จากครอบครัวเพื่อไทย ถึงครอบครัวเสื้อแดง ‘อุ๊งอิ๊ง’ เชื่อมประสาน ไต่ระดับ ‘แลนด์สไลด์’/บทความในประเทศ

บทความในประเทศ

 

จากครอบครัวเพื่อไทย

ถึงครอบครัวเสื้อแดง

‘อุ๊งอิ๊ง’ เชื่อมประสาน

ไต่ระดับ ‘แลนด์สไลด์’

จังหวะก้าวพรรคเพื่อไทย และ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หรืออุ๊งอิ๊ง ประธานคณะที่ปรึกษาด้านการมีส่วนร่วมและนวัตกรรม หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย เป็นการขยับขับเคลื่อนอย่างมีนัยยะ

สอดรับสถานการณ์การเมืองของรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่กำลังระส่ำระสายจากปัญหาภายในและภายนอก ก่อเกิดเป็นสัญญาณพร้อมนำไปสู่การเลือกตั้งครั้งใหม่ได้ทุกเมื่อ

การปรากฏตัวของ น.ส.แพทองธาร ทั้งในการประชุมใหญ่สามัญประจำปี 2564 ที่ จ.ขอนแก่น ตามด้วยการเปิดแคมเปญ “ครอบครัวเพื่อไทย บ้านหลังใหญ่ หัวใจเดิม” ที่ จ.อุดรธานี เมืองหลวงคนเสื้อแดง ส่ง น.ส.แพทองธาร เข้ารับบทบาทหน้าที่สำคัญ “หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย”

ท่ามกลางกระแสปูทางเตรียมพร้อมเข้าสู่สมรภูมิเลือกตั้งครั้งใหม่ภายใต้ยุทธศาสตร์ “แลนด์สไลด์ทั้งแผ่นดิน”

พรรคเพื่อไทย และ น.ส.แพทองธาร เพิ่มความคมชัดมากขึ้นจากกิจกรรม “ครอบครัวเพื่อไทย สมุทรปราการ บ้านหลังใหญ่ หัวใจดวงเดิม” จัดขึ้นที่ห้างสรรพสินค้าอิมพีเรียลเวิลด์ สำโรง เมื่อวันที่ 14 พฤษภาคมที่ผ่านมา

จัดขึ้นในพื้นที่ จ.สมุทรปราการ ที่เสมือนบ้านอีกหลังของคนเสื้อแดงภาคกลาง

ทั้งยังประจวบเหมาะตรงกับช่วงเวลารำลึกครบรอบเหตุการณ์พฤษภาคม 2553 ที่คนเสื้อแดงและประชาชนผู้ชุมนุมทางการเมืองถูกล้อมปราบเสียชีวิตถึง 99 ศพ บาดเจ็บพิการอีกกว่า 2,000 คน

การเคลื่อนไหวของ น.ส.แพทองธารครั้งนี้เป็นอีกก้าวสำคัญในการดึงฐานเสียงขนาดใหญ่อย่างคนเสื้อแดงให้กลับมาอยู่กับพรรคเพื่อไทย

แม้ที่ผ่านมาความสัมพันธ์พรรคเพื่อไทยกับคนเสื้อแดงบางช่วงบางตอนอาจมีเหตุกระทบกระทั่ง สะเทือนความรู้สึกเหินห่างกันไปบ้าง

แต่ครั้งนี้ของ น.ส.แพทองธาร เป็นการกระชับความสัมพันธ์พรรคเพื่อไทยและคนเสื้อแดง ว่าถึงอย่างไรก็ยังเป็นครอบครัวเดียวกัน

นั่นทำให้บทบาท น.ส.แพทองธารยิ่งน่าจับตา

ไม่เฉพาะความคาดหวังของพรรคเพื่อไทยต่อผลการเลือกตั้งแลนด์สไลด์ทั้งแผ่นดิน

แต่รวมถึงการทำหน้าที่ตัวเชื่อมสานสัมพันธ์คนเสื้อแดงกับพรรคเพื่อไทยให้กลับมาแน่นแฟ้นกลมเกลียวกันมากขึ้น

