WHY Y? / ฟาสต์ฟู้ดธุรกิจ : หนุ่มเมืองจันท์

หนุ่มเมืองจันท์facebook.com/boycitychanFC

ฟาสต์ฟู้ดธุรกิจ

หนุ่มเมืองจันท์

www.facebook.com/boycitychanFC

 

WHY Y?

 

เมื่อ 4-5 ปีก่อน ตอนงานหนังสือยังจัดที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์

ปรากฏการณ์หนึ่งที่ไม่คุ้นตา คือ มีคนต่อแถวยาวเหยียดที่บูธสำนักพิมพ์แห่งหนึ่ง

คล้ายๆ กับที่เคยเห็นคนต่อแถวขอลายเซ็น “สรยุทธ สุทัศนะจินดา” และ “นิ้วกลม”

แต่ครั้งนี้เป็นเด็กผู้หญิงระดับมัธยมและมหาวิทยาลัย

ถามน้องๆ ว่าเขาต่อแถวขอลายเซ็นใคร

คำตอบก็คือ ไม่ได้ขอลายเซ็นใคร

แต่ต่อแถวเพื่อซื้อหนังสือตระกูล Y

สมัยนั้น เรื่องความหลากหลายทางเพศยังไม่เป็นกระแสแรงเท่ากับตอนนี้

นิยาย “ชายรักชาย” จึงยังไม่แพร่หลายนัก

แม้จะเริ่มดังและขายดี แต่ร้านหนังสือบางแห่งไม่ยอมขาย เพราะกลัวโดนผู้ปกครองนักเรียนโวย

ในโลกออนไลน์ หนังสือแนวนี้ฮิตมาก

เมื่อสำนักพิมพ์ใหญ่ยังไม่ยอมพิมพ์ขาย เขาก็พิมพ์กันเองและประกาศในเว็บว่าจะวางขายที่บูธนี้ เวลานี้

เท่านั้นล่ะครับ คิวยาวเหยียดเลย

ตอนที่รู้ว่าเป็นนิยาย Y ผมคิดว่ากลุ่มเป้าหมายน่าจะเป็นกลุ่มผู้ชาย

แต่ปรากฏว่าเป็นเด็กผู้หญิงครับ

จำได้ว่า “แป๊ว” ของ “บีทูเอส” เป็นคนอธิบายปรากฏการณ์นี้ว่าเด็กผู้หญิงชอบนิยาย Y เพราะเบื่อนิยายแบบเดิมๆ

และเวลาชอบพระเอกที่หล่อๆ สักคนหนึ่ง ก็ไม่อยากให้ไปยุ่งกับผู้หญิง

…อิจฉา

บอกตามตรงว่าผมเข้าไม่ถึง นึกถึงความรู้สึกแบบนี้ไม่ออก

แต่เข้าใจว่านี่คือ “ความแตกต่าง” ทางความคิด

เรื่องบางเรื่อง เราแค่ “รู้”

แต่ไม่ “รู้สึก”

 

จากวันนั้นเป็นต้นมา ผมก็ติดตามกระแส Y มาตลอด

เรื่องหนังสือไม่ต้องห่วงเพราะสำนักพิมพ์ใหญ่หลายแห่งเริ่มพิมพ์นิยาย Y และร้านหนังสือทุกร้านวางขายอยู่ด้านหน้าร้าน

บางแห่งถึงขั้นมีชั้นเฉพาะสำหรับนิยาย Y

จากนิยายในเว็บและหนังสือ เริ่มขยายไปสู่แอพพ์ “จอยลดา” ที่เป็นนิยายแชต

นิยาย Y ได้รับความนิยมมาก

จาก “นิยาย” เริ่มเข้าสู่ละครโทรทัศน์

ผมเริ่มได้ยินชื่อ “คู่จิ้น” อย่าง “คริส-สิงโต” “ออฟ-กัน” “บิวกิ้น-พีพี” “ไบร์ท-วิน”

แฮ่ม…แต่จำหน้าไม่ได้

ยิ่งนานวัน ข่าวเรื่องกระแส “คู่จิ้น” ซีรีส์วาย ก็แรงขึ้นเรื่อยๆ

วันไหนที่ไปห้างแล้วห้างแตก คนแน่นฮอลล์

ส่วนใหญ่จะเป็นฝีมือ “คู่จิ้น”

ผู้นำของซีรีส์วายของไทยวันนี้ คือ GMM TV

และคนที่เป็นแม่ทัพในเรื่องนี้ คือ “สถาพร พานิชรักษาพงศ์”

เชื่อไหมครับว่ารายได้เกิน 50% ของ ONEE หรือช่องวันตอนนี้มาจากฝีมือ “สถาพร”

