ปั้นดินให้เป็นยาดี ดินสอพองแก้ฮีตสโตรกยามหน้าร้อน / สมุนไพรเพื่อสุขภาพ

สมุนไพรเพื่อสุขภาพ

โครงการสมุนไพรเพื่อการพึ่งพาตนเอง

มูลนิธิสุขภาพไทย

www.thaihof.org

 

ปั้นดินให้เป็นยาดี

ดินสอพองแก้ฮีตสโตรกยามหน้าร้อน

 

ปีนี้นางสงกรานต์ชื่อ กิริณีเทวี เสด็จยืนถือขอสับอยู่บนหัวช้างมาปราบยุคเข็ญ เมื่อสุริยยาตรเข้าสู่สงกรานต์เป็นสัญญาณว่าเมืองไทยได้เข้าสู่สภาพเมืองร้อนอย่างสมบูรณ์แล้ว

กล่าวตามหลักการแพทย์แผนไทย สาเหตุของโรคหน้าร้อนย่อมเกิดจากเตโชธาตุสันตัปปัคคีหรือธาตุไฟอุ่นกายกำเริบ ทำให้อุณหภูมิร่างกาย (Core Temperature) สูงขึ้นกว่าค่าปกติ

และถ้าหากสูงขึ้นถึง 39-40 องศาเซลเซียส ก็ทำให้เกิดภาวะฮีตสโตรก (Heat Stroke) หรือที่หมอไทยเรียกว่า “โรคลมแดด” คือ ภาวะที่อุณหภูมิภายในร่างกายสูงเกิน 40-41 องศาเซลเซียส

ตามตำราเวชศึกษาของแพทย์แผนไทยกล่าวว่า สันตัปปัคคีหรืออุณหภูมิอุ่นร่างกายปกติเฉลี่ยอยู่ที่ 36-37 องศาเซลเซียส โดยที่ร่างกายไม่สามารถระบายความร้อนให้กลับเป็นปกติได้ และไม่มีเหงื่อขับออกมา ส่งผลต่อระบบอวัยวะภายในอย่างระบบประสาท หัวใจ และไต จนทำให้ร่างกายเข้าสู่ภาวะวิกฤต

ซึ่งหากไม่ได้รับการรักษาหรือบำบัดอาการอย่างทันท่วงที อาจส่งผลให้เสียชีวิตได้

 

คนไทยในยุคนุ่งผ้าโจงกระเบนผืนเดียวไม่กลัวลมแดดอยู่แล้ว หากร้อนนักก็ลงแช่น้ำในคูคลองใส ประแป้งดินสอพองทั้งเนื้อตัวเปียกๆ ดับร้อนได้ดีนัก ถ้าต้องการสบายตัวยิ่งขึ้นอีก ก็ใช้แป้งดินสอพองประหน้าทาตัวขาววอก

นี่คือภูมิปัญญาดับร้อนหลีกภัยจากโรคลมแดดของชาวไทยในยุคคุณย่าคุณยายยังวัยรุ่น ดินสอพองไม่ใช่ดินธรรมดา เพราะชื่อก็บอกแล้วว่าเป็นดินขาว (สอ แปลว่า ขาว) มีตำนานขานเล่าเก่าแก่เรื่องดินขาวของจังหวัดลพบุรีว่า

“เมื่อครั้งที่พระนารายณ์ปราบทศกัณฐ์ได้สำเร็จนั้น พระองค์ทรงปูนบำเหน็จแก่หนุมานทหารเอก ด้วยการแผลงศรออกไป หากศรตกลงไปที่ใด ที่นั้นก็จะเป็นของหนุมาน ศรได้ตกลงตรงที่ทุ่งพรหมมาสตร์ ทะเลชุบศรจังหวัดลพบุรี จึงเกิดไฟลุก หนุมานเห็นดังนั้นจึงใช้หางตัวเองกวาดเปลวไฟให้ดับ เนื้อดินบริเวณที่ถูกไฟก็จะสุกกลายเป็นดินสอพองสีขาว ส่วนพื้นดินที่โดนกวาดไปก็กลายเป็นภูเขาล้อมรอบจังหวัดลพบุรีดังที่เห็นอยู่ทุกวันนี้”

ตรงนี้ต้องทำความเข้าใจว่าดินขาวที่ใช้ทำเครื่องปั้นดินเผา กับดินขาวที่ใช้ทำดินสอพองเป็นคนละชนิดกัน

