ปิดฉากหวย 30 ล้าน ศาลฎีกายืนยกฟ้อง ‘ครูปรีชา’ ลั่นสู้ต่อ แฉบานปลาย 12 คดี/อาชญา ข่าวสด

อาชญา ข่าวสด

 

ปิดฉากหวย 30 ล้าน

ศาลฎีกายืนยกฟ้อง

‘ครูปรีชา’ ลั่นสู้ต่อ

แฉบานปลาย 12 คดี

 

นับเป็นคดีมหากาพย์ที่อยู่ในความสนใจของสังคมอย่างกว้างขวางนานกว่า 5 ปี

สำหรับคดีหวยอลวน 30 ล้านบาทอันอื้อฉาวที่ จ.กาญจนบุรี ข้อพิพาทระหว่างลุงจรูญ วิมูล ตำรวจนอกราชการที่มีล็อตเตอรี่รางวัลที่ 1 ในมือ กับครูปรีชา ใคร่ครวญ ที่อ้างว่าเป็นผู้ซื้อสลากชุดดังกล่าว แต่ทำหล่นหายที่ตลาดนัด ก่อนมีคนเก็บไปขึ้นเงิน

ต่อสู้กันทั้งในสนามสื่อ และเรื่องราวทางกฎหมาย ซึ่งคดีหลักก็คือหวยดังกล่าวเป็นของใครกันแน่

สุดท้ายก็ปิดฉากลง เมื่อศาลฎีกามีคำพิพากษาชัดเจนยกฟ้องกรณีที่ครูปรีชาเป็นโจทก์ ฟ้องลุงจรูญฐานยักยอกทรัพย์

ให้เหตุผลว่าครูปรีชาไม่ได้เป็นผู้เสียหาย จึงไม่มีอำนาจฟ้อง

ย้ำเหมือน 2 ศาลที่ผ่านมาว่าสลากกินแบ่งรัฐบาลที่ถูกรางวัล 30 ล้านบาทนั้นเป็นของลุงจรูญ

ส่วนบทสรุปของคดีต่างๆ ที่งอกเงยขึ้นมาระหว่างทาง คงต้องติดตามดูว่าจะมีบทสรุปอย่างไร

ลุงจรูญโขว์คำพิพากษา

ฎีกายุติยกฟ้องหวย 30 ล้าน

มาถึงบทสรุปจนได้ด้วยคำพิพากษาศาลฎีกา โดยเมื่อวันที่ 7 มิถุนายน ศาลจังหวัดกาญจนบุรี ออกนั่งบัลลังก์อ่านคำพิพากษาศาลฎีกา ในคดีที่นายปรีชา ใคร่ครวญ อดีต ผอ.โรงเรียนแห่งหนึ่งใน จ.กาญจนบุรี เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง ร.ต.ท.จรูญ วิมูล อดีตนายตำรวจนอกราชการ ในความผิดฐานยักยอกทรัพย์ รับของโจร

เนื่องจากนายปรีชาอ้างว่าเป็นเจ้าของสลากกินแบ่งรัฐบาล งวดวันที่ 1 พฤศจิกายน 2560 หมายเลข 533726 ที่ถูกรางวัลที่ 1 จำนวน 5 ใบ ได้เงินรางวัล 30 ล้านบาท แต่ต่อมา ร.ต.ท.จรูญอ้างเป็นเจ้าของและนำไปขึ้นเงินรางวัลที่สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล

โดยคดีดังกล่าว ศาลจังหวัดกาญจนบุรี ซึ่งเป็นศาลชั้นต้น พิพากษายกฟ้อง ต่อมานายปรีชายื่นอุทธรณ์ต่อศาลอุทธรณ์ ภาค 7 ซึ่งต่อมาศาลอุทธรณ์ก็พิพากษายืนยกฟ้องเช่นกัน นายปรีชาจึงยื่นฎีกา

ทั้งนี้ ศาลฎีกาอ่านคำพิพากษา ระบุว่า พิเคราะห์แล้วเห็นว่า นายปรีชาซึ่งเป็นโจทก์ ไม่ใช่ผู้เสียหายตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 2(4) ที่ศาลล่างทั้งสองวินิจฉัยว่าโจทก์ไม่มีอำนาจฟ้อง และพิพากษายกฟ้องมานั้น ศาลฎีกาเห็นพ้องด้วย

