ผ่าคดีฉาวรอง หน.พรรค ‘อนาจาร-ขืนใจ’ นับสิบ เจ้าตัวยันบริสุทธิ์-สู้คดี ทนายหวั่นถูกแทรกแซง/อาชญากรรม อาชญา ข่าวสด

อาชญากรรม

อาชญา ข่าวสด

 

ผ่าคดีฉาวรอง หน.พรรค

‘อนาจาร-ขืนใจ’ นับสิบ

เจ้าตัวยันบริสุทธิ์-สู้คดี

ทนายหวั่นถูกแทรกแซง

 

ถือเป็นคดีอื้อฉาว ที่สร้างความสนใจในสังคมอย่างสูง สำหรับกรณีการออกมาเปิดเผยพฤติกรรมของหนุ่มใหญ่โปรไฟล์ดี เรียนจบนอก พ่อใหญ่ระดับโลก แถมเป็นรองหัวหน้าพรรคการเมืองชื่อดัง

ว่าที่แท้แล้วมีพฤติกรรมหลอกลวงหญิงสาว สร้างความไว้วางใจให้กับครอบครัวฝ่ายหญิง อ้างว่าจะสอนเรื่องเศรษฐศาสตร์ การลงทุนตามที่ตัวเองถนัด ก่อนนัดมาที่ร้านอาหารแล้วลงมือลวนลามอนาจาร

และถือเป็นความกล้าหาญที่ผู้เสียหายไม่ยอมปล่อยให้เรื่องเงียบ เข้าร้องเรียนตำรวจ เพื่อขอให้ดำเนินคดี

ก็ต้องตกตะลึงว่ามีเหยื่อสาวอีกนับสิบ ที่ถูกกระทำในลักษณะเดียวกัน แถมยังมีคดีลักษณะเดียวกันที่อังกฤษอีกด้วย

ต่อมาผู้ถูกกล่าวหาก็ออกมาเปิดตัว ซึ่งก็คือปริญญ์ พานิชภักดิ์ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ลูกชายนายศุภชัย พานิชภักดิ์ อดีตรองนายกฯ และ ผอ.การค้าโลก ยืนยันปฏิเสธไม่ได้ลงมืออย่างที่ถูกกล่าวหา

ต้องพิสูจน์กันตามกระบวนการยุติธรรมต่อไป

เหยื่อแจ้งความ

รอง หน.ปชป.ถูกคดีข่มขืน

เหตุการณ์นี้ปรากฏอยู่ในความรับรู้ของสังคม เมื่อช่วงเย็นวันที่ 13 เมษายน โดยนายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือทนายตั้ม โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊ก ระบุว่า มีน้องผู้หญิง อายุ 18 ปี ปรึกษาว่าถูกรองหัวหน้าพรรคการเมืองใหญ่ลวนลาม หอมแก้ม กอดจูบ จับก้นโดยไม่สมยอม

โดยหลอกว่าจะพามาคุยเรื่องงาน สอนเรื่องหุ้น เศรษฐศาสตร์ และการลงทุน แต่พอมาถึงกลับคุยแต่เรื่องเพศ และลวนลามต่างๆ นานา

ต่อมาวันที่ 14 เมษายน นายษิทรา พร้อมผู้เสียหาย ที่เป็นนักศึกษา อายุ 18 ปี เข้าพบพนักงานสอบสวน สน.ลุมพินี พร้อมระบุรายละเอียดว่า เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 11 เมษายน และแจ้งความแล้วเมื่อวันที่ 12 เมษายน โดยตำรวจได้ภาพจากกล้องวงจรปิดภายในร้านเรียบร้อย

ทั้งนี้ ทราบว่าแม่เหยื่อเองก็ชื่นชมพรรคการเมืองพรรคนี้ พอเกิดเรื่องก็เสียความรู้สึก ยิ่งพอข่าวออกไปก็มีเหยื่อติดต่อมาเพิ่มมากขึ้น ทั้งเป็นคนที่แม่ทำงานในพรรคเดียวกัน บางคนต้องหนีไปอังกฤษ บางรายถูกพาขึ้นคอนโดมิเนียม

ยันไม่ใช่เรื่องการเมือง แต่เป็นเรื่องที่บุคคลคนนี้มีพฤติกรรมเป็นอันตรายจริงๆ!!

