‘อุ๊งอิ๊ง’ ส่งการบ้าน 5 ข้อ ชูนโยบายซอฟต์เพาเวอร์ พท.พร้อมแล้ว-เลือกตั้ง ย้ำต้องแลนด์สไลด์เท่านั้น/บทความในประเทศ

บทความในประเทศ

 

‘อุ๊งอิ๊ง’ ส่งการบ้าน 5 ข้อ

ชูนโยบายซอฟต์เพาเวอร์

พท.พร้อมแล้ว-เลือกตั้ง

ย้ำต้องแลนด์สไลด์เท่านั้น

 

พรรคเพื่อไทยเดินหน้าตอกย้ำยุทธศาสตร์ “แลนด์สไลด์” ความท้าทายขั้นสุดในการเลือกตั้งครั้งหน้า

เป้าหมายกวาดเก้าอี้ ส.ส.เกิน 250 ที่นั่ง เพื่อปิดสวิตช์ ส.ว.ในการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี

หลังประชุมใหญ่พรรค จ.ขอนแก่น ภายใต้หัวข้อแนวคิด “พรุ่งนี้เพื่อไทย : เพื่อชีวิตใหม่ของประชาชน” เมื่อ 28 ตุลาคม 2564 และการจัดกิจกรรมเปิดตัวโครงการ “ครอบครัวเพื่อไทย บ้านหลังใหญ่ หัวใจเดิม” จ.อุดรธานี วันที่ 20 มีนาคม 2565

เมื่อวันที่ 24 เมษายนที่ผ่านมา พรรคเพื่อไทยจัดประชุมใหญ่สามัญประจำปี 2565 โดยมี 4 ผู้บริหารพรรค นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว นายจาตุรนต์ ฉายแสง นายชัยเกษม นิติสิริ และ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร

ร่วมโชว์วิสัยทัศน์ภายใต้หัวข้อ “แลนด์สไลด์ เพื่อไทยเพื่อคนไทยทุกคน”

น.ส.แพทองธาร ชินวัตร ประธานคณะที่ปรึกษาด้านการมีส่วนร่วมและนวัตกรรม และหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย กล่าวว่า ตั้งแต่วันได้รับการแต่งตั้งเป็นประธานที่ปรึกษาด้านการมีส่วนร่วมและนวัตกรรม ถึงวันนี้เป็นเวลา 6 เดือน ขอใช้การประชุมใหญ่พรรค “ส่งการบ้าน”

ประกาศ “เราจะไม่ทิ้งคนรากหญ้า”

วันนี้คนไทยส่วนใหญ่ยากจนลง จากที่เคยลืมตาอ้าปากได้เพราะนโยบายที่กินได้ของไทยรักไทย พลังประชาชนและเพื่อไทย คนไทยส่วนใหญ่ยังต้องการพื้นฐานชีวิตที่มั่นคง

เพื่อบรรลุเป้าหมายนั้นจึงขอส่งการบ้าน 5 ข้อ

1. ส่งเสริมการมีส่วนร่วมและการกระจายอำนาจสู่ระดับประชาชน

พรรคไทยรักไทยเคยทำมาแล้ว ด้วยการจัดงบประมาณภาคประชาชนลงไปในระดับหมู่บ้านให้ประชาชนตัดสินใจร่วมกัน ผลที่ตามมาจะทำให้กระทรวงต่างๆ เล็กลง ไม่อุ้ยอ้ายเหมือนปัจจุบัน

2. ดึงศักยภาพคนไทยด้วยการใช้ซอฟต์เพาเวอร์ 1 คนต่อ 1 ครอบครัว

พรรคเชื่อมั่นศักยภาพคนไทย ซึ่งถูกกดให้ไม่มีโอกาสพัฒนาศักยภาพมานาน จากนี้เตรียมจัดให้มีระบบค้นหาศักยภาพคนไทยให้ได้อย่างน้อย 1 คน ต่อ 1 ครอบครัว ประมาณ 16 ล้านครอบครัว เพื่อนำมาพัฒนาศักยภาพ เป็นหลักในการหาเงินเลี้ยงครอบครัวให้หายจน

3. ใช้เทคโนโลยีเอไอเพื่อการเกษตร ให้เกิดการวิเคราะห์แม่นยำและผลผลิตสูง ศึกษาดิน น้ำ ลมฟ้าอากาศ ด้วยเทคโนโลยีเอไอ ลดการใช้ปุ๋ยและยาฆ่าแมลง

