ชนะ กับ แพ้ / เครื่องเคียงข้างจอ : วัชระ แวววุฒินันท์

วัชระ แวววุฒินันท์

เครื่องเคียงข้างจอ

วัชระ แวววุฒินันท์

 

ชนะ กับ แพ้

 

ทีแรกว่าจะตั้งชื่อตอนว่า “ชัยชนะ กับ ความพ่ายแพ้”

แต่รู้สึกว่า ชื่อสองชื่อนี้ความหมายเหมือนกันก็จริง แต่ความรู้สึกนั้นต่างกัน

ชนะ กับ แพ้ ดูเป็นกลางๆ ไม่บวกมากหรือลบมาก แต่พอพูดถึงชัยชนะ เราจะเห็นอาการลิงโลดประมาณว่ามีการจุดพลุประกอบด้วยแน่นอน หรือความพ่ายแพ้นั้นก็ช่างหดหู่ เหี่ยวแห้ง เสียเหลือเกิน

ที่เขียนถึงเรื่องชนะกับแพ้นี้ เพราะเมื่อวันอาทิตย์ที่ 22 พฤษภาคมที่ผ่านมา มีเรื่องราวของการเป็นผู้ชนะและผู้แพ้อยู่ในพื้นที่ต่างๆ เต็มไปหมด ทั้งในประเทศไทย ในประเทศอาเซียน และในเกาะอังกฤษ

ที่เป็นในประเทศไทย จะว่าให้ถูกก็คือในกรุงเทพมหานคร และเมืองพัทยาเท่านั้น เพราะทั้งสองเมืองได้รับสิทธิพิเศษในการเลือกตั้งพ่อเมืองของเมืองตนเองได้ และผลที่ออกมาก็คือ คนกรุงได้ ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้สมัครอิสระหมายเลข 8 มาเป็นผู้ว่าฯ คนใหม่ตามคาด

ส่วนเมืองพัทยาก็ได้ ปรเมศวร์ งามพิเชษฐ์ กลุ่มเรารักพัทยา ผู้สมัครหมายเลข 1 มาทำหน้าที่นายกเมืองพัทยาคนใหม่ต่อจากคนเดิมคือ สนธยา คุณปลื้ม

 

แน่นอนที่เมื่อมีผู้ชนะก็ต้องมีผู้แพ้เป็นเรื่องปกติของการแข่งขัน

อยู่ที่ว่าผู้แพ้จะเก็บบทเรียนอะไรไปศึกษาและพัฒนาต่อได้บ้าง โดยเฉพาะกับผู้แพ้ที่เป็นคนเก่าคือ “อัศวิน ขวัญเมือง” ที่อยู่ในตำแหน่งมาถึง 8 ปี และอาสาขอทำงานต่อ จบการแข่งขันที่อันดับที่ 5 ด้วยคะแนนเสียงที่น้อยกว่าผู้ชนะอย่างชัชชาติอย่างมาก คือได้ 2 แสนกว่าคะแนน ในขณะที่ชัชชาติได้ไปกว่า 1.3 ล้านเสียง (ตามผลอย่างไม่เป็นทางการตอนนี้)

หากจะมองกันง่ายๆ คือ ผลงาน 8 ปีของอัศวินคงไม่เข้าตาคนกรุงสักเท่าไหร่ ทั้งที่จะว่าไปอัศวินก็ลุกขึ้นมาทำโน่นนี่หลายอย่าง เพียงแต่ว่าสิ่งที่ทำนั้นตรงกับความต้องการจริงของคน กทม.แค่ไหน และมีความชัดเจนโปร่งใสให้เขาไว้ใจได้เพียงใดหรือไม่