ฎีกาของโจทก์ฟังไม่ขึ้น พิพากษายกฟ้อง แสดงว่าล็อตเตอรี่ที่ถูกรางวัล 30 ล้าน เป็นของ ร.ต.ท.จรูญ

อย่างไรก็ตาม ก็ไม่ได้หมายความว่าทุกอย่างจะสิ้นสุด เมื่อทั้ง 2 ฝ่ายยืนยันดำเนินดีกันต่อในหลากหลายข้อหา

โดยนายปรีชาระบุว่า ไม่ได้หนักใจอะไรกับผลของคำพิพากษา เพราะยังไม่แพ้คดี คำพิพากษาของศาลไม่ได้ระบุว่าสลากกินแบ่งชุดนี้เป็นกรรมสิทธิ์ของใคร จึงต้องพิสูจน์ความจริงด้วยการฟ้องคดีแพ่ง พิสูจน์ตัวตนเจ้าของต่อไป และมีพยานหลักฐานอีกหลายชิ้นที่พบภายหลัง และไม่ได้นำเข้าสู่กระบวนการพิจารณาในคดีดังกล่าว

ขณะที่นายอาคม คงสวัสดิ์ ทนายความของ ร.ต.ท.จรูญ เปิดเผยว่า ก่อนนี้มีคดีที่ฟ้องนายปรีชาไว้แล้ว 1 คดี คือคดีฟ้องเท็จ ซึ่งศาลจำหน่ายคดีไว้ชั่วคราว จากนี้จะนำผลคำพิพากษาศาลฎีกายื่นเพื่อให้กระบวนพิจารณาคดีดำเนินต่อไป

ไม่เพียงแค่นั้น จะพิจารณาถึงกลุ่มคนที่ให้การเป็นพยานโจทก์ ที่แม้จะให้การสอดคล้องกัน แต่พบว่ามีการปรุงแต่งข้อเท็จจริง ทำให้เป็นการให้การที่ขัดกับความเป็นจริง ซึ่งจะต้องนำคำพิพากษามาศึกษา เพื่อไปยื่นฟ้องดำเนินคดีกับกลุ่มพยานของครูปรีชา ที่ให้การสร้างความเสียหายให้ ร.ต.ท.จรูญ ส่วนจะมีใครบ้างต้องรอดูกัน

ยืนยันมีคนติดคุกแน่ และไม่ใช่ครูปรีชาคนเดียว

เป็นคดีที่ยืดเยื้อกันอีกนานแน่นอน!!

3เจ๊ให้กำลังใจ

ย้อนที่มาปมสลากอลเวง

สําหรับคดีนี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 5 ธันวาคม 2560 เมื่อนายปรีชาแจ้งความที่ สภ.เมืองกาญจนบุรี ว่าถูก ร.ต.ท.จรูญขโมยล็อตเตอรี่ที่ถูกรางวัลที่ 1 งวดวันที่ 1 พฤศจิกายน 2560 โดยระบุว่า ก่อนหน้านี้ตนซื้อล็อตเตอรี่โดยเน้นเลขท้าย 26 มาตลอดเนื่องจากเป็นเลขมงคล

จนกระทั่งงวดวันที่ 1 พฤศจิกายน 2560 ก็โทรศัพท์สั่งซื้อกับแม่ค้าที่เคยซื้อกันมาประจำ 5 ปี บอกให้เก็บเลขท้าย 26 เอาไว้ให้ ต่อมาวันที่ 26 ตุลาคม 2560 แม่ค้าล็อตเตอรี่ก็โทรศัพท์มาบอกว่าหาเลขท้าย 26 ให้ได้แล้ว 4 ชุด ชุดละ 5 ใบ จึงเดินทางมาเอาที่ตลาดนัดเรดซิตี้ จ.กาญจนบุรี เมื่อวันที่ 31 ตุลาคม เวลาประมาณ 16.00 น.