4. ปรับเปลี่ยนภาครัฐและภาคเอกชนด้วยระบบดิจิตอล ทรานส์ฟอร์เมชั่น ครั้งใหญ่ จัดให้มีรัฐบาลดิจิตอล เป็นแพลตฟอร์มที่ใช้ได้จริง เพื่อแก้ปัญหาระบบราชการใหญ่โต คอร์รัปชั่น และขาดประสิทธิภาพ

ระบบราชการไทยต้องเป็นใช้กระดาษลดลง ให้บริการประชาชนผ่านระบบแอพพลิเคชั่น ทำการตลาดแบบอีคอมเมิร์ซ ฟื้นคืนชีวิตให้สินค้าโอท็อป กลับมามีคุณภาพที่เป็นสากล จะทำให้ขายดียิ่งกว่าสมัยพรรคไทยรักไทย

5. เตรียมคนไทยเข้าสู่ยุคเมตาเวิร์ส โลกเสมือนจริงจะนำโลกที่เป็นจริง ประกอบด้วยสกุลเงินดิจิตอลที่แสดงความเป็นเจ้าของสินทรัพย์ รวมถึงเกมและอี-สปอร์ต เพื่อพัฒนาทักษะเด็กและเยาวชน ตลอดจนเทคโนโลยีเออาร์ และวีอาร์

น.ส.แพทองธารกล่าวตอนท้ายว่า วันที่รัฐบาลสั่งยุบสภา เราพร้อมหมดแล้ว มั่นใจว่าจะเปลี่ยนประเทศไทยจากสภาพที่เต็มไปด้วยหนี้ มองไม่เห็นอนาคต มีแต่ความทุกข์ ให้เป็นประเทศที่หาเงินได้ง่าย เต็มไปด้วยโอกาส ไม่สิ้นหวังแบบทุกวันนี้ มั่นใจว่าหากพรรคเพื่อไทยมีโอกาสบริหารประเทศถึง 8 ปีเช่นนี้ จะไม่เห็นปรากฏการณ์คนอยากย้ายประเทศ

เป้าหมายต่อไปพรรคเพื่อไทยต้องแลนด์สไลด์ เราต้องได้อำนาจรัฐทุกสิ่งที่กล่าวมาข้างต้น จึงจะเป็นจริงได้

นายจาตุรนต์ ฉายแสง ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคเพื่อไทย และอดีตรักษาการหัวหน้าพรรคไทยรักไทย กล่าวปลุกกระแสแลนด์สไลด์ เพื่อชีวิตใหม่ ว่า

ต้นตอวิกฤตทั้งหมดมาจากการทำรัฐประหารปี 2549 ที่ต้องการเลิกใช้รัฐธรรมนูญปี 2540 หลังพรรคไทยรักไทยได้รับความนิมยมอย่างมากจากการทำตามนโยบายที่ให้สัญญาไว้กับประชาชน

อีกฝ่ายทำรัฐประหารเพราะไม่อาจทนดูประชาชนกำหนดความเป็นไปของประเทศและกำหนดนโยบายได้อีกต่อไป

เราเป็นพรรคแรกที่ชูธงประชาธิปไตย ต่อต้านเผด็จการร่วมกับผู้รักประชาธิปไตย ตั้งพรรคพลังประชาชน ซึ่งชนะการเลือกตั้ง ตบหน้าเผด็จการอีก

เมื่อพรรคพลังประชาชนเป็นรัฐบาล เสนอนโยบายแก้รัฐธรรมนูญทั้งฉบับให้เป็นประชาธิปไตย ก็ถูกยุบอีก แต่อุดมการณ์ของประชาชนฆ่าไม่ตาย จึงเกิดพรรคเพื่อไทยขึ้นมาอีก

พรรคเพื่อไทยสู้เคียงบ่าเคียงไหล่กับคนเสื้อแดงและพี่น้องที่รักประชาธิปไตย การเลือกตั้งปี 2554 ผลก็ยังเหมือนเดิม ได้เป็นรัฐบาล แต่สุดท้ายก็เกิดเหตุการณ์เดิม มีข้ออ้างทำรัฐประหารอีก