หรือคนกรุงขี้เบื่อ 8 ปีอาจจะดี แต่ก็นานเกินไปแล้ว อยากได้คนใหม่ๆ มาลองดูบ้าง

อันนี้ไม่นับกับความรู้สึกว่า อัศวินนั้นมาจากการแต่งตั้งโดยรัฐบาลที่มาจากเผด็จการ ไม่ใช่มาจากการเลือกตั้งตามระบอบประชาธิปไตย เลยไม่อยากสนับสนุนก็เป็นได้

 

งานที่ท้าทายของผู้ชนะอย่างชัชชาติก็คือ การทำตามนโยบายที่ได้หาเสียงเอาไว้ ซึ่งคนกรุงหวังอย่างมากที่จะเห็นการเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้น และออกจะเป็นงานยากไม่น้อยที่จะทำให้คนกรุงเทพฯ ที่มีความหลากหลายอย่างมากทั้งฐานะ ทั้งวิถีชีวิตความเป็นอยู่ ทั้งการทำมาหากิน ทั้งการศึกษา ที่อยู่บนความไม่เท่าเทียมต่างๆ จะพอใจได้ทุกกลุ่ม

คนกรุงอยากเห็นเมืองของตนไม่ใช่เป็นเมืองติดอันดับแค่ “น่าเที่ยว” แต่อยากให้ “น่าอยู่อาศัย” ด้วย

จะว่าไป หน้าที่ของผู้ว่าฯ กทม. จะหนักไปทางงานด้านวิศวกร คือ ออกแบบโครงสร้างและระบบให้เดินไปได้อย่างดีและทันสมัย แก้ปัญหาเก่าๆ ได้ ไม่ว่าจะเป็นน้ำท่วม รถติด ขยะเกลื่อนกรุง อากาศเป็นพิษ แสงสว่างเพียงพอ

ในขณะเดียวกันก็มีงานเชิงสังคมเข้ามาด้วย ทำอย่างไรให้คนมีคุณภาพชีวิตที่ดี มีการอยู่ร่วมกันได้ในชุมชนอย่างสงบสุขและปลอดภัย มีโอกาสในการศึกษา พยาบาล และสันทนาการได้อย่างทั่วถึง มิพักต้องนึกไปถึงการสนับสนุนให้คนกรุงมีองค์ความรู้ที่ดีและมีรสนิยม

ผู้ชนะมีงานต้องทำ ผู้แพ้ก็มีเรื่องให้ศึกษาเรียนรู้ และเดินหน้าต่อไป

 

จากประเทศไทย ขยายไปสู่พื้นที่อาเซียนกับการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 31 ณ ประเทศเวียดนามที่เพิ่งปิดฉากไป โดยมีพิธีปิดอย่างเป็นทางการไปเมื่อวันที่ 23 พฤษภาคมที่ผ่านมา

ส่วนวันที่ 22 พฤษภาคม มีการแข่งขันที่เป็นไฮไลต์คือ ฟุตบอลชาย ที่ผลคือเจ้าภาพเวียดนาม เอาชนะทีมชาติไทยไปได้ 1-0 ประตู คว้าเหรียญทองไปครองได้สมใจ และแฮปปี้สุดๆ

เพราะหากเวียดนามแพ้ไทยได้แค่เหรียญเงิน การได้เป็นเจ้าเหรียญทองก็อาจจะดูกร่อยๆ ไปนิด ไม่เต็มภาคภูมินัก

หากจะพูดถึงชนะกับแพ้ ในการแข่งขันกีฬาซีเกมส์นี้ก็มีหลายแง่มุมให้มอง

อย่างแรกเลยคือ การที่เจ้าภาพมุ่งเอาเหรียญทองไว้กับตัวมากที่สุด โดยการจัดแข่งขันกีฬาพื้นบ้านของตนด้วยจำนวนเหรียญที่มากเป็นพิเศษ เพื่อให้ได้ชื่อว่าเป็น “เจ้าเหรียญทอง” นั้น มันช่างดูไม่งามเอาเสียเลย