ไม่ต้องปล่อยให้เดากันนาน ในที่สุดนายปริญญ์ พานิชภักดิ์ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ก็ออกมายอมรับว่าคนที่ถูกกล่าวหาคือตนนั่นเอง

พร้อมเปิดแถลงที่พรรคประชาธิปัตย์ ปฏิเสธว่าไม่ได้กระทำอย่างที่ถูกกล่าวหา ช็อกและตกใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น และปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา

“คนที่รู้จักผมดี รู้ว่าผมไม่ใช่คนอย่างนั้น แต่ถึงแม้จะเป็นเรื่องส่วนตัว ก็กระทบกับการทำงาน จึงขอแสดงความรับผิดชอบด้วยการลาออกจากตำแหน่งรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และสมาชิกพรรค เพื่อใช้เวลาที่เหลือต่อสู้คดี เข้าสู่กระบวนการยุติธรรม ซึ่งในพรรคไม่มีใครกดดัน ตัดสินใจเองตั้งแต่ 13 เมษายนแล้ว”

พร้อมระบุถึงพ่อ ซึ่งก็คือนายศุภชัย พานิชภักดิ์ ว่าคนเป็นพ่อแม่ก็ต้องรักลูกอยู่แล้ว แต่เรื่องนี้เป็นเรื่องส่วนตัวและขอชี้แจงกับเจ้าหน้าที่โดยตรง พร้อมพิสูจน์และตอบรายละเอียดความจริงทุกอย่าง

อย่างไรก็ตาม นายปริญญ์ยอมรับว่าได้โทรศัพท์หาแม่ของผู้เสียหาย แต่ไม่ใช่การขอให้ถอนคดี แต่เป็นการแสดงความบริสุทธิ์ใจ และขอโทษที่ทำให้ไม่สบายใจ

ส่วนสถานที่ที่นัดผู้หญิงคนดังกล่าวไป ไม่ใช่โรงแรม แต่เป็นร้านอาหารแบบเปิด มีคนแน่นร้าน ไม่ได้เจอกันสองต่อสอง

ปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา พร้อมเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม

ศาลให้ประกัน

มอบตัวสู้คดี-ศาลให้ประกัน

อย่างไรก็ตาม ในช่วงดังกล่าวก็มีการรื้อฟื้นข่าวเก่า โดยอ้างอิงสื่อประเทศอังกฤษ ที่เสนอข่าวว่า นายปริญญ์เคยต้องขึ้นศาลเมื่อปี 2546 สมัยที่นายปริญญ์อายุ 25 ปี จากคดีข่มขืน

โดยคดีแรก เหยื่อเป็นหญิงอายุ 18 ปี ซึ่งเป็นคนรู้จักกับผู้ถูกกล่าวหา ที่แฟลตริมแม่น้ำเทมส์ เขตลอนดอนตะวันตก อีกคดีเป็นคดีข่มขืนหญิงอายุ 27 ปี ในเดือนพฤศจิกายน 2545 ซึ่งตามรายงานข่าวระบุว่านายปริญญ์ได้รับการประกันตัว และไม่มีรายงานผลคดีหลังจากนั้น ซึ่งนายปริญญ์เองระบุว่าคดีดังกล่าวจบไปแล้ว และไม่ขอกล่าวถึง

ซึ่งในจังหวะนั้นเองก็มีผู้เสียหายอีกจำนวนมากพากันมาแจ้งความดำเนินคดี และออกมาเปิดเผยข้อมูลว่าถูกข่มขืน อนาจาร ล่วงละเมิด

โดย 1 ในนั้น คือนักการเมืองสาว แอนนา ผู้สมัคร ส.ก.เขตสวนหลวง ภรรยาของนายธนัตถ์ ธนากิจอำนวย ที่ลุกขึ้นมาแจ้งความเอาผิดนายปริญญ์ โดยระบุว่า เคยถูกข่มขืนเมื่อปี 2564

