คลุกวงใน

พิศณุ นิลกลัด

Facebook : @Pitsanuofficial

 

สายการบินแบบนี้ก็มีด้วย

 

เวลานี้คนไทยเริ่มกลับมาเดินทางด้วยเครื่องบินกันมากขึ้น โครงการเราเที่ยวด้วยกัน เฟส 4 เพิ่งเปิดให้ประชาชนจองตั๋วเครื่องบินลดราคา 40% เมื่อต้นเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา

ส่วนที่เมืองลาส เวกัส มีสายการบินน้องใหม่ที่ตื่นเต้นเร้าใจ ชื่อสายการบิน เลิฟ คลาวด์ (Love Cloud) หรือเมฆแห่งความรัก เปิดให้บริการด้วยเครื่องบินส่วนตัวขนาดเล็ก ที่เปิดประตูขึ้นเครื่องบินก็มีที่นอน หมอนสีแดงสุดเซ็กซี่ รอต้อนรับผู้โดยสารเลย

ซึ่งผู้โดยสารสามารถ “กุ๊กกิ๊ก” กันบนเครื่องบินได้โดยไม่ผิดกฎหมาย

ตามปกติ การกุ๊กกิ๊กบนเครื่องบินพาณิชย์เป็นเรื่องผิดกฎหมาย เพราะถือเป็นการกุ๊กกิ๊กในที่สาธารณะ

 

สายการบิน Love Cloud เปิดสายการบินขึ้นมาเพื่อให้ผู้โดยสารเช่าเครื่องบินส่วนตัวเพื่อการกุ๊กกิ๊กโดยเฉพาะ คิดค่าบริการคู่ละ 995 ดอลลาร์ หรือ 32,000 บาท ต่อการบิน 45 นาที

ถ้าบิน 2 คน ยังเร้าใจไม่พอ สามารถชวนคนเพิ่มได้อีก 2 คน โดยคิดค่าบริการเพิ่มคนละ 200 ดอลลาร์ หรือ 6,500 บาท

แอนดี้ จอห์นสัน (Andy Johnson) กัปตันและผู้ก่อตั้งสายการบิน Love Cloud บอกว่า ก่อนขึ้นเครื่อง ผู้โดยสารที่เป็นคู่รักกันก็เดินยิ้มขึ้นเครื่องด้วยความตื่นเต้น พอลงจากเครื่องก็ยิ้มกว้างยิ่งกว่าเดิม เพราะได้เสร็จสมอารมณ์หมายเป็นสมาชิกไมล์ ไฮ คลับ (Mile High Club) อย่างสมบูรณ์แบบ

เมื่อผู้โดยสารคู่รักลงจากเครื่องบินของสายการบิน Love Cloud กัปตันแอนดี้จะมอบบัตรสมาชิก Mile High Club ที่กัปตันแอนดี้เซ็นชื่อกำกับเป็นที่ระลึก

Mile High Club เป็นคำแสลงที่ใช้เรียกกลุ่มคนที่เคยมีประสบการณ์กุ๊กกิ๊กบนเครื่องบินขณะบินอยู่

สําหรับคนที่รู้สึกเขินอายกลัวว่ากัปตันแอนดี้จะได้ยินเสียงขณะปฏิบัติกิจ กัปตันแอนดี้บอกว่าไม่ต้องกังวล เพราะมีม่านสีแดงกั้นระหว่างห้องนักบินกับห้องปฏิบัติกิจ นอกจากนี้ กัปตันแอนดี้ยังใส่หูฟัง ไม่ได้ยินเสียงรบกวนจากข้างนอก

เรื่องความสะอาดของเครื่องบิน ทางสายการบิน Love Cloud รับประกัน มีการฆ่าเชื้อทุกครั้งหลังให้บริการเสร็จทุกเที่ยวบิน

มีการทำโพลสำรวจจากเว็บไซต์หาคู่ออนไลน์ Saucydates.com ทำโพลออนไลน์สำรวจคน 11,179 คน พบว่า 78% อยากมีประสบการณ์กุ๊กกิ๊กบนเครื่องบินขณะบินกลางอากาศ

5% เคยมีประสบการณ์กุ๊กกิ๊กบนเครื่องบินมาแล้ว (ในจำนวนนี้ 59% บอกว่า กุ๊กกิ๊กในห้องน้ำบนเครื่องบิน, 31% บอกว่ากุ๊กกิ๊กที่ที่นั่งตัวเอง)

คำถามต่อมาคือ คนที่กุ๊กกิ๊กบนเครื่องบิน กุ๊กกิ๊กกับใคร

คำตอบคือ 37% กับคนรัก, 30% กับคนแปลกหน้า, 18% กับพนักงานบนเครื่องบิน, 15% กับเพื่อน

ระยะเวลาการกุ๊กกิ๊กบนเครื่องบิน ใช้เวลาโดยเฉลี่ย 10 นาที

การกุ๊กกิ๊กบนเครื่องบิน ถูกจับได้มั้ย?