 

กิจกรรม “ครอบครัวเพื่อไทย สมุทรปราการ บ้านหลังใหญ่ หัวใจดวงเดิม” สะท้อนความเข้มข้นและความจริงจังในการดึงฐานเสียงหลักอย่างคนเสื้อแดงให้กลับมา

การปรากฏตัวของ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย ห้อมล้อมไปด้วยมวลชนคนเสื้อแดง

หากพรรคเพื่อไทยต้องการไปถึงเป้าหมายแลนสไลด์ การมัดใจมวลชนคนเสื้อแดงถือมีความสำคัญอย่างยิ่ง เพราะหากได้มาผนวกกับฐานเสียงคนรุ่นใหม่ เป้าหมายอาจอยู่ไม่ไกลเกินเอื้อม

ภาพ น.ส.แพทองธารประกบเคียงข้างด้วย น.ส.ขัตติยา สวัสดิผล ลูกสาว พล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล หรือเสธ.แดง และ น.ส.จิราพร สินธุไพร ส.ส.ร้อยเอ็ด ลูกสาวนายนิสิต สินธุไพร อดีตแกนนำคนเสื้อแดง จึงมีความหมายเด่นชัด

ท่ามกลางมวลชนคนเสื้อแดงหลายพันคนที่มาร่วมกิจกรรม สมัครเข้าร่วมเป็นครอบครัวเพื่อไทย

น.ส.แพทองธารขึ้นกล่าวปาฐกถาตอนหนึ่งว่า ครอบครัวเพื่อไทยเป็นนวัตกรรมหนึ่งที่พรรคเพื่อไทยออกแบบมาเพื่อแก้ไขปัญหารัฐธรรมนูญที่ทำให้เกิดช่องว่างระหว่างประชาชนกับพรรคการเมือง

สมัยรัฐธรรมนูญปี 2540 เรามีสมาชิกพรรคมากกว่า 14 ล้านคน แต่รัฐประหารได้พรากประชาชนไปจากพรรค

วันนี้เราจะมารวบรวมทุกคนอีกครั้งเพื่อกลับมาอยู่ด้วยกัน และเตรียมพร้อมกับศึกครั้งใหญ่ที่เต็มไปด้วยกับดักจำนวนมาก

“ถ้าต้องการเปลี่ยนแปลงให้ประเทศดีกว่านี้ เราต้องได้อำนาจรัฐจึงจะเปลี่ยนแปลงประเทศได้ บันไดขั้นแรกคือแลนสไลด์ พรรคจะชนะเลือกตั้งแบบถล่มทลาย แต่จะเกิดขึ้นไม่ได้ถ้าพี่น้องเสื้อแดงไม่ร่วม และพี่น้องไม่อยู่เคียงข้างพรรคเพื่อไทย”

หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทยกล่าวด้วยว่า 10 กว่าปีที่ผ่านมาการเมืองของประเทศนี้ไม่สร้างสรรค์ ทำลายครอบครัวมากมาย หลายคนเป็นผู้สูญเสีย อีกหลายคนไม่สามารถอยู่กับคนที่รัก ไม่ได้รับความยุติธรรม ดิฉันเข้าใจดีเพราะอยู่ใกล้ชิดกับผู้ที่ไม่ได้รับความยุติธรรมเช่นกัน

ที่ผ่านมานับถือหัวใจพี่น้องเสื้อแดงต้องเจอความเจ็บปวด แต่ยังมีหัวใจประชาธิปไตยและอยู่เคียงข้างมาตลอด เชื่อว่าทุกคนยังมีความหวัง อย่าลืมเราคือครอบครัวเสื้อแดง ครอบครัวเพื่อไทย อุดมการณ์ของเรายังเหมือนเดิม

เป้าหมายคือต้องการให้ประชาชนมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ให้โอกาส ให้สิทธิบนพื้นที่ประเทศ ทำให้ประชาชนกลับมามีศักดิ์ศรีอีกครั้ง

แม้วันนี้ดูเหมือนไม่มีทางออก แต่เชื่อว่าถ้าเราชนะเลือกตั้งจะทำให้ประเทศชาติเจริญอีกครั้ง