ไม่นับเรื่องละครโทรทัศน์ที่ประสบความสำเร็จมาก

สินค้ารอคิวกันเพียบ

ดารา “คู่จิ้น” บางคนเป็นพรีเซ็นเตอร์สินค้าเกือบ 30 ตัว

คิวโชว์ตัวของแต่ละคู่ก็ยาวเหยียด

ผู้บริหารค่ายมือถือคนหนึ่งบอกว่าตอนจัดอีเวนต์ครั้งหนึ่ง เคยเอาดาราจากช่องใหญ่ กับ “คู่จิ้น” ซีรีส์วายไปโชว์ตัว

เขานึกว่าดาราจากช่องใหญ่จะเป็น “แม่เหล็ก” ในการเรียกคน

ปรากฏว่าคิดผิด

เพราะในงานเต็มไปด้วยแฟนคลับของ “คู่จิ้น”

วันก่อน ผมกับ “โจ้” ธนา เธียรอัจฉริยะ มีโอกาสได้นั่งสัมภาษณ์ “ถา” สถาพร และ “ออฟ” ณพณัช ชัยวิมล โปรดิวเซอร์และผู้กำกับการแสดงซีรีส์วายดังหลายเรื่อง

ยิ่งฟัง ยิ่งตกใจ

ละครซีรีส์วายของไทยดังมากๆ ครับ

ไม่ใช่แค่ในเมืองไทย แต่ดังมากในหลายประเทศ

ทั้งจีน ญี่ปุ่น เกาหลี ลามไปถึงประเทศในแถบอเมริกาใต้

ที่บราซิล แฟนคลับกดดันสถานทูตไทยให้ทำคลิปสัมภาษณ์ดาราซีรีส์วายของไทย

ละครของ “ถา” จะไม่มีฉากเลิฟซีนดุเดือด

เขาจะเปิดพื้นที่ให้คนดูจินตนาการ

ละครของ GMM TV จะเป็นแนวน่ารักที่ดูได้ทั้งครอบครัว

แค่พ่อแม่เปิดใจนิดนึง

โลกยุคใหม่ต้องเปิดใจให้กว้างครับ

 

แฟนคลับของ “คู่จิ้น” จะดูแลศิลปินในดวงใจอย่างดี ทั้งซื้อโฆษณาตามบิลบอร์ดรถโดยสาร ฯลฯ

ทำยังไงก็ได้ให้คนรู้จักน้องๆ มากที่สุด

ที่ตึกแกรมมี่ ป้ายหน้าอาคาร หรือตรงเสาในอาคาร จะมีคนจองซื้อโฆษณาเป็นรูปศิลปินในดวงใจ

ร้านขนมหรือร้านชาไข่มุกในตึก บางวันลูกค้าที่ไปซื้อไม่ต้องจ่ายเงิน

เพราะมีแฟนคลับของศิลปินคู่หนึ่งเหมาร้าน

แจกฟรีให้กับทุกคน

ศิลปินดาราทั่วไป ถ้าเป็นพรีเซ็นเตอร์สินค้า อย่างดีก็ทำให้คนรู้จักแบรนด์มากขึ้น และเพิ่มยอดขาย

แต่เป็นการเพิ่มยอดขายแบบเรื่อยๆ

ไม่เหมือนกับ “คู่จิ้น” ซีรีส์วาย

แฟนคลับจะอุดหนุนสินค้าตั้งแต่วันแรกที่ยิงโฆษณาออกมา

ทำให้เกิดปรากฏการณ์

สร้างกระแสเพื่อให้เจ้าของสินค้ารู้ว่าถ้าให้น้องเป็นพรีเซ็นเตอร์

…สินค้าขายหมดเกลี้ยง

ผมถาม “ถา” ว่าแฟนคลับของศิลปินทั่วไป กับ “คู่จิ้น” ซีรีส์วาย แตกต่างกันไหม

เขาหัวเราะบอกว่าต่างกันมาก

ตัวอย่างเช่น ตามปกติถ้าศิลปินเปิดการแสดงแล้วบัตรหมด เขาก็จะเปิดรอบสอง

แฟนคลับจะดีใจ เพราะมีโอกาสได้จองบัตรรอบใหม่

แต่แฟนคลับของ “คู่จิ้น” จะไม่พอใจถ้าเปิดรอบ 2

เหตุผลคืออะไรรู้ไหมครับ

“กลัวน้องเหนื่อย”

หาว่าค่ายเห็นแก่เงิน ยิ่งเปิดการแสดงรอบ 2 ศิลปินในดวงใจของเขาก็ต้องทำงานหนักขึ้น

ครับ แต่ถ้าถามน้องๆ ทุกคนจะดีใจที่เพิ่มรอบ

เพราะนอกจากได้เงินเพิ่มแล้ว

การเพิ่มรอบยิ่งแสดงให้เห็นว่าเขาได้รับความนิยมแค่ไหน

แต่สำหรับแฟนคลับกลับคิดอีกมุม

“กลัวน้องเหนื่อย” ครับ •