สถานการณ์ของ #สุราประชาชน สถานการณ์ของ #สมรสเท่าเทียม ดำเนินไปเหมือนกับสถานการณ์#ปฎิรูปกองทัพ

เหมือนกับถูกเตะสกัดขา เหมือนกับสะดุดหยุดลง

เกจิทางการเมืองบางคนออกมาหัวร่อด้วยความสะใจในฐานะที่เคยเตือนมาแล้วว่าเสนอเข้าไปอย่างไรก็ไม่ประสบความสำเร็จ อีกฝ่ายไม่เปิดช่องทางให้อย่างแน่นอน

เหมือนกับแม้จะมีโอกาสก็อย่าไปใช้โอกาสผ่านหนทางรัฐสภา เลย สู้เสาะหาวิธีการอื่น ช่องทางอื่นในแบบของ”คนสู้เป็น”มาต่อกรจะมีประโยชน์มากกว่า

ต้องยอมรับว่า #สุราประชาชน และ #สมรสเท่าเทียม ตกอยู่ในลักษณาการสะดุดหยุดลง อย่างน้อยก็เป็นไปตามมติของรัฐบาลที่ต้องการชะลอออกไปเป็นเวลา 60 วัน

แต่ถามว่าความคิดและความต้องการที่จะเห็น #สุราประชาชน

ที่อยากเห็น #สมรสเท่าเทียม สะดุดหยุดลงตามไปกับกลเม็ดของรัฐ บาลหรือไม่

หากนำข้อเสนอ”ปฎิรูปกองทัพ”มาศึกษาก็จะได้คำตอบ

 

ต้องยอมรับว่าข้อเสนอว่าด้วยการปฏิรูปกองทัพผ่านกระบวนการรูปแบบใหม่ของ”ทหารเกณฑ์”ผ่านอาสาสมัครที่ขับเคลื่อนโดยพรรคอนาคตใหม่มากด้วยความแหลมคม

สร้างความหวาดเกรงเป็นอย่างสูงกระทั่ง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ต้องนำไปเก็บดองเอาไว้

แล้วมาตรการ”แช่แข็ง”ของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นอย่างไร ทำให้ทุกอย่างหยุดนิ่งเหมือนอยู่ในช่องฟรีซตามความต้องการหรือไม่

คะแนนเสียงจากการเลือกตั้ง”ซ่อม”เขต 9 จตุจักร หลักสี่ ในพื้นที่ทหารที่ นายกรุณพล เทียนสุวรรณ ได้มาสะท้อนอะไร

มิใช่ผลสะเทือนจากปฏิบัติ”ปักธง”ในทาง”ความคิด”หรือ

 

ทิศทางของ #สุราประชาชน ทิศทางของ #สมรสเท่าเทียม คือทิศทางแห่งอนาคต แม้วันนี้จะถูก”แช่แข็ง”เอาไว้ แต่ก็ดำเนินไปในลักษณะชั่วคราว

พลันที่เข้าสู่บรรยากาศแห่งการเลือกตั้งก็จะหวนกลับมาอีก

เป็นการหวนกลับมาในท่ามกลางเสียงขานรับไม่ว่าจะมองในด้านของเศรษฐกิจ ไม่ว่าจะมองในด้านของสิทธิมนุษยชน

ใครก็ตามที่กุม”อนาคต” ใครคนนั้นย่อมมี”โอกาส”