“เราต้องการพลังจากพี่น้องเสื้อแดง ถ้ามีอุดมการณ์ประชาธิปไตยนั่นคือเรามีอุดมการณ์และหัวใจเดียวกัน ขอบคุณพี่น้องเสื้อแดงที่ไม่เคยทอดทิ้งกัน วันนี้กลับบ้านของเรา กลับมาทำให้บ้านหลังนี้แข็งแรงเหมือนเดิม”

 

การเคลื่อนไหวของพรรคเพื่อไทย และ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร ด้วยความมุ่งหวังดึงคนเสื้อแดงกลับบ้านมาเป็นครอบครัวเดียวกัน ด้านหนึ่งได้สร้างความหวั่นไหวให้กับฝ่ายอำนาจในขณะนี้อย่างมาก

นั่นเพราะนักการเมืองในรัฐบาลชุดนี้หลายคน แม้กระทั่งตัว พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ก็มีส่วนร่วมอยู่ในเหตุการณ์สลายการชุมนุมทางการเมือง 99 ศพ เมื่อปี 2553 ด้วยเช่นนั้น ซึ่งเป็นสิ่งที่คนเสื้อแดงไม่เคยลืม แม้จะผ่านไปนาน 12 ปีแล้วก็ตาม

ปฏิกิริยาของ พล.อ.ประยุทธ์ และบุคคลในรัฐบาล จึงมีความหวั่นไหวเป็นพิเศษ ต่อการที่คนเสื้อแดงจะกลับไปอยู่บ้านเป็นครอบครัวเดียวกันกับพรรคเพื่อไทยอีกครั้ง

นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกรัฐบาลตอบคำถามแทนนายกรัฐมนตรี ถึงประเด็นพรรคเพื่อไทยออกแคมเปญชวนคนเสื้อแดงกลับบ้าน จะเป็นการปลุกความขัดแย้งรอบใหม่หรือไม่ว่า

“นายกฯ ระบุเรื่องนี้มีกฎหมายอยู่แล้ว ถ้าเกิดความรุนแรงวุ่นวายขึ้น เป็นหน้าที่ของฝ่ายความมั่นคง”

ท่าทีอันแข็งกร้าวของ พล.อ.ประยุทธ์ ยิ่งตอกย้ำถึงความหวั่นไหวอันเด่นชัดต่อกระแสการกลับมาของคนเสื้อแดง และ น.ส.แพทองธาร ในการสร้างครอบครัวเพื่อไทย

ขณะที่นายชนะศักดิ์ อัตถาวงศ์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี น้องชาย “แรมโบ้อีสาน” นายเสกสกล อัตถาวงศ์ มีความเห็นอย่างเผ็ดร้อนว่า คนเสื้อแดงที่ออกมาจากพรรคเพื่อไทยเพราะหูตาสว่าง รู้ว่าสิ่งใดดีไม่ดี สิ่งใดควรทำไม่ควรทำ

อย่าเชิญชวนพี่น้องเสื้อแดงที่กลับใจให้กลับไปช่วยให้พรรคเพื่อไทยชนะการเลือกตั้งอีกเลย

เรารู้แผนคนในตระกูลนี้ดี แค่อยากเรียกคนเสื้อแดงกลับให้ไปช่วยทำให้พรรคเพื่อไทยได้คะแนนถล่มทลาย ได้เป็นรัฐบาล สุดท้ายจะมีพฤติกรรมเดิมคือ หาวิธีการให้นายทักษิณและ น.ส.ยิ่งลักษณ์ กลับประเทศ

พี่น้องเสื้อแดงที่เดินออกมาแล้วรู้ดีว่าการต่อสู้ที่ผ่านมาสู้เพื่อเป็นสะพาน ถูกหลอกเป็นเครื่องมือให้ใคร ครอบครัวไหนได้รับผลประโยชน์เต็มๆ คนเสื้อแดงที่ติดคุกติดตะราง รวมทั้งครอบครัวที่บาดเจ็บล้มตาย เดือดร้อนแสนสาหัสถูกทอดทิ้ง แต่คนสุขสบายร่ำรวยคือใคร