เบื้องหน้าของเรามีความท้าทายใหญ่ที่ประเทศต้องเผชิญ 8 ข้อคือ

1. เศรษฐกิจตกต่ำ โตช้า ฟื้นช้า

2. ความยากจนที่มาเจอกับภาวะของแพง ค่าแรงถูก

3. หนี้สาธารณะสูง แต่เงินถูกใช้ไปอย่างสูญเปล่า

4. ความเหลื่อมล้ำติดอันดับต้นๆ ของโลก

5. ขีดความสามารถของประเทศต่ำ ล้าสมัย ไม่ทันโลก ไม่มีอนาคตสำหรับเยาวชนของชาติ

6. สังคมสูงวัยที่กำลังจะมาถึง

7. โลกร้อนที่ใกล้เข้ามาทุกทีแต่ไม่มีการจัดการ

และ 8. การไม่มีเสรีภาพของประชาชน ความไม่เป็นประชาธิปไตยของประเทศ

แต่เรามีรัฐบาลแบบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ทำให้ข้อเดียวก็แก้ไม่ได้

ขอบอกกับประชาชนว่า ถ้าต้องการแก้ปัญหาความเดือดร้อน ต้องให้พรรคเพื่อไทยเป็นรัฐบาล และไม่ใช่ชนะธรรมดา ต้องชนะแบบถล่มทลาย แลนด์สไลด์ทุกพื้นที่ แล้วจะทำให้เห็นว่าพรรคเพื่อไทยทำได้ และจะทำให้ดีกว่าในอดีตที่ผ่านมา

ด้านนายชัยเกษม นิติสิริ ประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์และทิศทางการเมือง พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงการเดินหน้าแก้ไขรัฐธรรมนูญ เพื่อชีวิตใหม่ของประชาชน รื้อมรดกอำนาจเผด็จการ ล้างบางสืบทอดอำนาจ

ระบุว่า จากเหตุการณ์ชุมนุม กปปส.ปี 2556-2557 มีการบุกรุกสถานที่ราชการ เจ้าหน้าที่ใช้เวลารวบรวมหลักฐานกว่าจะจับกุมแกนนำบางส่วนได้ แต่เยาวชนคนรุ่นใหม่ออกมาเคลื่อนไหวช่วง 2 ปีที่ผ่านมาด้วยสันติ กลับถูกใช้กำลังปราบปรามรุนแรง

ทำให้เห็นว่ากฎหมายไทยทุกวันนี้สร้างความเจ็บแค้นให้ประชาชนมากแค่ไหน กฎหมายต้องอำนวยความสะดวกและพัฒนาประเทศ เช่น รัฐธรรมนูญปี 2540 ที่สร้างการเมือง เศรษฐกิจที่ดี กระบวนการยุติธรรมที่ดี

เมื่อรัฐธรรมนูญปี 2540 ถูกฉีก รัฐรรมนูญปี 2550 ถูกฉีกอีก เกิดรัฐธรรมนูญปี 2560 และก่อเกิด 250 ส.ว. ตอกย้ำว่ากฎหมายกลายเป็นเครื่องมือถูกใช้อย่างบิดเบี้ยว

ดังนั้น อย่างแรกคือต้องแก้รัฐรรมนญปี 2560 เพื่อชีวิตใหม่ของประชาชน ต้องแก้ที่มานายกรัฐมนตรี แก้เรื่องลิดรอนสิทธิเสรีภาพประชาชน คุ้มครองสิทธิในการแสดงความเห็นและการชุมนุม

“ยืนยันจะเดินหน้าแก้ไขรัฐธรรมนูญปี 2560 เพื่อสร้างชีวิตที่ดีให้ประชาชน ปิดทุกช่องโหว่ที่จะให้เผด็จการกลับมางอกเงย ดังนั้น ขอเรียกร้องประชาชนแลนด์สไลด์เพื่อไทย เพื่อรัฐรรมนูญฉบับประชาชน” นายชัยเกษมกล่าวสรุป

ด้าน นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า 8 ปีภายใต้รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ คนไทยต้องพบ 6 หลุมดำ นำไปสู่ทางตันของประเทศและประชาชน คือ วิกฤตเศรษฐกิจ, วิกฤตสาธารณสุข, วิกฤตผู้นำ, วิกฤตการเมือง วิกฤตประชาธิปไตยเสื่อมโทรม, วิกฤตหนี้ และวิกฤตคอร์รัปชั่นที่รุนแรง

