถทั้งๆ ที่ฐานยิง “วีนัส” ก็ถูกระดมยิงด้วย ป.130 จากระยะไกล และ ปรส.จากสันเขาจากด้านในของล่องแจ้ง

ข้าศึกยิงปืนใหญ่จำนวนมากมายังบริเวณ บก.ฉก.วีพี 2 นัด และแหล่งรวมรถหลายนัด ทำให้ฝ่ายเราได้รับบาดเจ็บหลายนาย

ก่อนเที่ยงวันเล็กน้อย ฝ่ายนายพลวังเปาก็เสียที่มั่นบนสกายไลน์ที่ CW และ CA จนต้องถอนตัวลงมายังบริเวณสนามบิน

ต่อจากนั้นกำลังทางอากาศของลาวคือ T-28 ได้ทำการโจมตีต่อที่ตั้งที่ถอนตัวมาแล้วคือ CW และ CA อย่างหนักตลอดเวลาเพื่อสังหารข้าศึกซึ่งกำลังหนุนเนื่องกันขึ้นมาบนสันเขาภายใต้การระดมยิงของ ปตอ. แต่ T-28 ยังคงทิ้งระเบิดต่อไปจนถึงเวลาค่ำจึงได้ใช้ปืนใหญ่ของเราระดมยิงต่อไปตลอดคืน

และในคืนนั้น B-52 ได้มาทิ้งระเบิดถล่มแนวข้าศึกอีกหลายครั้ง

 

15 มีนาคม

การยิงรบกวนล่องแจ้งของข้าศึกยังคงดำเนินต่อไป

เริ่มด้วยบริเวณโรงพยาบาลและใกล้ถ้ำซึ่งเป็นที่ตั้ง บก.พัน.ป.ทสพ.635 และศูนย์ประสานการยิงสนับสนุน

แต่ฝ่ายเราไม่ได้รับอันตราย

เป้าหมายต่อไปที่ถูกยิงเป็นระยะๆ ตลอดวันก็คือบริเวณวังเจ้ามหาชีวิตและที่ตั้ง ป.105 1 กระบอกของฝ่ายนายพลวังเปาบนยอดเนิน

ฝ่ายเราส่งกำลัง 1 กองร้อยร่วมกับ 2 กองพันของนายพลวังเปา คือกองพัน 234 และ 235 บุกขึ้น CW เพื่อยึดที่ตั้งคืนภายใต้การสนับสนุนด้วยการทิ้งระเบิดจาก T-28 ของกองทัพอากาศลาวและการระดมยิงอย่างหนาแน่นของปืนใหญ่

ข้าศึกต่อสู้ต้านทานอย่างเหนียวแน่น ไม่สามารถยึดคืนได้

 

16 มีนาคม

ฝ่ายข้าศึกเริ่มอ่อนกำลังลงอันเป็นผลจากการทิ้งระเบิดอย่างรุนแรงโดยเฉพาะจาก B-52 ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา

ทหารของนายพลวังเปา 2 กองพันร่วมด้วยทหารเสือพรานอีก 1 กองร้อยได้พยายามบุกเข้ายึดเนิน CA บนสกายไลน์ต่อไป ภายใต้การสนับสนุนด้วยกำลังทางอากาศอย่างหนักและสามารถยึดเนินนี้ได้ก่อนสิ้นแสงตะวันรอน

จึงเป็นอันว่าฝ่ายเราสามารถยึดสันเขาขอบฟ้าสกายไลน์รอบๆ ล่องแจ้งไว้ได้

“ผาอิน” บันทึกเป็นข้อสังเกตว่า

“ในการรบเพื่อรักษาล่องแจ้งในครั้งนี้ มีการใช้กำลังทางอากาศอย่างมากมายที่สุดที่เคยปรากฏนับตั้งแต่กองพันของเราเข้าปฏิบัติการตั้งแต่ 27 มีนาคม 2514 ทำให้เราคิดว่า ถ้าหากฝ่ายสหรัฐสนับสนุนเช่นนี้ที่ทุ่งไหหิน ฝ่ายเราคงไม่แตกกระจัดกระจายอย่างนั้นเป็นแน่”

