เพื่อไทยหัวคะมำกรณี ‘บุญจง’ มวลชนเสื้อแดงไม่รับ ดันอุ๊งอิ๊ง ลุยช่วย ‘ส.ก.’ เสริมเยื่อใย ‘พ่อทักษิณ’/บทความในประเทศ

บทความในประเทศ

 

เพื่อไทยหัวคะมำกรณี ‘บุญจง’

มวลชนเสื้อแดงไม่รับ

ดันอุ๊งอิ๊ง ลุยช่วย ‘ส.ก.’

เสริมเยื่อใย ‘พ่อทักษิณ’

 

อาทิตย์ก่อน หัวหน้าพรรคเพื่อไทย (พท.) พร้อมด้วยเลขาธิการพรรค และโฆษกพรรค แถลงเปิดตัวอดีต ส.ส.นครราชสีมา และอดีต ส.ส.บุรีรัมย์ จำนวน 9 คน

บุคคลที่ถูกโฟกัสตั้งแต่วินาทีเปิดตัว คือ ‘นายบุญจง วงศ์ไตรรัตน์’ อดีต ส.ส.นครราชสีมา ที่เมื่อนานมาแล้วเคยแนบแน่น ได้เป็น ส.ส.อยู่กับพรรคไทยรักไทยถึง 2 สมัย ในปี 2544 และปี 2548

เมื่อพรรคไทยรักไทยถูกยุบ ‘บุญจง’ ยังไปต่อกับพรรคพลังประชาชน และได้รับเลือกเป็น ส.ส.อีกสมัยในปี 2550

หลังเหตุการณ์รัฐประหารปี 2549 ‘บุญจง’ ได้รับภารกิจที่ถือว่าสำคัญมากในขณะนั้น คือการดูแลและเชื่อมเครือข่ายมวลชนในพื้นที่ภาคอีสาน ที่สนันสนุนนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ อาทิ กลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยขับไล่เผด็จการ (นปก.) ฯลฯ

ทำให้ได้ทำงานร่วมกับ ‘นายเนวิน ชิดชอบ’ ซึ่งเป็นมือขวาที่คอยบริหารจัดการมวลชนให้กับพรรคพลังประชาชนแทนนายใหญ่ทักษิณในขณะนั้น

และนี่อาจเป็นจุดที่ทำให้บุญจงสนิทสนมกับนายเนวิน

เมื่อเนวินเปลี่ยนมาตั้งค่ายของตัวเอง ‘บุญจง’ เป็นคนกลุ่มแรกๆ ที่ตัดสินใจหอบผ้าผ่อนตาม ‘เนวิน’ ไปอยู่บ้านใหม่ภูมิใจไทย ในนาม ‘กลุ่มเพื่อนเนวิน’

และแน่นอนว่า ภูมิใจไทยวันนั้น ยกมือโหวต ‘นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ’ จากพรรคประชาธิปัตย์ เป็นนายกฯ

ขณะที่ประชาชนโดยเฉพาะประชาชนกลุ่มที่สนับสนุนพรรคใต้ร่มเงาทักษิณ กังขาว่าเป็นการตั้งนายกฯ ในค่ายทหาร

 

การตัดสินใจเปลี่ยนขั้ว ย้ายค่าย และใกล้ชิดเนวินทำให้ ‘บุญจง’ ได้รับตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยมหาดไทย และรองหัวหน้าพรรคภูมิใจไทยด้วย

ซึ่งตำแหน่งที่ได้รับทำให้ ‘บุญจง’ มีบทบาทอย่างมากในการตั้งกลุ่ม ‘คนเสื้อสีน้ำเงิน’ ที่ต่อมาปะทะเดือดกับคนเสื้อแดง บริเวณหน้าโรงแรมรอยัล คลิฟ บีช พัทยา ซึ่งเป็นสถานที่ที่ประเทศไทยใช้จัดการประชุมสุดยอดอาเซียนในฐานะเจ้าภาพเมื่อปี 2552

ไม่เพียงเท่านั้น ‘บุญจง’ ยังเป็นรัฐมนตรีคนหนึ่งใน ครม.ที่รับรู้และอยู่ในเหตุการณ์สลายการชุมนุมคนเสื้อแดงปี 2553 เหตุการณ์ที่คนเสื้อแดงกว่าร้อยชีวิตถูกสังหารอย่างโหดเหี้ยม และจนวันนี้ยังไม่เคยได้รับความเป็นธรรมใดๆ

และที่พีกไปกว่านั้น นายบุญจงยังเป็นเจ้าของวาทกรรม “ถอยเป็นหมา เดินหน้าเพื่อชาติ”

