คลุกวงใน

พิศณุ นิลกลัด

Facebook : @Pitsanuofficial

 

การขอแต่งงานในสนามกีฬา

ผู้หญิงชอบหรือไม่?

 

ที่สหรัฐอเมริกา เดือนมีนาคมถือเป็นเดือนแห่งการเริ่มเข้าสู่ฤดูกาลวางแผนจัดงานแต่งงาน

วันอังคารที่ 1 มีนาคม เป็นวันวางแผนจัดงานแต่งงานแห่งชาติ หรือ National Wedding Planning Day ซึ่งเพิ่งเริ่มมีขึ้นเมื่อปี 2017

เหตุผลที่เลือกวันที่ 1 มีนาคม เป็นวันวางแผนจัดงานแต่งงานแห่งชาติ ก็เพราะที่อเมริกา จำนวน 40% ของคนที่นั่นนิยมคุกเข่าขอคนรักแต่งงานระหว่างเดือนพฤศจิกายนถึงเดือนกุมภาพันธ์ เมื่อสิ้นสุดฤดูกาลที่คนนิยมขอแต่งงาน ก็เริ่มเข้าสู่ฤดูกาลวางแผนจัดงานแต่ง

ตามธรรมเนียมที่อเมริกา หลังจากคุกเข่าขอคนรักแต่งงานแล้ว จะจัดพิธีแต่งงานภายใน 12 เดือน

 

สมัยนี้ การขอผู้หญิงแต่งงานต้องทำให้อลังการ และเซอร์ไพรซ์สุดสุด

สำหรับแฟนกีฬา สถานที่ขอแฟนสาวแต่งงานที่ยิ่งใหญ่ อลังการที่สุดก็คือที่สนามกีฬา

ใน Youtube เรามักจะเห็นคลิปขอแต่งงานตามสนามกีฬาอยู่เป็นประจำ

ทีมกีฬาหลายทีมก็หัวการตลาด จัดแพ็กเกจขอแฟนสาวแต่งงานขายซะเลย

ทีมบาสเกตบอล บรู๊กลิน เน็ตส์ (Brooklyn Nets) มีแพ็กเกจ Marriage Proposal ในราคา 500 ดอลลาร์ หรือ 16,500 บาท ที่สนาม Barclays Center

โดยราคานี้จะมีการถ่ายทอดภาพสดๆ ตอนขอแต่งงานขึ้นจอยักษ์ที่เรียกว่า จัมโบทรอน (Jumbotron) คู่รักจะได้ภาพถ่ายและวิดีโอตอนขอแต่งงานเป็นที่ระลึก

รายได้จากการขายแพ็กเกจนี้นำเข้ามูลนิธิของทีม

 

ตามสูตรการเซอร์ไพรส์ขอแต่งงานในสนามที่แข่งบาสเกตบอล NBA จะทำในช่วงขอเวลานอก ซึ่งช่วงนี้ในสนามมักจะมีการเล่นกิจกรรม Kiss Cam หรือกล้องจูบ ซึ่งเป็นกิจกรรมสนุก กุ๊กกิ๊ก น่ารัก ระหว่างช่วงพักครึ่งการแข่งขัน หรือช่วงขอเวลานอก เพื่อไม่ให้ผู้ชมในสนามเบื่อ

โดยกล้องในสนามจะส่องหาคู่รักที่นั่งชม NBA อยู่ในสนาม และโชว์ภาพบนจอยักษ์ในสนาม ตามธรรมเนียม หากคู่ไหนถูกจับภาพขึ้นจอยักษ์ จะต้องจูบกันให้ผู้ชมในสนามเห็น

 

กล้องจะจับคู่รักคู่อื่นๆ ก่อนสักสามสี่คู่ จากนั้นก็จะมาจับภาพคู่ของหนุ่มที่จะขอแฟนสาวแต่งงาน ซึ่งสาวจะเซอร์ไพรซ์สุดๆ เมื่อแฟนหนุ่มคุกเข่าขอแต่งงาน โดยทางสนามจะเตรียมทำกราฟิกเป็นรูปหัวใจหรือขึ้นคำน่ารักต่างๆ เช่น Will you marry me?

หากสาวตอบตกลง ก็จะขึ้นคำว่า She said Yes!