ปืนใหญ่ทุกฐานยิงทำงานอย่างหนักตลอดคืน เพราะนอกจากจะต้องยิงคุ้มครองให้หน่วยต่างๆ บนสกายไลน์แล้ว ข้าศึกบางส่วนยังพยายามเข้าตีซำทองภายใต้การสนับสนุนของรถถัง และนอกจากนั้น ยังมีการปะทะกันทางทิศตะวันออกของล่องแจ้งคือที่น้ำผา ซึ่งกำลังทหารนายพลวังเปาควบคุมเส้นทางเข้าสู่ล่องแจ้งด้านนั้นอยู่ แต่ในที่สุดฝ่ายเราก็สามารถควบคุมสถานการณ์ไว้ได้ทุกจุด

ฐานยิงแคนเดิลของ พัน.ป.ทสพ.635 ได้รับ ป.105 1 กระบอก ซึ่งเคลื่อนย้ายลงมาจากฐานยิงไทเกอร์ จึงได้เริ่มเปิดภารกิจยิงตั้งแต่เวลา 13.00 น. เป็นต้นไป

ในตอนกลางคืน เครื่องบินสปุ๊กกี้ติดปืนกลอากาศซึ่งมีอัตราความเร็วในการยิง 6,000 นัดต่อนาที เครื่องบินสเปคเตอร์ติด ปตอ. ขนาด 40 ม.ม. และปืนใหญ่จากฐานยิงต่างๆ ผลัดกันสนับสนุนฝ่ายเราในที่ตั้งต่างๆ บนแนวสกายไลน์อย่างใกล้ชิด

นอกจากนั้น เมื่อเริ่มวันใหม่ ฝนได้ตกกระหน่ำลงมาทั่วบริเวณและทุกฐานร้องขอการยิงส่องสว่างมา ปืนใหญ่ของเราจึงต้องทำงานหนักท่ามกลางสายฝนและลมหนาวตลอดคืน

 

17 มีนาคม

เหตุการณ์ทั่วไป

สงบเงียบ

 

18 มีนาคม : เสียซำทอง

เมื่อบีซี 606 และบีซี 608 ต้องถอนตัวออกจากสันเนินด้านเหนือและด้านตะวันออกเฉียงเหนือของซำทอง ฝ่ายเราจึงเหลือเพียงกลุ่มที่มั่นตั้งรับทางด้านใต้ของที่ราบซำทอง คือ บีซี 607 และบีซี 610 ซึ่งควบคุมเส้นทางจากซำทองสู่ล่องแจ้ง ข้าศึกจึงรวมกำลังเข้าสู่ที่ราบซำทองเพื่อเข้าตีฝ่ายเราส่วนนี้

05.30 น. ข้าศึกใช้ ค. และ ปรส. ระดมยิงอย่างรุนแรงพร้อมทั้งส่งกำลังทหารราบเคลื่อนที่เข้าประชิดบีซี 610 ซึ่งยังยึดที่มั่นอยู่ที่ DT

16.30 น. ตรวจการณ์เห็นรถถังข้าศึกและรถสายพานลำเลียงพล 3 คันที่บริเวณสนามบินซำทองวิ่งตรงเข้าหาที่มั่นตั้งรับของบีซี 610 ทางใต้ของซำทอง ฝ่ายเราต่อสู้ด้วยอาวุธทุกชนิด เช่น เครื่องยิงจรวดต่อสู้รถถัง ลูกระเบิดขว้าง ปรากฏว่ารถสายพานลำเลียงพลข้าศึกเสียหายไฟไหม้ 2 คัน อีก 1 คันหลบหนีไป

สอดคล้องกับรายงานของวิสกี้ 01 ผู้นำอากาศยานหน้าที่ CC บนสกายไลน์ 1 ว่า เห็นรถถังไฟไหม้ที่ซำทองซึ่งอาจจะเป็นรถสายพานลำเลียงพล แต่รถถังข้าศึกไม่ได้รับความเสียหาย ที่มั่น DT ของบีซี 610 และ DC ของบีซี 607 ถูกระดมยิงด้วยอาวุธหนักและปืนใหญ่รถถังข้าศึกซึ่งใช้เป็นฐานยิงไม่ใช้เข้าโจมตี

17.30 น. บีซี 610 กับบีซี 607 ตัดสินใจสละที่มั่นเล็ดลอดถอนตัวจากที่ตั้ง

ข้าศึกจึงเข้ายึดซำทองได้อย่างสิ้นเชิง

 