ซึ่งเป็นคำพูดที่พูดออกมาเพื่อยืนยันว่าจะไม่หวนกลับไปทำงานร่วมกับพรรคเพื่อไทยอีกแน่นอน

เวลาผ่านไปเกิดพรรคพลังประชารัฐ พรรคที่กำเนิดขึ้นต่อจากการยึดอำนาจ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีหญิงของพรรคเพื่อไทย และมีแคนดิเดตนายกฯ เป็นนายทหารใหญ่ผู้นำในการรัฐประหารนายกฯ หญิงคนแรกในประวัติศาสตร์การเมืองไทย และ ‘บุญจง’ ตัดสินใจย้ายเข้ามุ้ง พปชร.

แต่ผลการเลือกตั้งเที่ยวนี้เขาสอบตก

วันนี้ ใกล้การเลือกตั้งครั้งใหม่ ภายใต้รัฐธรรมนูญใหม่ ‘บุญจง’ ถูกทาบทามจาก ‘ผู้ใหญ่’ ในพรรคเพื่อไทยให้กลับบ้านเดิม

เริ่มแรก ‘บุญจง’ มีความตั้งใจจะให้ลูกลงสมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.เขตแทนตัวเอง แต่ติดปัญหาเพราะลูกยังเรียนไม่จบ เมื่อถูกทาบทามจาก ‘ผู้ใหญ่’ ในพรรค พท. จึงตกปากรับคำก่อน มาสู่การแถลงข่าวเปิดตัวอย่างเป็นทางการ

จากประวัติการเมืองของนายบุญจง ไม่แปลกที่เมื่อพรรคเพื่อไทยแถลงเปิดชื่อเป็นผู้สมัครได้เพียงวันเดียว ‘กลุ่มคนเสื้อแดง’ ซึ่งผูกพัน และเป็นคนกลุ่มที่สนับสนุนพรรคเพื่อไทยอย่างเหนียวแน่น เปิดเผยจะรู้สึกเหมือนมีมีดปักกลางหัวใจ เพราะความเจ็บปวดที่คนเสื้อแดงได้รับจากการต่อสู้ไม่เคยจางหาย แม้กาลเวลาจะผ่านมาหลายสิบปี

กระแสต้าน และวิพากษ์วิจารณ์ต่อการคัมแบ๊กของนายบุญจงเกิดขึ้นทันทีหลังเปิดตัวได้เพียงไม่กี่ชั่วโมง แม้แต่ ส.ส.ในพรรคเพื่อไทยเองก็ไม่อาจรับได้ มีการส่งข้อความผ่านไลน์กลุ่มต่างๆ เพื่อยืนยันว่าไม่เห็นด้วยกับการคัมแบ๊กครั้งนี้

เช่น กลุ่มไลน์ ส.ส.พรรค พท. ที่มีการตั้งคำถามถึงผู้บริหารพรรคต่อการวางตัวนายบุญจงในฐานะว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.นครราชสีมา ‘นายนิรันดร์ นาเมืองรักษ์’ ส.ส.ร้อยเอ็ด ได้ส่งข้อความสอบถามว่า “อยากทราบว่าพรรคคือใครครับ ที่ตัดสินใจเอาเข้ามา” และ ‘นายวัน อยู่บำรุง’ ส.ส.กทม. ก็ส่งข้อความที่สะท้อนความไม่พอใจอย่างชัดเจนเช่นกันว่า “เอาคนที่เคยหักหลังพรรค กลับเข้าพรรค เห้ออออ… หันมามองคนที่จงรักภักดีต่อพรรคบ้างนะครับ”

ทำเอา ‘ผู้ใหญ่’ หลายคนที่มีส่วนเกี่ยวข้องในเรื่องดังกล่าวนี้ต้องเร่งหาทางแก้ ก่อนสถานการณ์จะบานปลายเป็นไฟลามทุ่ง

โดย ‘นายประเสริฐ จันทรรวงทอง’ ในฐานะเลขาธิการพรรคเพื่อไทย ต้องออกคำชี้แจงที่ระบุชัดเจนว่า นายบุญจงขอถอนตัวจากการเป็นว่าที่ผู้สมัครของพรรค พท.