รวมทั้งการจัดการแข่งขันที่สร้างปัญหาให้กับประเทศสมาชิกอย่างมาก ซึ่งมีผลทางอ้อมในผลการแข่งขันได้ รวมทั้งการตัดสินในบางชนิดกีฬาซึ่งบ่งบอกถึงความไม่โปร่งใส ดังปรากฏเป็นข่าวให้แฟนกีฬาได้รับทราบไปแล้ว

การชนะบนความไม่ปกติวิสัย จะภาคภูมิใจได้อย่างไร

 

ในภาวะของการเป็นผู้ชนะผู้แพ้นั้น มีเรื่องราวเบื้องหลังที่น่าประทับใจอยู่เรื่องหนึ่ง ที่เกิดขึ้นในการแข่งขันกรีฑาวิ่ง 100 เมตรชาย ที่ เจ้าบิว-ภูริพล บุญสอน กรีฑาดาวรุ่งวัย 16 ปีที่ควบเข้าเส้นชัยด้วยสถิติ 10.44 วินาที คว้าเหรียญทองไปครอง และเป็น 1 ใน 3 เหรียญทองที่บิวทำได้

แน่นอนที่สื่อมวลชนและแฟนกีฬาจะมุ่งโฟกัสไปที่น้องเขา จนลืมไปว่าคนที่ได้เหรียญเงินก็เป็นนักวิ่งไทยเช่นกันที่ชื่อ เจ้าต้า-สรอรรถ ดาบบัง แต่นั่นไม่ได้ทำให้สรอรรถรู้สึกไม่ดีเลย

ก่อนที่ทีมกรีฑาไทยในซีเกมส์หนนี้จะได้บิวมาร่วมด้วย เจ้าต้าถูกวางเป็นมือหนึ่งที่จะลงแข่งขันเพราะทำเวลาในการคัดเลือกได้ดีที่สุด และต้าเองก็หวังจะสร้างผลงานและคว้าเหรียญทองให้ได้เช่นกัน เพราะนี่เป็นการแข่งขันในต่างประเทศครั้งแรกของตน และในนามทีมชาติไทยอีกด้วย

แต่ต้าเล่าว่า เมื่อได้บิวเข้ามาเป็นหนึ่งในทีมนักกีฬา และต้องเก็บตัวร่วมกัน เขายอมรับในพรสวรรค์และความสามารถของบิว จึงไม่เห็นว่าบิวเป็นคู่แข่งของตน กลับร่วมกันฝึกซ้อมและสนับสนุนกันและกัน เพื่อหวังให้บิวคว้าชัยชนะให้ได้

ทัศนคติที่ดีของเขาคือ การได้ฝึกซ้อมกับบิวที่เก่งกว่า ทำให้เขาได้พัฒนาทักษะและความสามารถของตนขึ้นไปด้วย และนั่นคือผลงานที่ออกมาว่า ไทยคว้าได้ทั้งเหรียญทองและเหรียญเงิน โดยเจ้าต้าสามารถทำเวลาได้ 10.55 วินาที และนั่นคือชัยชนะของเขาที่เขาภูมิใจ

การเป็นผู้แพ้ไม่ใช่สิ่งที่ล้มเหลวเสมอไป มันอยู่ที่วิธีคิด

 

อย่างที่สองที่เห็นคือ มีการพัฒนาด้านกีฬาจากชาติสมาชิกให้เห็นหลายกีฬา อย่างกัมพูชาที่พัฒนากีฬาฟุตบอลขึ้นมาก รวมทั้งวอลเลย์บอลชายที่คว้าเหรียญทองแดงมาครองได้เป็นครั้งแรก เป็นชัยชนะที่น่ายินดี ที่เห็นการพัฒนากีฬาของประเทศในย่านนี้