เราไม่อาจยอมรับชะตากรรมเช่นนี้ได้อีกต่อไป ถึงเวลาต้องออกจากวิกฤตนี้ และทางออกเดียวคือประยุทธ์ จันทร์โอชา ต้องออกไป พรรคเพื่อไทยต้องกลับมา พรรคเพื่อไทยคือทางเลือกดีที่สุด ที่จะพาคนไทยออกจากหลุมดำแห่งความทุกข์ได้

พรรคเพื่อไทยมีส่วนผสมลงตัวระหว่างผู้มีประสบการณ์เป็นรัฐบาล กับคนรุ่นใหม่ที่อยากใช้พลังความรู้ความสามารถเปลี่ยนแปลงประเทศ มีส่วนผสมระหว่าง ส.ส.ตัวแทนประชาชนกับผู้บริหารพรรค ที่ตอบสนองการมองภาพใหญ่เชิงนโยบายในการแก้ไขปัญหาประเทศ

วันนี้ถึงเวลา และเราพร้อมแล้วที่จะเข้ามารับช่วงต่อประเทศในยามมืดมน ทุกข์ทรมานที่สุด เพื่อขจัดฝันร้ายให้ประชาชน

เราต้องไม่ใช่แค่ชนะ แต่ต้องชนะให้ขาด ต้องแลนด์สไลด์เกิน 250 ที่นั่ง

เราไม่ได้เกิดมาเพื่อเป็นฝ่ายค้าน เราเกิดมาเพื่อเป็นรัฐบาล เป็นเครื่องมือของประชาชน ทำงานให้ประชาชนมีชีวิตที่ดีขึ้น ขอโอกาสให้พรรคเพื่อไทยได้แสดงศักยภาพพาประชาชนหลุดพ้นจากวิกฤตและหลุมดำ

“เลือกเพื่อไทยให้ชนะพรรค ส.ว.ลากตั้ง เลือกเพื่อไทยให้แลนด์สไลด์ เพื่อคนไทยทุกคน”

ทุกครั้งที่พรรคเพื่อไทยจัดกิจกรรมใหญ่ โดยมีอุ๊งอิ๊ง แพทองธาร เข้าร่วม คำถามที่ตามมาคือความชัดเจนเกี่ยวกับแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี

“น้ำหนักของคนมาเป็นแคนดิเดตนายกฯ ต้องมาจากประชาชนให้การสนับสนุน พรรคเพื่อไทยจะส่ง 3 รายชื่อตามกฎหมายกำหนด แต่ต้องหลังจากยุบสภาและกำลังเข้าสู่การเลือกตั้ง จึงจะพิจารณายื่นรายชื่อ” นพ.ชลน่านระบุ

อย่างไรก็ตาม จากบทบาทการร่วมแสดงวิสัยทัศน์ บนเวทีประชุมใหญ่วันที่ 24 เมษายน นอกจากน.ส.แพทองธารยังประกบเคียงข้างด้วยนายชัยเกษม นิติสิริ และนายจาตุรนต์ ฉายแสง

ทำให้สังคมจับตาว่าอาจจะเป็น 3 คนนี้ ที่จะเข้ามารับหน้าที่สำคัญ ผลักดันยุทธศาสตร์ “แลนด์สไลด์ทั้งแผ่นดิน” ให้สำเร็จ

ท่ามกลางพรรคการเมืองหลักไม่ว่า ประชาธิปัตย์ ภูมิใจไทย ชาติไทยพัฒนา ต่างก็จัดประชุมใหญ่ในห้วงเวลาเดียวกัน รวมถึงบรรยากาศการจัดตั้งพรรคการเมืองใหม่หลายพรรค การย้ายพรรคของนักการเมือง ส.ส. และอดีต ส.ส. ที่เป็นไปอย่างคึกคัก

ทุกอย่างเหมือนเป็นสัญญาณบ่งชี้ ว่าการเลือกตั้งใหญ่อาจเกิดขึ้นในเวลาอีกไม่นาน บนพื้นฐานการเมืองไทยไม่มีอะไรแน่นอน หลายสิ่งหลายอย่างมักอยู่เหนือการวิเคราะห์คาดการณ์

การเตรียมพร้อมของพรรคการเมืองจึงสำคัญ โดยเฉพาะพรรคเพื่อไทยที่ต้องเหนื่อยหนักกว่าพรรคอื่น

หากต้องการให้ชัยชนะแลนด์สไลด์ เป็นจริง ไม่ใช่แค่ฝัน