 

เหตุการณ์ครั้งนี้จะเป็นบทเรียนให้ ‘พรรคเพื่อไทย’ ถี่ถ้วน และเข้มข้นในการคัดเลือกผู้สมัครของพรรคมากขึ้น

วันนี้ ‘คนเสื้อแดง’ และกลุ่มคนที่เป็นแกนหลักในการสนับสนุนพรรคส่งสัญญาณแล้วว่า ไม่ใช่ใครก็ได้ที่จะส่งมาให้พวกเขาเลือก การเมืองไทยในวันนี้เปลี่ยนไปแล้ว

พรรคการเมืองพรรคหนึ่งที่จะได้รับการสนับสนุนจากมวลชนไม่ใช่คุยกันเองในพรรค เคาะกันเองในฝ่ายบริหารแล้วจบอีกต่อไป แต่ประชาชนที่ร่วมต่อสู้ และสนับสนุนพรรคการเมืองนั้นต้องเข้ามามีส่วนร่วมในมิติต่างๆ ด้วย ซึ่งพรรคการเมืองต้องฟัง!

ขณะที่ไฟร้อนกรณี ‘บุญจง’ ยังเป็นที่กล่าวถึงในโลกออนไลน์ ‘เพื่อไทย’ ส่ง ‘น.ส.แพทองธาร ชินวัตร’ บุตรสาวนายทักษิณ ชินวัตร ในฐานะประธานคณะที่ปรึกษาด้านการมีส่วนร่วมและนวัตกรรม และหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย ลงพื้นที่ตลาดน้ำคลองลัดมะยมเพื่อช่วยผู้สมัคร ส.ก.หาเสียง ในไม่กี่วันถัดมาเพื่อดับไฟทันที

การลงพื้นที่หาเสียงครั้งนี้เบนความสนใจจากข้อผิดพลาดกรณี ‘บุญจง’ ได้มาก เพราะถือเป็นการชิมรางลงพื้นที่หาเสียงครั้งแรกหลังก้าวเข้าสู่เวทีทางการเมืองอย่างเต็มตัวของ ‘อุ๊งอิ๊ง’

บรรยากาศขณะลงพื้นที่สะท้อนชัดว่ามวลชนที่สนับสนุนพรรคเพื่อไทย ยังผูกพันเชื่อมโยงกับนายทักษิณ ชินวัตร ช่วงหนึ่ง พ่อค้า แม่ค้า ประชาชนที่มาขอถ่ายรูปกับ น.ส.แพทองธารได้ทักทายเธอด้วยถ้อยคำสั้นๆ ว่า “ไม่เจอพ่อ เจอลูกก็ยังดี”

ซึ่ง ‘แพทองธาร’ ถือเป็นสัญลักษณ์แทนตัว ‘นายทักษิณ’ ที่ทรงพลัง และชัดเจนที่สุด การลงสนามการเมือง และเข้ามาใกล้ชิดประชาชน ทำให้คนที่ยังรักและชื่นชมในตัวนายทักษิณหันกลับมาโฟกัสที่พรรคเพื่อไทยอีกครั้ง ขณะที่ ‘อุ๊งอิ๊ง’ เองก็เป็นลูกไม้ที่หล่นไม่ไกลต้น คำอ้อน คำหวาน ความแพรวพราวในการขอคะแนนจากประชาชนไม่ต้องให้ไกด์ ลูกสาวทักษิณก็ทำได้ดี อาจด้วยประสบการณ์ที่ต้องเดินตามพ่อหาเสียงตั้งแต่เด็ก

‘ทักษิณ’ ประกาศจะกลับบ้านในปีนี้ เป็นคำพูดที่แน่วแน่ หนักแน่น และเชื่อว่าเขาเห็นหนทางที่จะทำให้เกิดขึ้นจริงได้ การทำให้ ‘เพื่อไทยแลนด์สไลด์’ คือใบเบิกทางแรก การส่งลูกสาวสุดที่รักลงมาลุยบนถนนสายการเมืองที่เต็มไปด้วยอันตราย แปลว่านายทักษิณทิ้งไพ่ไม้ตาย และพร้อมปล่อยของ

‘ผมเชื่อว่าคราวนี้พรรคเพื่อไทยคือแกนนำจัดตั้งรัฐบาล’ นี่คือประโยคที่นายทักษิณกล่าวด้วยความมั่นใจ

ดังนั้น วันนี้ตัวคนนำทัพเพื่อไทยมีแล้ว นโยบายพร้อมแล้ว สรรพกำลังพร้อมแล้ว ขุนพลที่จะลงสนามรับเลือกตั้งส่วนหนึ่งพร้อมแล้ว เพื่อไปสู่เป้าหมาย ระหว่างทางเพื่อไทยต้องรอบคอบในการเดินเกม และการคัดสรรตัวผู้สมัครที่เหลือให้มากขึ้น

สำคัญที่สุดคือต้องแคร์ ‘หัวใจ’ และอย่าละเลยความเจ็บปวดของคนที่เคยร่วมต่อสู้ด้วยกันมา…