คนที่เดินออกจากคอกแล้ว คงไม่มีใครอยากกลับเข้าคอกอีกแน่ เราไม่ต้องการตกเป็นเครื่องมือทางการเมืองของพรรคเพื่อไทย หรือรับใช้คนตระกูลนี้แล้ว

 

แตกต่างจากนายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธานแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ หรือ นปช. ที่มองว่า ตลอด 12-15 ปีที่ผ่านมา คนเสื้อแดงเป็นมนุษย์ที่ได้รับความอยุติธรรมมากที่สุด

การต่อสู้ของคนเสื้อแดงไม่ได้ต่อสู้เพื่อชัยชนะแต่ต่อสู้เพื่อลูกหลาน

ดังนั้น เป็นสิทธิ์ของ น.ส.แพทองธาร ที่จะชวนคนเสื้อแดงกลับบ้านและเป็นสิทธิ์ของทุกคนที่จะตัดสินใจ ถือเป็นปรากฏการณ์และเป็นสิทธิ์ที่สามารถทำได้

นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน หัวหน้าพรรคเพื่อไทย อธิบายความสำคัญในการดึงคนเสื้อแดงมาเป็นครอบครัวเพื่อไทยว่า การจะชนะแบบแลนด์สไลด์ ทุกฝ่ายโดยเฉพาะคนที่สนับสนุนพรรคเพื่อไทยต้องร่วมมือร่วมใจกัน

ฐานผู้ให้การสนับสนุนตั้งแต่สมัยพรรคไทยรักไทย พรรคพลังประชาชน และเกิดขบวนการคนเสื้อแดงขึ้นช่วงปี 2551-2553 เมื่อเราถูกกระทำ และมีรัฐบาล คสช.ขึ้นมา เราถูกตั้งเงื่อนไขให้แยกสลาย แต่ละคนกระจัดกระจายกันไป

ครอบครัวเพื่อไทยถือเป็นนวัตกรรมที่จะเชิญคนมีแนวคิดและอุดมการณ์ที่ต้องการประชาธิปไตยที่แท้จริงมาร่วมแรงร่วมใจ เป็นปรากฏการณ์หนึ่งที่เราตั้งใจทำ ส่วนใครจะมีส่วนร่วมหรือไม่ขึ้นอยู่กับจะตัดสินใจ

การดึงคนเสื้อแดงกลับมาไม่ใช่สร้างความขัดแย้ง ความเป็นเสื้อแดงและ นปช.ยังติดตัวอยู่ แต่เมื่อมาร่วมงานการเมืองกับพรรคเพื่อไทย ทุกคนจะเป็นสมาชิกครอบครัวเพื่อไทย

ความเป็นครอบครัวเพื่อไทยมีโอกาสในการแสดงออกในเรื่องสิทธิเสรีภาพ โดยเฉพาะสิทธิในเรื่องการเมืองมากกว่าความเป็นเสื้อแดงและ นปช. ที่ถูกจำกัดเรื่องข้อกฎหมายหลายเรื่อง

ทบาท น.ส.แพทองธาร ชินวัตร ภายในพรรคเพื่อไทย ไม่ว่าในฐานะประธานคณะที่ปรึกษาด้านการมีส่วนร่วมและนวัตกรรม หรือหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย และล่าสุด ในฐานะผู้ผนวกรวมครอบครัวเสื้อแดงเข้ากับครอบครัวเพื่อไทย

ทุกจังหวะย่างก้าวล้วนมีความหมายสำคัญ

หากพรรคเพื่อไทยต้องการถึงเป้าหมายชนะเลือกตั้งแลนด์สไลด์ ต้องมัดใจและดึงฐานเสียงคนเสื้อแดงกลับมาให้ได้ รวมถึงพลังคนรุ่นใหม่ที่จะร่วมเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญ

หากทั้งครอบครัวเพื่อไทย ครอบครัวคนเสื้อแดง ครอบครัวคนรุ่นใหม่ ผนวกรวมเป็นเนื้อเดียวกัน

อาจได้เห็นการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองและปรากฏการณ์แลนด์สไลด์