ในบางชนิดกีฬาไทยก็ปราบแชมป์เก่าที่ยืนหนึ่งมานานลงได้อย่างไม่น่าเชื่อ ขณะเดียวกันในบางชนิดกีฬา เราก็แพ้ให้กับคู่แข่งอย่างที่ไม่น่าจะแพ้ แต่นั่นก็คือการที่คู่แข่งเก่งกว่าเรา พร้อมกว่าเรา โอกาสและจังหวะดีกว่าเราก็ได้

เหมือนอย่างเหรียญทองฟุตบอลชายที่เวียดนามคว้าไปได้ หากจะมองกันตามเนื้อผ้าแล้วก็ดูเป็นการสมควร เพราะเวียดนามเตรียมทีมกันมาร่วม 2 ปี ในขณะที่ไทยรวมทีมกันก่อนเดินทางแค่ 2 วัน การที่ฝ่าฟันจนได้เข้าชิงนั้นก็ถือว่าไม่ได้เสียหายอะไร แถมรูปเกมของนักเตะไทยก็ไม่ได้ขึ้เหร่แต่อย่างไร และทำสกอร์ในรอบแบ่งกลุ่มได้อย่างน่าพอใจด้วยซ้ำ

สิ่งที่ได้จากความพ่ายแพ้คือ สมาคมฟุตบอลฯ ต้องกลับไปทบทวนถึงวิธีการจัดการในการแข่งขันคราวหน้า ว่าจะต้องทำอย่างไรให้ดีกว่านี้ต่างหาก

 

จากฟุตบอลระดับอาเซียนในวันเดียวกันนั้น ก็ไปถึงฟุตบอลพรีเมียร์ลีกนัดสุดท้ายในตอนดึก ที่แฟนฟุตบอลทั่วโลกสนใจติดตามชม เพราะมีเดิมพันระหว่างทีมเรือใบ กับทีมหงส์แดง ว่าใครจะคว้าแชมป์ปีนี้ไปครอง

ก่อนเกมจบลง หงส์แดงมีโอกาสที่จะแซงหน้าคว้าถ้วยแชมป์ไปครองได้ เมื่อแมนฯ ซิตี้ ถูกแอสตัน วิลล่า นำไปก่อนถึง 2 ลูก แต่สุดท้ายทีมเรือใบก็เร่งทำ 3 ประตู แซงหน้าคว้าแชมป์ไปครองอย่างสนุก

แมนฯ ซิตี้ คือ ผู้ชนะ และลิเวอร์พูล คือ ผู้แพ้

เป็นผลการแข่งขันที่ทำให้แฟนบอลของทั้งสองทีมที่ว่า รวมทั้งของทีมแมนฯ ยู ได้เอามาพูดถึงพูดอำกันไปได้อีกสักระยะ เป็นเรื่องแพ้เรื่องชนะ ที่ทำให้หลายคนเข้านอนฝันดี และบางคนก็นอนไม่หลับ เพราะเล่นไว้เยอะ ฮะ ฮะ ฮ่า

ในวันเดียวมีการแข่งขันหาผู้ชนะผู้แพ้เกิดขึ้นหลายๆ พื้นที่ หลายๆ เหตุการณ์

และในทุกๆ วันก็มีการแข่งขันเกิดขึ้นตลอดเวลา บางเรื่องเราไม่อยากแข่งก็ต้องแข่ง และไม่ว่าผลการแข่งขันจะออกมาอย่างไร ขอให้เป็นผู้ชนะที่ได้ชัยชนะมาด้วยความงดงาม ขอให้เป็นผู้แพ้ที่มีสปิริตและเรียนรู้จากมัน และต่างก็เคารพซึ่งกันและกัน

แว่วๆ ว่าปลายๆ ปีนี้ อาจจะมีการแข่งขันทางการเมืองระดับประเทศ แน่นอนที่ต้องมีคนแพ้คนชนะ ซึ่งต้องรอดูกันว่าจะเป็นการแข่งขันที่ดีงามเพียงไร

แต่ไม่ว่าผลจะออกมาอย่างไร ขอให้ประเทศไทยชนะก็เป็นพอ •