86% รอด ส่วนอีก 14% ถูกจับได้โดยพนักงานบนเครื่อง หรือผู้โดยสารคนอื่น

 

ในขณะที่คนจำนวนหนึ่งใจถึง แสดงความรักกันบนเครื่องบินขณะกำลังบินอยู่ ก็มีสุดยอดนักกีฬาของโลก 2 คนที่เวลาแข่งขันนั้นเข้มแข็ง ไม่กลัวเกรงใคร แต่กลัวการขึ้นเครื่องบินสุดชีวิต

สุดยอดนักกีฬาของโลกทั้ง 2 คนนี้คือ มูฮัมหมัด อาลี (Muhammad Ali) แชมป์โลกรุ่นเฮฟวี่เวตชาวอเมริกัน และเดนนิส เบิร์กแคมป์ (Dennis Bergkamp) นักฟุตบอล อดีตกองหน้าทีมอาร์เซนอล และนักเตะทีมชาติเนเธอร์แลนด์

ในอดีต มูฮัมหมัด อาลี เป็นคนที่กลัวการขึ้นเครื่องบิน หากเลือกได้เขาเลือกที่จะเดินทางด้วยรถบัส ต่อมาเมื่ออาลีเปลี่ยนมานับถือศาสนาอิสลาม ความกลัวการขึ้นเครื่องบินก็ลดลงไป บอกว่าพระอัลเลาะห์จะปกป้องตัวเขาไม่ให้ตายจากเครื่องบินตก

สำหรับเดนนิส เบิร์กแคมป์ เป็นคนกลัวการขึ้นเครื่องบินมากถึงขั้นโฟเบีย (Phobia) ที่ต้องเข้ารับการบำบัดจากจิตแพทย์

โรคกลัวการขึ้นเครื่องบินของเดนนิส เบิร์กแคมป์ มีชื่อเรียกเป็นภาษาอังกฤษว่า แอฟวิโอวโฟเบีย (Aviophobia) สาเหตุประกอบด้วยปัจจัยหลายประการ เช่น ชีวิตอยู่เหนือการควบคุมของตัวเอง ต้องฝากชีวิตไว้กับกัปตันขับเครื่องบิน, กลัวความสูง, กลัวความแออัดคับแคบ หรือกลัวผู้ก่อการร้าย

 

สําหรับโรคกลัวการนั่งเครื่องบินของเบิร์กแคมป์เกิดขึ้นในการเดินทางไปแข่งขันฟุตบอลโลกกับทีมชาติเนเธอร์แลนด์ ปี 1994 ที่อเมริกาเป็นเจ้าภาพ ตอนนั้นขณะที่เครื่องบินกำลังบินอยู่บนท้องฟ้า เครื่องยนต์เกิดขัดข้องดับลงเสียเฉยๆ แต่นักข่าวกีฬาที่นั่งเครื่องบินมาด้วยกลับพูดตลกว่าเขาซ่อนระเบิดมาในกระเป๋า

แม้เครื่องบินสามารถลงจอดโดยปลอดภัยและไม่มีระเบิดอย่างที่นักข่าวพูดล้อเล่น แต่นับจากนั้นมา เดนนิส เบิร์กแคมป์ ก็กลัวการขึ้นเครื่องบินสุดใจ

เบิร์กแคมป์รู้ตัวว่าเป็นอาการทางจิต แต่ก็รักษาไม่หาย ถ้ารู้ว่าต้องขึ้นเครื่องบิน คืนก่อนวันเดินทางจะนอนไม่หลับ กระสับกระส่าย ทำให้เขาไม่สามารถลงแข่งฟุตบอลหลายนัดในเกมที่ต้องเดินทางด้วยเครื่องบิน และเมื่อวันที่ต้องเดินทางด้วยเครื่องบินมาถึง เขาจะมองขึ้นฟ้าดูสภาพอากาศว่าเป็นยังไง แม้แต่ขณะที่กำลังลงสนามแข่งขันฟุตบอลอยู่ ก็ยังอดคิดต่อไม่ได้ว่า หลังเตะเสร็จแล้วต้องขึ้นเครื่องบินเดินทางกลับ มันช่างน่ากลัวเหลือเกิน

บ่อยครั้งที่เพื่อนร่วมทีมอาร์เซนอลขึ้นเครื่องบินเพื่อไปแข่งขัน แต่ตัวเขานั่งรถยนต์หรือรถไฟ

หลังจากรีไทร์จากการเป็นนักฟุตบอลอาชีพกับอาร์เซนอลในปี 2006 ขณะอายุ 37 ปี เดนนิส เบิร์กแคมป์ ก็ไม่เซ็นสัญญาลงเล่นให้กับทีมฟุตบอลไหนอีก เพราะกลัวการเดินทางไปแข่งขันด้วยเครื่องบิน

ระหว่างปี 2011-2017 เขาทำหน้าที่ผู้ช่วยผู้จัดการทีมอาแอ็ก (Ajax) ของเนเธอร์แลนด์ เวลาแข่งขันเกมเยือนก็ไม่ต้องขึ้นเครื่องบินไปแข่ง หรือหากแข่งในยุโรปก็สามารถขับรถหรือขึ้นรถไฟได้

 

ว่ากันตามจริง การเดินทางด้วยเครื่องบินเป็นพาหนะที่ปลอดภัยเป็นอันดับสองของโลกเมื่อเทียบกับการเดินทางด้วยพาหนะทุกชนิด ไม่ว่าจะเป็นรถยนต์ รถไฟมอเตอร์ไซค์ หรือจักรยาน

โอกาสที่เครื่องบินพาณิชย์ตกมีเพียง 1 ใน 11 ล้านเที่ยวบินเท่านั้น การประสบอุบัติเหตุรถชนเสียชีวิตตอนขับรถไปสนามบินเพื่อขึ้นเครื่องบินมีมากกว่าเครื่องบินตกเสียอีก

สุดท้ายแล้วพาหนะที่พาเราเดินทางปลอดภัยที่สุดคืออะไร?

ตอบว่าลิฟต์ ครับ

โอกาสเกิดอุบัติเหตุลิฟต์ขาดตกลงมาตายมี 1 ใน 12 ล้านเที่ยวขึ้น-ลงเท่านั้น