การสูญเสีย

ในการรบเพื่อป้องกันซำทองครั้งนี้ ฝ่ายเราสูญกำลังพลในขั้นต้นรวม 567 นาย

แยกเป็นเสียชีวิตและสูญหายจากการรบ 350 นาย บาดเจ็บส่งกลับสายแพทย์ 217 นาย

จำแนกตามหน่วยดังนี้ บีซี 606 ยอดเดิม 371 นาย สูญเสีย 225 นาย คงเหลือ 146 นาย

บีซี 607 ยอดเดิม 382 นาย สูญเสีย 151 นาย คงเหลือ 231 นาย

บีซี 608 ยอดเดิม 399 นาย สูญเสีย 137 นาย คงเหลือ 262 นาย

และ บีซี 610 ยอดเดิม 364 นาย สูญเสีย 44 นาย คงเหลือ 320 นาย

 

อีกครั้งที่สกายไลน์

เมื่อข้าศึกเข้ายึดซำทองได้แล้ว สกายไลน์จึงเป็นแนวที่มั่นหน้าสุดและเป็นแนวที่มั่นเดียวที่ป้องกันล่องแจ้ง ฐานยิงไทเกอร์กลายเป็นกองร้อยปืนใหญ่ที่ตั้งยิงในแนวหน้าสุด เป็นหน่วยที่จะต้องเผชิญหน้าและตั้งรับข้าศึกร่วมกับทหารราบบนแนวสกายไลน์ โดยมีทหารราบ 1 กองร้อยที่ CE ซึ่งอยู่บริเวณหุบเขาเชื่อมต่อควบคุมเส้นทางระหว่างสกายไลน์ 1 กับสกายไลน์ 2 มีที่ทางแยกไปล่องแจ้ง-ซำทอง

การกำหนดที่ตั้งยิงปืนใหญ่ไว้ในแนวหน้าเช่นนี้ นอกจากทำให้ฐานยิงไทเกอร์ล่อแหลมต่ออันตรายเพราะมีโอกาสถูกเข้าตีจากข้าศึกเป็นหน่วยแรกๆ แล้ว

การรบประชิดยังจะทำให้ไม่สามารถยิงสนับสนุนหน่วยทหารราบได้

สูญเสียอำนาจการยิงจากอาวุธหนักซึ่งจำเป็นต่อการรบ

 

19 มีนาคม

ข้าศึกเริ่มปฏิบัติการแต่เช้าโดยส่งกำลังหนุนเนื่องเข้าตีฝ่ายเราตลอดแนวสกายไลน์ภายใต้การยิงสนับสนุนด้วยอาวุธหนักนานาชนิด ปืนใหญ่ฝ่ายเรายิงสนับสนุนตลอด 24 ชั่วโมงโดยไม่มีการหยุดพัก กำลังทางอากาศของสหรัฐ และกองทัพอากาศลาวเข้าทำการสนับสนุนบ้าง แต่ไม่ต่อเนื่องนัก

08.00 น. ฝ่ายเราสูญเสียที่มั่นที่ CA สถานการณ์ที่ล่องแจ้งจึงกลับตึงเครียดอีกครั้งหนึ่ง

ข้าศึกส่งข่าวว่าจะบุกขึ้นยึดแนวสกายไลน์ทุกด้านให้ได้ โดยพยายามที่จะส่งกำลังเข้าประชิดที่ตั้งฝ่ายเราเพื่อหลบเลี่ยงการถูกทิ้งระเบิดซึ่งไม่สามารถทิ้งใกล้ฝ่ายเราเกินไปได้

ข้าศึกบางส่วนเล็ดลอดมาตามสันเขาเข้ามาตั้ง ปตอ. และ ปรส. ยิงรบกวนภายในล่องแจ้งเป็นครั้งคราว

ฝ่ายนายพลวังเปามีการโยกย้ายกำลังเข้าอุดช่องทางสำคัญเข้าสู่ล่องแจ้งเกือบตลอดวัน

15.30 น. ฝูงบินทิ้งระเบิด F 4 เข้าทำการทิ้งระเบิดรอบที่ตั้งฝ่ายเราบน CC ซึ่งเป็นแนวตั้งรับบนสกายไลน์ปีกตะวันตก ในตอนค่ำข้าศึกทุ่มเทกำลังเข้าตีสกายไลน์ทั้งด้านตะวันตกและตะวันออก

ฝ่ายเราต้องเสียที่มั่นไปอีก 2 แห่งคือที่ CD ฝั่งตะวันออก และ CC ฝั่งตะวันตก

 

