วารี วิไล : Taylor Swift ยึดชาร์ต ล้มเพลงดัง Despacito จับตาอัลบั้มใหม่ Reputation

ที่มา : https://taylorswift.com

เป็นที่คาดหมายอยู่แล้วว่า ผลงานจากสาวคนนี้ จะมาสร้างปรากฏการณ์ หลังจากดนตรีจากศิลปินละติน Despacito กระหึ่มไปทั่วโลก ทั้งเวอร์ชั่นเดิมและเวอร์ชั่นที่ไปเอา จัสติน บีเบอร์ มาฟีเจอริ่ง

ผลการปะทะ ก็ทราบกันแล้วว่า สาวปากแดง เทย์เลอร์ สวิฟต์ (Taylor Swift) นำเอาเพลง Look What You Made Me Do ขึ้นครองอันดับ 1 บนชาร์ตฮ็อต 100 หรือชาร์ตซิงเกิลของบิลบอร์ดสัปดาห์ล่าสุด เบียด Despacito ของ หลุยส์ ฟอนซี กับแร็ปเปอร์ แดดดี้ แยงกี้ ที่ฟีเจอริ่ง ซุป”ตาร์ จัสติน บีเบอร์ ตกแท่นอันดับ 1 ที่นั่งมายาวนาน 16 สัปดาห์ ตกลงไปเป็นที่สอง

สำหรับ Look What You Made Me Do เป็นซิงเกิลที่จะอยู่ในอัลบั้ม Reputation ผลงานชุดที่หกของสวิฟต์ ซึ่งกำหนดจะออกต้นเดือนพฤศจิกายนนี้ การเข้าชาร์ตโดยโค่นเพลงดังลงไป จึงเป็นนิมิตหมายอันดีว่า ในทางการขาย น่าจะเป็นไปด้วยดี

Look What You Made Me Do ยังทุบสถิติเดิม สร้างสถิติใหม่อีกหลายรายการ รวมถึงเป็นมิวสิกวิดีโอที่มีคนดูทางยูทูบ 43.2 ล้านวิวใน 24 ชั่วโมงแรก ทำลายสถิติเดิม 27.7 ล้านวิว จากเพลง Hello ของอเดล เมื่อปี 2015

สวิฟต์แต่งเพลงนี้ แจ๊ก แอนโทนอฟ และยังสอดแทรกทำนองเพลง I”m Too Sexy ผลงานปี 1991 ของวง Right Said Fred เอาไว้ด้วย ในเพลงนี้เลยให้เครดิตสมาชิกวง ได้แก่ เฟรด แฟร์บราส, ริชาร์ด แฟร์บราส และ ร็อบ แมนโซลี เอาไว้ด้วย

 

เทย์เลอร์ สวิฟต์ หรือ เทย์เลอร์ อลิสัน สวิฟต์ (Taylor Alison Swift) เกิด 1989 ที่เพนซิลเวเนีย ย้ายมาแนชวิลล์ เทนเนสซีเมื่ออายุ 14 เพื่อเอาจริงกับอาชีพนักร้องเพลงคันทรี เซ็นสัญญากับค่าย Big Machine Records และเป็นศิลปินที่อายุน้อยที่สุด ที่เซ็นสัญญากับ Sony/ATV Music

ออกผลงานชุดแรกในปี 2006 ขึ้นถึงอันดับ 5 ในชาร์ตบิลบอร์ด ซิงเกิลจากอัลบั้มนี้คือ Our Song ที่แต่งเองร้องเองขึ้นอันดับ 1 ในชาร์ตซิงเกิลคันทรี

อัลบั้มที่สอง Fearless ออกมาในปี 2008 มีเพลงดัง Love Story และ You Belong with Me ทำให้เป็นอัลบั้มขายมากที่สุดในสหรัฐของปี 2009 ได้แกรมมี่ไป 4 รางวัล และเป็นผู้ได้รางวัลใหญ่ อัลบั้มออฟเดอะเยียร์ ที่อายุน้อยที่สุด

ในอัลบั้มที่สาม Speak Now ที่ออกในปี 2010 สวิฟต์แต่งเพลงเองทั้งอัลบั้ม และประเดิมการวางจำหน่าย ด้วยอันดับ 1 ในสหรัฐ ซิงเกิล Mean ได้รางวัลแกรมมี่ไป 2 รางวัล

อัลบั้มที่สี่ Red ออกเมื่อปี 2012 มีซิงเกิลดังๆ อาทิ We Are Never Ever Getting Back Together และ I Knew You Were Trouble

ผลงานชุดที่ห้า 1989 ออกในปี 2014 ทำให้เป็นคนแรก ที่มีอัลบั้มขายในสหรัฐอเมริกาได้ล้านชุดในสัปดาห์เดียวถึง 3 อัลบั้มด้วยกัน

ซิงเกิล Shake It Off, Blank Space และ Bad Blood เข้าอันดับ 1 ในออสเตรเลียและแคนาดา และต่อมาได้แกรมมี่ไปอีก 3 รางวัล

 

กลายเป็นศิลปินหญิงคนแรก ที่ได้รางวัลอัลบั้มแห่งปีถึงสองครั้งด้วยกัน

คอนเสิร์ตเพื่อโปรโมตอัลบั้ม 1989 ในปี 2015 กลายเป็นหนึ่งในคอนเสิร์ตที่ทำรายได้สูงสุดของทศวรรษ

ในฐานะนักแต่งเพลง ได้รางวัลหลายรางวัลจากสมาคมนักแต่งเพลงแห่งแนชวิลล์ และจากหอเกียรติคุณนักแต่งเพลง ได้รับการยกย่องจากโรลลิ่งสโตนให้เป็น 1 ใน 100 นักแต่งเพลงที่ยิ่งใหญ่ตลอดกาลในปี 2015 ได้แกรมมี่ 10 รางวัล ทำสถิติกินเนสส์บุ๊ก 5 รายการด้วยกัน ได้ 1 รางวัลเอมมี่อวอร์ด

ได้บิลบอร์ดมิวสิกอวอร์ด 21 รางวัล, 11 รางวัลจากสมาคมดนตรีคันทรี และยังได้บริตอวอร์ดมา 1 รางวัลด้วย

เป็นหนึ่งในศิลปินที่มีผลงานขายดีที่สุด ด้วยตัวเลข 40 ล้านอัลบั้ม 27.8 ล้านเฉพาะในสหรัฐ, 130 ล้านดาวน์โหลด สำหรับซิงเกิล

เป็น 1 ใน 100 ผู้ทรงอิทธิพลของโลกจากการจัดของไทม์แม็กกาซีน ในปี 2010 และ 2015

ฟอร์บส์จัดให้เป็นสตรีที่รายได้มากที่สุดในวงการเพลง จาก 2011 ถึง 2015 และหนึ่งใน 100 สตรีผู้ทรงอำนาจในปี 2015 และอยู่ใน 100 เซเลบของฟอร์บส์ของปี 2016 ฯลฯ

มีข่าวหวือหวาในเรื่องความรักและคู่ควงหลายครั้งหลายหน กลายเป็นวัตถุดิบสำคัญในการแต่งเพลงของศิลปินสาวผู้นี้