“อุบัติเหตุ” เกิดขึ้นได้ทุกเวลา

โดยเฉพาะอุบัติเหตุ “การเมือง”

ยิ่งกระแสตกเมื่อไร อะไรก็เกิดขึ้นได้

ประวัติศาสตร์การเมืองบอกไว้เช่นนั้นจริงๆ

ตัวอย่างที่เด่นชัดที่สุดก็คือเรื่อง “เรือเหาะ ทบ.”

เรื่องนี้เกิดขึ้นนานแล้ว “บิ๊กป๊อก” พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา โดนโจมตีมาตั้งแต่เป็นผู้บัญชาการทหารบก

ผ่านไปเกือบ 10 ปี นึกว่าเรื่องจะจบ

อยู่ดีๆ เรื่องเก่าก็กลับมาใหม่

และมีเค้าว่าจะ “ใหญ่” กว่าเดิม

เรื่องของเรื่องเกิดขึ้นจาก “บิ๊กเจี๊ยบ” พล.อ.เฉลิมชัย สิทธิสาท ผู้บัญชาการทหารบก ตอบคำถามเรื่อง “รถกว๊านบอลลูน” ซึ่งเป็น “บอลลูน” สำหรับการฝึกโดดร่ม

พอได้ยินคำว่า “บอลลูน” นักข่าวก็คิดถึง “เรือเหาะ”

พอเจอคำถามถึงเรื่อง “เรือเหาะ”

“บิ๊กเจี๊ยบ” ก็ตอบตามตรงว่า “ปลดประจำการไปแล้ว”

แค่นั้นก็เป็น

“เชื้อไฟ” ที่มีอยู่เนิ่นนานก็ลุกพรึบขึ้นทันที

“กองไฟ” ลามไปหา “ต้นตอ”

ลามไปในเวลาที่ “บิ๊กป๊อก” กำลังเผชิญกับมรสุม “ป่ากระทิงแดง”

เซ็นอนุมัติป่าชุมชนเนื้อที่ 31 ไร่เศษให้กับ “กระทิงแดง” ตั้งโรงงานน้ำดื่ม

ลายเซ็นของตัวเองชัดเจน

ชัดเจนพอๆ กับต้นไม้ใหญ่ในพื้นที่ชุมชนที่อ้างว่า “แห้งแล้ง”

สุดท้ายก็แก้ปัญหาง่ายๆ ด้วยการให้ “กระทิงแดง” ทำหนังสือยกเลิกการเช่าพื้นที่

หายใจโล่งอกได้แวบเดียว

“เรือเหาะ” ที่ไม่เคยเหาะมานานก็เหาะขึ้นแล้วตกลงใส่ “บิ๊กป๊อก”

ทั้งที่ไม่ควรจะเกิด แต่มันก็เกิดขึ้น

นี่คือ เรื่องปกติทางการเมือง

โดยเฉพาะตอนที่กระแสเริ่มตก

ประเด็นที่น่าสนใจก็คือวิธีการแก้ปัญหาของ พล.อ.อนุพงษ์

เรื่องป่ากระทิงแดง แก้ปัญหาด้วยการบอกว่าเป็นความรับผิดชอบของระดับล่าง

เรื่องเรือเหาะก็เช่นกัน

แต่ครั้งนี้มีการขยายผลไปถึง “ผู้บัญชาการทหารบก” คนอื่นๆ ด้วย

“แม้การจัดซื้อจะเกิดขึ้นในสมัยที่ผมเป็น ผบ.ทบ. แต่หากจะตรวจสอบเรื่องการทุจริต ก็ต้องดูว่าใครเกี่ยวข้องบ้าง ทั้งการรับของ การทำสัญญา รวมถึงผู้ใช้งาน

ช่วงการจัดซื้อ ผมไม่ได้เป็นผู้พิจารณาโดยตรง ฉะนั้น จะต้องตรวจหาผู้เกี่ยวข้องทั้งหมด จะตรวจสอบเฉพาะที่เกิดขึ้นในสมัยผมอย่างเดียวไม่ได้”

เป็นมาตรฐาน “ความรับผิดชอบ” ที่น่าสนใจมาก

ทำให้หลายคนนึกถึงตอนที่รัฐบาลชุดนี้ไล่เบี้ย “ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร” เรื่อง “จำนำข้าว”

ครั้งนั้นใช้มาตรฐาน “ความรับผิดชอบ” อีกชุดหนึ่ง

“หัวหน้า” ต้องรับผิดชอบทุกเรื่อง