เมื่อจ่ายเงินเรียบร้อย ก็เอาสลากทั้งหมดใส่กระเป๋าเสื้อ แล้วเดินซื้อของตามตลาดนัด จากนั้นก็ไปรับลูกสาวกลับบ้าน เมื่อถึงบ้านก็ควักล็อตเตอรี่ออกจากกระเป๋าเสื้อ เพื่อเอาไปเก็บ แต่ปรากฏว่ามีล็อตเตอรี่เพียงแค่ 3 ชุดเท่านั้น ซึ่งจำได้ว่าชุดที่หายไปคือหมายเลข 533726 จึงโทรศัพท์ไปถามแม่ค้า เขาก็ยืนยันว่าให้มาแล้วแน่นอน ก็ไม่ได้คิดอะไร

จนมาวันที่ 1 พฤศจิกายน แม่ค้าก็ขับรถมาหาตนที่บ้านเพื่อแสดงความยินดี บอกว่าเราถูกรางวัลที่ 1 แต่ไปหายังไงก็ไม่พบ คนขายกลับไปเช็กต้นขั้วก็ยืนยันว่าตนถูกรางวัลที่ 1 แน่นอน

จึงไปแจ้งความที่ สภ.เมืองกาญจนบุรี แล้วนำใบแจ้งความไปแจ้งต่อสำนักงานสลากฯ

กระทั่งวันที่ 28 พฤศจิกายน สำนักงานสลากฯ แจ้งมาทางตำรวจ และตำรวจก็ประสานตนไปพบ เนื่องจากมีคนนำสลากรางวัลที่ 1 จำนวน 1 ชุดไปขึ้นรางวัล พบว่าเป็น ร.ต.ท.จรูญ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงประสานให้มาพบตามที่นัดหมาย และได้เจรจากันโดยมี พล.ต.ต.สุทธิ พวงพิกุล ผบก.ภ.จว.กาญจนบุรี ในขณะนั้น เป็นคนไกล่เกลี่ยเจรจา เพราะไม่ต้องการขึ้นศาล เนื่องจากเป็นข้าราชการเหมือนกัน แต่เมื่อเจรจาไม่รู้เรื่องจึงต้องแจ้งความดำเนินคดี

ขณะที่ ร.ต.ท.จรูญที่ถูกแจ้งความดำเนินคดี เผยว่า ยืนยันว่าสลากที่ถูกรางวัลเป็นของตน โดยช่วงเย็นวันที่ 31 ตุลาคม ตนไปจ่ายกับข้าวที่ตลาดนัดเรดซิตี้ แวะซื้อล็อตเตอรี่เลขท้าย 26 เมื่อถึงแผงค้าพบเลขท้าย 26 อยู่ 2 ชุด จึงซื้อมา 1 ชุด 5 ใบ เป็นเงิน 500 บาท และไม่ได้สนใจว่าเลขข้างหน้าเป็นอะไร หวังแค่ถูกเลขท้าย 2 ตัวเท่านั้น

โดยเมื่อเข้าไปเจรจากลับบอกให้แบ่งรางวัลกันคนละครึ่ง ซึ่งตนไม่ยอม เพราะซื้อล็อตเตอรี่มาเองกับมือ

ลุกลามจนกระทั่งกองปราบปรามต้องเข้ามาคุมคดีด้วยตัวเอง พร้อมเห็นพิรุธการทำสำนวน แจ้งข้อหาเอาผิดตำรวจไปหลายนาย

และปิดฉากคดีเจ้าของสลากนี้ด้วยคำพิพากษาศาลฎีกา

ปรีชาสู้ต่อ

เปิดทั้ง 12 คดีฟ้องกันนัว

ทั้งนี้ หากย้อนไปดูหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ ที่ฝ่าย ร.ต.ท.จรูญใช้ต่อสู้ในศาล ก็คือคลิปเสียงการสนทนาที่นายปรีชาเคยระบุว่าไม่ได้ถูกรางวัล และสัญญาณโทรศัพท์ของนายปรีชาที่ใช้พิสูจน์ว่า คำให้การของครูปรีชาที่อ้างว่าเดินทางไปซื้อล็อตเตอรี่ที่ตลาดเรดซิตี้ ในวันที่ 31 ตุลาคม 2560 นั้นไม่เป็นความจริง