 

Kiss Cam มีจุดเริ่มเต้นใน NBA ประมาณปี 1980 ตามธรรมเนียม คู่รักคู่ไหนที่กล้องจับขึ้นจอยักษ์ในสนาม ต้องจูบโชว์ให้ผู้ชมเห็นและจะได้รับเสียงปรบมือ

หากคู่ไหนจูบกันอย่างดูดดื่มก็จะได้รับเสียงปรบมือก้อง พร้อมเสียงผิวปากแซว

แต่คู่ไหนกล้องจับขึ้นจอยักษ์แล้วไม่ยอมจูบกัน จะโดนคนในสนามโห่

หรือหากหอมแก้ม หอมศีรษะ หรือจูบแบบไร้อารมณ์ ก็จะถูกโห่เหมือนกัน

 

ในการแข่งขันเบสบอล MLB ที่อเมริกา ซึ่งเกมการแข่งขันเบสบอลไม่มีกำหนดเวลาตายตัวแบบฟุตบอล และการแข่งขันดำเนินไปอย่างช้าๆ กินเวลา 3-4 ชั่วโมง ทำให้คนนิยมเลือกใช้เป็นสถานที่ขอแต่งงาน เพราะไม่ต้องรีบทำอย่างเร่งร้อน เวลาจำกัด

ทีมเบสบอลต่างๆ ใน MLB มีอัตราค่าแพ็กเกจขอแต่งงานในราคาที่แตกต่างกันไป

 

ทีม แอลเอ ดอดเจอร์ส (LA Dodgers) มีค่าแพ็กเกจขอแต่งงานสูงที่สุดในลีก อยู่ที่ 2,500 ดอลลาร์ หรือ 90,000 บาท โดยจะมีการทำเซอร์ไพรส์ขอแต่งงานบนจอยักษ์ที่สนาม Dodger Stadium รับเพียง 1 คู่ต่อ 1 เดือน

แต่สำหรับคนที่มีงบฯ น้อย ทีมแอลเอ ดอดเจอร์สก็มีแพ็กเกจขอแต่งงานราคาย่อมเยา อยู่ที่ 75 ดอลลาร์ หรือ 2,700 บาท

โดยจะไม่มีการขึ้นภาพสดๆ บนจอยักษ์ตอนคุกเข่าขอแต่งงาน แต่จะขึ้นตัววิ่งคำขอแต่งงานบนสกอร์บอร์ดขนาดย่อมลงมา

 

การจะขอสาวแต่งงานในสนามกีฬาที่มีผู้ชมเป็นพันเป็นหมื่นคนนั้น ฝ่ายชายต้องแน่ใจเสียก่อนว่าหญิงจะ Say Yes หรือตอบตกลงแต่งงานด้วย ไม่งั้นจะเป็นเรื่องน่าอับอาย และจะกลายเป็นคลิปใน Youtube ไปตลอดชีวิต

ในมุมมองของผู้หญิง ถามว่าถ้าเลือกได้อยากให้แฟนขอแต่งงานในสนามกีฬาต่อหน้าคนเป็นพันเป็นหมื่นมั้ย

ผู้หญิงส่วนใหญ่ตอบว่าไม่อยากให้แฟนขอแต่งงานในสนามกีฬาต่อหน้าคนมากมาย เพราะเหมือนกับกดดันให้ผู้หญิงต้องตอบว่า Yes

เพราะหากไม่ตอบ Yes ก็ถูกมองว่าใจร้าย ทำร้ายจิตใจผู้ชายที่คุกเข่าตั้งใจเซอร์ไพรส์ขอแต่งงาน

 

ผู้หญิงหลายคนเห็นว่า บรรยากาศในสนามกีฬามีแต่ผู้ชายส่วนใหญ่ ซึ่งมักจะส่งเสียงโวยวาย ไม่ใช่สถานที่โรแมนติกในการขอผู้หญิงแต่งงาน

นอกจากนี้ แฟนในสนามกีฬา ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผู้ชายก็จะลุ้นว่าผู้หญิงจะตอบ Yes เหมือนกับกำลังลุ้นว่าทีมที่ตัวเองเชียร์จะชนะหรือไม่ ซึ่งถ้าผู้หญิงตอบ Yes บรรดาแฟนกีฬาในสนามที่ส่วนใหญ่จะเป็นผู้ชาย จะรู้สึกว่าทีมที่ตัวเองเชียร์เป็นฝ่ายชนะ ทำให้ผู้หญิงที่เพิ่ง Say Yes ไม่รู้สึกถึงความโรแมนติกสักเท่าไหร่

ดังนั้น ทางที่ดีถ้าคิดจะขอแฟนแต่งงานในสนามกีฬา ควรเลียบๆ เคียงๆ ถามเธอแบบทีเล่นทีจริงทำนองโยนหินถามทางซะก่อน