ระบุวันเกิดเหตุนัดคุยงานกับนายปริญญ์ ตอนกลางวันที่ร้านอาหารแห่งหนึ่ง ที่นายปริญญ์อ้างเป็นเจ้าของ และบอกไปคุยต่อที่ออฟฟิศใกล้ๆ แต่กลับพาไปที่คอนโดมิเนียม ย่านสุขุมวิท 33 เมื่อเข้าห้องได้ก็ล็อกประตูข่มขืน ทำให้ตนที่มีน้ำหนักเพียง 39 กิโลกรัม พยายามขัดขืนแล้วแต่ก็ทำอะไรไม่ได้

พร้อมระบุว่าช่วงดังกล่าวเพิ่งเลิกกับแฟนที่มีแพลนจะแต่งงาน และเสียน้องชายไป ทำให้อยากเริ่มอะไรใหม่ๆ แล้วก็มาเจอเขาขายฝันหลอกล่อเรื่องธุรกิจ อ้างว่าตนมีศักยภาพ ให้มาลองคุยกัน จนตกเป็นเหยื่อ

“ที่เปิดเผยตัวตนวันนี้ ก็เพื่อให้เหยื่อรายอื่นๆ กล้าที่จะออกมา เพราะตอนแรกคิดว่าเป็นผู้หญิงตัวเล็กๆ ทำอะไรไม่ได้” แอนนาระบุ

เขาก็เข้ามาขายฝันหลอกล่อเรื่องธุรกิจ บอกว่าให้ลองมาคุยกัน เพราะเขาบอกว่าตนมีศักยภาพ เราก็ตกหลุมไป เพราะงานนั้นเป็นการรวมตัวของนักธุรกิจ

แอนนากล่าวอีกว่า การเปิดเผยตัวตนในวันเดียวกันนี้ ก็เพื่อให้เหยื่อรายอื่นๆ กล้าที่จะออกมา เพราะตอนแรกตนรู้สึกว่าเป็นผู้หญิงตัวเล็กๆ ทำอะไรไม่ได้ แต่พอทราบว่ามีผู้เสียหายอีกเยอะ เลยต้องการออกมาพูด และสามีตนก็สนับสนุน อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมาเขาไม่ได้ขู่ แต่พูดว่าเป็นใคร ทำอะไรในเชิงข่ม และใช้กำลังบังคับตน ซึ่งหากเขาเป็นคนปกติก็คงแจ้งความไปตั้งแต่ตอนแรกแล้ว

ไม่เพียงแค่นั้นยังมีอดีตสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ ระบุว่าถูกลวนลามอนาจาร หลังงานเลี้ยงพรรคที่ จ.เพชรบุรี จนถูกตั้งคำถามถึงผู้ใหญ่ในพรรคว่าไม่รู้เห็นกับเรื่องดังกล่าวบ้างเลยหรือไร

และก่อนที่จะถูกออกหมายจับ นายปริญญ์ก็เข้าพบ พ.ต.อ.นิมิตร นูโพนทอง ผกก.สน.ลุมพินี ช่วงเช้าวันที่ 16 เมษายน รับทราบข้อกล่าวหาอนาจารต่อหน้าธารกำนัล ข่มขืนกระทำชำเรา โดยมีผู้เสียหายแจ้งความล็อตแรก 4 ราย

ก่อนส่งฝากขังผัดแรกในวันที่ 17 เมษายน โดยมีเหยื่อสาวยื่นคัดค้านประกันตัว เพราะเกรงยุ่งเหยิงพยานหลักฐาน ข่มขู่พยาน และหลบหนีออกนอกประเทศ

สุดท้ายศาลอาญากรุงเทพใต้ให้ประกันตัว 3 สำนวน ในราคา 7 แสนบาท

สภาพห้องก่อเหตุ

เหยื่ออื้อ-มีมอมยาขืนใจด้วย

ขณะที่เหยื่อของอดีตรองหัวหน้าพรรคนั้นมีเพิ่มขึ้นไม่ต่ำกว่า 15 ราย และทยอยเข้าพบพนักงานสอบสวนเพื่อแจ้งความเอาผิด และให้การเป็นพยาน ซึ่งมีทั้งการอธิบายพฤติกรรมก่อเหตุทั้งในประเทศไทย และที่อังกฤษ