20 มีนาคม

ข้าศึกระดมยิงอาวุธหนักเข้ามาในบริเวณล่องแจ้งตลอดเวลา

ข้าศึกบางส่วนเล็ดลอดเข้ามาตั้งอาวุธหนักที่สันเขาด้านในของสกายไลน์หลายจุด

ฝ่ายเราพยายามยิงโต้ตอบและใช้ปืนใหญ่จากทุกฐานยิงทำลายยอดเนินบนสกายไลน์ซึ่งฝ่ายเราถอนตัวลงมาแล้วเพื่อจำกัดเสรีในการปฏิบัติของข้าศึก

ตอนค่ำรถถังข้าศึกเริ่มเคลื่อนไหวจากบริเวณซำทองและยิงปืนใหญ่มายังบริเวณสกายไลน์ด้านตะวันตกซึ่งฝ่ายเราเสียที่มั่น CC แล้ว แต่ยังเกาะฐานเดิมนี้อยู่

และขอปืนใหญ่ยิงขัดขวางไม่ให้ข้าศึกเข้าฐานได้

 

21 มีนาคม

ล่องแจ้งยังคงถูกโจมตีอย่างหนักด้วยอาวุธต่างชนิดอยู่ตลอดเวลา บก.ฉก.วีพีพยายามจัดกำลังใหม่ขึ้น 1 กองพันเพื่อขึ้นยึด CW คืน แต่กลับตกเข้าไปอยู่ในวงล้อมต้องตีฝ่าออกมาเมื่อตอนค่ำ ฝ่ายเราได้รับบาดเจ็บเป็นจำนวนมาก

นอกจากนั้น ทางด้านตะวันตก ข้าศึกยังได้บุกเข้าตีจนต้องสูญเสีย CG อันเป็นปีกซ้ายสุดอีกด้วย หน่วยที่ยึดรักษา CG ต้องถอนตัวไปรวมกับกำลังนายพลวังเปาที่น้ำยู้ ฝ่ายเราพยายามขึ้นตีคืนแต่ไม่ประสบความสำเร็จ

 

22 มีนาคม

ทั้ง 2 ฝ่ายไม่มีการปฏิบัติการทางพื้นดินที่สำคัญแต่อย่างใด นอกจากการยิงปืนใหญ่และอาวุธหนัก ฝ่ายเราได้รับกำลังทหารเสือพรานเพิ่มเติมอีก 3 กองพัน คือ พัน. 601 และ 602 จากสุวรรณเขตอีกครั้งหนึ่ง และ พัน.ทสพ.620 ซึ่งเพิ่งเสร็จสิ้นการฝึกจากค่ายฝึกน้ำพอง กำลังทั้งหมดลำเลียงโดยเครื่องบินคาริบูมายังสนามบินล่องแจ้งท่ามกลางการยิงขัดขวางของอาวุธหนักข้าศึกเป็นระยะๆ

12.00 น. พัน.ป.ทสพ.635 ซึ่งบัดนี้ปฏิบัติการโดยมีฐานยิงแคนเดิลแห่งเดียวได้รับ ป.105 เพิ่มอีก 1 กระบอก

โดยลำเลียงลงมาจากฐานยิงไทเกอร์บนสกายไลน์

 

23 มีนาคม

ฐานยิงแคนเดิลสามารถใช้ ป.105 ได้ 2 กระบอก และ ค.4.2 จำนวน 2 กระบอก ยิงสนับสนุนหน่วยบนสกายไลน์ต่อไป

ฝ่ายเราใช้เทคนิคขั้นสูง “ยิงพร้อมกัน ณ เป้าหมาย-Time On Target” รวมอำนาจการยิงจากหลายฐานยิง

เพื่อให้เกิดอำนาจการทำลายสูงสุดต่อที่หมายข้าศึกซึ่งรวมตัวกันและกำลังพยายามติดตั้งอาวุธหนักบน CW และ CA

 

24 มีนาคม

ทั้ง 2 ฝ่ายต่างใช้ความพยายามอย่างหนักในการครอบครองภูมิประเทศสำคัญบนสกายไลน์ให้ได้

ฝ่ายข้าศึกมีรถถังซึ่งมีอำนาจการทำลายและข่มขวัญชุมนุมอยู่บริเวณซำทอง ฝ่ายเรามีกำลังทางอากาศซึ่งลิดรอนโจมตีกำลังข้าศึกอยู่ตลอดเวลาที่ตรวจการณ์พบ

พัน.ป.ทสพ.635 ยิงสนับสนุนเป็นวันสุดท้ายเนื่องจากครบกำหนดการปฏิบัติและเดินทางกลับประเทศไทยในอีก 3 วันต่อมา