เนื่องจากเบสสัญญาณโทรศัพท์ระบุว่าในวันดังกล่าว พบว่านายปรีชาออกจากโรงเรียนเทพมงคล ซึ่งเป็นสถานที่ทำงาน เวลา 16.26 น. และไปรับลูกที่โรงเรียนวิสุทธรังษี ต.ท่าล้อ อ.ท่าม่วง ในเวลา 16.56 น. ไม่ได้แวะซื้อสลากที่ตลาดเรดซิตี้ตามที่กล่าวอ้าง เนื่องจากเวลาดังกล่าว นายปรีชาขับรถติดไฟแดงอยู่ที่สี่แยกอู่ทอง

ขณะที่นายษิทรา เบี้ยบังเกิด ทนายความของ ร.ต.ท.จรูญ สรุปคดีมหากาพย์หวย 30 ล้านว่ามีการฟ้องร้องกันถึง 12 คดี

ประกอบด้วย 1. คดีที่ศาลฎีกาพิพากษายกฟ้อง ร.ต.ท.จรูญในคดียักยอกและรับของโจร

2. คดีที่นายปรีชาฟ้อง ร.ต.ท.จรูญ จากการให้สัมภาษณ์ว่า “คนที่เลวโดนสันดาน การศึกษาก็ช่วยไม่ได้ ซึ่งนายปรีชาถอนฟ้องไป

3. คดีนายปรีชาฟ้องนายษิทรา ข้อหาหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา ต่อมานายปรีชาถอนฟ้อง

4. คดีเจ๊บ้าบิ่น รัตนาพร สุภาทิพย์ ฟ้องนายษิทราและนายจรูญ ข้อหาแจ้งความเท็จ กลั่นแกล้งผู้อื่นให้รับโทษอาญา จากกรณีแจ้งความเจ๊บ้าบิ่นขายสลากเกินราคา คดีนี้ศาลพิพากษายกฟ้อง

5. คดีเจ๊บ้าบิ่นฟ้องนายษิทรา ข้อหาให้การเท็จกับพนักงานสอบสวน ศาลพิพากษายกฟ้อง

6. เจ๊บ้าบิ่นฟ้อง ร.ต.ท.จรูญ ข้อหาให้การเท็จกับพนักงานสอบสวน ศาลพิพากษายกฟ้อง

7. นายแผน หรือนายฐนุกร เหลืองใหม่เอี่ยม ฟ้อง ร.ต.ท.จรูญ ข้อหาแจ้งความเท็จ กลั่นแกล้งผู้อื่นรับโทษทางอาญา จากการดำเนินคดีนายแผนที่กองปราบปราม ศาลจำหน่ายคดีชั่วคราว เพื่อรอฟังผลคดีที่นายแผนถูกกองปราบฯ ดำเนินคดี

8. นายปรีชาฟ้อง ร.ต.ท.จรูญว่าฟ้องเท็จ กรณีฟ้องนายปรีชาเบิกความเท็จเรื่องอายัดเงิน ศาลจำหน่ายคดีชั่วคราว รอฟังผลคดียักยอกทรัพย์

9. นายปรีชาฟ้อง ร.ต.ท.จรูญ ฐานละเมิด เรียกค่าเสียหาย 30 ล้านบาท ศาลมีคำสั่งถอดอายัด และคืนเงินให้ ร.ต.ท.จรูญ

10. ร.ต.ท.จรูญฟ้องนายปรีชาและทนายความข้อหาฟ้องเท็จ ศาลให้รอผลคดีหลักที่ศาลฎีกาพิพากษา

11. ร.ต.ท.จรูญฟ้องทนายวรยุทธ บุญวงศ์ใส ทนายความนายปรีชา ว่าฟ้องเท็จ ซึ่งนายวรยุทธขอโทษ ร.ต.ท.จรูญ จึงถอนฟ้อง

และ 12. ร.ต.ท.จรูญแจ้งความนายปรีชาว่าแจ้งความเท็จ ซึ่งอัยการรอผลตัดสินคดีหลัก

ต่อสู้กันยืดเยื้ออย่างแน่นอน