โดยที่มีน่าสนใจ อาทิ ผู้เสียหายอายุ 26 ปี ทำธุรกิจส่วนตัว ถูกลวนลาม เหตุเกิดเมื่อ 13 พฤศจิกายน 2563 ที่คอนโดมิเนียม ผู้เสียหายรู้จักกับผู้ก่อเหตุ จากการไปงานที่ต่างจังหวัด เมื่อผู้เสียหายมา กทม. นายปริญญ์หลอกว่าจะพาไปรับประทานข้าว แต่ปรากฏว่าเป็นห้องคอนโดมิเนียม

จากนั้นชวนดื่ม ร้องคาราโอเกะ ให้มานั่งใกล้ เคสนี้เคยแจ้งความที่ สน.ลุมพินีแล้ว วันที่ 13 พฤศจิกายน 2563 จนตอนนี้ไม่มีความคืบหน้า แม้จะผ่านมาร่วม 2 ปี

อีกกรณี ผู้เสียหายถูกวางยา แล้วข่มขืน เหตุเมื่อปี 2559 ที่โรงแรมแห่งหนึ่ง ก่อนลงมือ มีการนัดปรึกษาเรื่องธุรกิจ แล้วพยายามชวนให้ดื่มแอลกอฮอล์ อ้างว่าจะทำให้การพูดคุยราบรื่น

เมื่อดื่มสักระยะรู้สึกแปลก แต่ถูกบังคับให้ดื่มต่อจนหมดแก้ว จากนั้นจึงเริ่มถูกลวนลามจับมือ แขน และล่วงละเมิดทางเพศ

ตื่นมาเช้าวันรุ่งขึ้น พบว่าตนเองนอนอยู่ข้างป้อม รปภ. หลังเกิดเหตุการณ์ นักการเมืองคนดังกล่าวโทร.มาพูดคุยตามปกติ แต่เหยื่อพยายามตัดทุกช่องทางการติดต่อ ได้แจ้งความไว้แล้วเมื่อวันที่ 18 เมษายน

ด้าน พ.ต.อ.นิมิตร ผกก.สน.ลุมพินี ระบุว่า จากการสอบปากคำพยานและผู้เสียหาย พบพฤติการณ์ผู้ก่อเหตุลักษณะใกล้เคียงกัน เริ่มจากพูดคุยเรื่องธุรกิจ หรือล่อลวงมาที่คอนโดมิเนียมเกิดเหตุ หรือสถานที่อื่น ก่อนจะลวนลาม ล่วงละเมิด บางรายถูกข่มขืน

บางคนถูกวางยาก่อนลงมือข่มขืนด้วย!!

ซึ่งหลังจากนี้จะรวบรวมพยานหลักฐาน แจ้งข้อหาเพิ่มในสำนวนที่เพิ่มขึ้นมาและจะออกหมายจับด้วย

ด้านนายษิทราระบุอีกว่า คดีเริ่มมีปัญหา แม้ได้ไฮโซสาวที่ถูกลวนลามเมื่อปี 2551 มาเป็นพยานด้วย เพราะคนที่นัดหมายอีก 2 ราย ติดต่อไม่ได้แล้ว และมีผู้ที่ถูกข่มขืนถอนตัวไปแล้ว 2 คดี

โดยสาวอายุ 18 ปีที่เป็นต้นเรื่อง ตอนนี้ไม่ได้พูดคุยกันแล้ว เพราะไม่ให้ความร่วมมือ ขอให้ทำหนังสือมอบฉันทะเพื่อยื่นศาลค้านประกันก็ไม่ทำมา

ทราบว่ามีนายตำรวจยศ พล.ต.ต.เข้ามาพูดคุยกับแม่ผู้เสียหาย จากนี้คงต้องสอบถามไปยัง สตช.ว่า พล.ต.ต.คนนี้เป็นใคร รับผิดชอบในคดีหรือไม่ เหตุใดมายุ่งเกี่ยวกับผู้เสียหาย

นอกจากนี้ยังมีคนเตือนให้ระวังโดนโต้กลับ ให้คนแทรกซึมมาเป็นผู้เสียหาย จากนั้นก็รับว่าสร้างเรื่องขึ้น เพื่อทำลายน้ำหนักพยาน และผู้เสียหาย เพื่อให้เห็นเป็นเกมการเมือง

เป็นอีกเรื่องที่ต้องติดตามดูว่าจะมีบทสรุปอย่างไร!??