ดินสอพองทำมาจากดินมาร์ล (marl) ที่มีโครงสร้างเป็นดินโปร่งของแคลเซียมคาร์บอเนต เมื่อนำดินมาร์ลมาบด ร่อน ผสมน้ำ แล้วกรองจนสะอาด ปล่อยเนื้อดินให้ตกตะกอนนอนนิ่งอยู่ก้นบ่อและดูดน้ำใสออกจากบ่อให้เหลือแต่แป้งเหลวนำมาหยอดใส่แม่พิมพ์ ซึ่งเมื่อตากแห้งแล้วจะได้ดินสอพองรูปแบบต่างๆ ตามต้องการ

กล่าวอย่างทันสมัย ดินสอพองที่ใส่ในน้ำอบแป้งร่ำถือเป็นเครื่องสำอางประทินผิว ทำนองเดียวกับสกินแคร์หรือครีมกันแดดของชนทุกวัยไม่เลือกคนหนุ่มสาวเฒ่าแก่ ที่ใช้แป้งร่ำน้ำอบไทยใส่ดินสอพอง ใช้ลูบไล้เนื้อตัวให้เย็นสบายคลายร้อน ระงับเหงื่อเนื้อตัวไม่เหนอะหนะ

ที่สำคัญช่วยบำรุงผิวพรรณ ปกป้องผิวจากแสงแดด บำรุงผิวหน้าไม่ให้หมองคล้ำ ทั้งยังป้องกันการระคายเคืองจากสิวและผดผื่นได้ดีกว่าคาลาไมด์หลายยี่ห้อได้ด้วย

คนทั่วไปมักเข้าใจว่าดินสอพองเป็นยาภายนอก แต่ในศาสตร์แพทย์แผนไทยจัดว่าดินสอพองเป็นเครื่องยาธาตุวัตถุ ที่ใช้ปรุงเป็นตำรับยารับประทานดับร้อนภายในได้ดีด้วย โดยก่อนใช้ต้องนำดินสอพองไปสะตุให้ปราศจากเชื้อ (สะตุ คือกรรมวิธีแต่โบราณในการนำเอาเครื่องยาสมุนไพรผ่านความร้อน เพื่อทำความสะอาด และในบางครั้งเป็นการลดฤทธิ์ยาให้อ่อนลง หรือมีความเป็นพิษน้อยลง) ตำรับยากินดินสอพองที่เก่าแก่ที่สุดปรากฏในสมัยอยุธยา ซึ่งบันทึกไว้ใน “ตำราพระโอสถพระนารายณ์” ได้กล่าวไว้ว่า

“ให้เอาชานอ้อย กำยาน แก่นคูน กรักขีถาก (แก่นกรักขีซึ่งเป็นสมุนไพรเนื้อหอม ถากมาใช้เล็กน้อย) รมหม้อใหม่ใส่น้ำไว้ จึงเอาดินสอพองเผาให้สุก ใส่ลงในหม้อน้ำนั้นให้คนไข้กินเนืองๆ แก้ร้อนใน แก้กระหายน้ำ หยุดแล”

นอกจากตำรับยาดั้งเดิมยืนยันในวิถีการใช้ดินสองพองมานานหลายร้อยปีแล้ว ยุคสปาและผลิตภัณฑ์ขัดตัวบำรุงผิวสมุนไพร ก็ยังนำเอาดินสอพองสะตุแล้วผสมขมิ้นชันบ้าง ผสมไพล ว่านนางคำ ฝักส้มป่อย พญายา ฯลฯ เป็นผงขัดตัวสมุนไพร บางครั้งปรุงสมุนไพรผงแล้วยังผสมเนื้อมะขามเปียกด้วย ยาขัดผิวนี้ช่วยขัดถูผิวให้สะอาดแล้วยังช่วยถนอมผิวพรรณ ดินสอพองมีรสเย็นก็ช่วยลดความระคายเคืองผิว ลดการอักเสบได้ดี

ในยุคโลกร้อน เมืองร้อนอย่างไทยแลนด์ยิ่งร้อนแรงขึ้นทุกปี อย่าลืมดินสอพองแป้งร่ำน้ำอบไทย ภูมิปัญญาโบราณที่ใช้ดับร้อนได้ไม่แพ้ครีมกันแดดยี่ห้อใด

คราวหน้าถ้าได้ “มิลลิ แร็ปเปอร์วัย 19 ปี” แนะนำต่อจากข้าวเหนียวมะม่วง รับรองดินสอพองไทยไปทั่วโลก