‘เมียนมา’ 1 ปีหลังรัฐประหาร/รายงานพิเศษ ภัณธิภร วงษ์จันทร์เพ็ญ

รายงานพิเศษ

ภัณธิภร วงษ์จันทร์เพ็ญ

ผู้อำนวยการสถาบันโหราศาสตร์สากลและยูเรเนียนแห่งประเทศไทย

email : [email protected]

Facebook : Classical and Uranian Astrology Thailand

วรเชษฐ์ ตียเกษม ที่ปรึกษา

 

‘เมียนมา’ 1 ปีหลังรัฐประหาร

 

ย้อนไป 1 ปีที่ผ่านมาเหตุการณ์ที่ทั่วโลกต่างตกตะลึง เมื่อเช้าวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2564 พล.อ.อาวุโส มิน อ่อง ลาย ผู้บัญชาการทหารวัย 64 ปี ทำการรัฐประหาร นางออง ซาน ซูจี พรรคสันนิบาตชาติเพื่อประชาธิปไตย (เอ็นแอลดี) และพวกถูกทหารเข้าจับกุม พร้อมประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินทั่วประเทศเป็นเวลา 1 ปี และจะจัดให้มีการเลือกตั้งใหม่ขึ้นหลังจากนั้น

กองทัพทหารเมียนมาให้เหตุผลการทำรัฐประหารในครั้งนี้ว่า มีการทุจริตการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 8 พฤศจิกายน 2563 นับเป็นการเลือกตั้งครั้งที่ 2 หลังรัฐบาลทหารยอมเปลี่ยนผ่านประเทศจากเผด็จการสู่การเป็นประชาธิปไตย หลังจากการเลือกตั้งครั้งแรกเมื่อ 5 ปีก่อน นางซูจี พรรคเอ็นแอลดีได้รับการเลือกตั้งอย่างถล่มถลาย การต่อต้านรัฐประหารเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง นำไปสู่การสูญเสียผู้นำประท้วงและการถูกจับกุมอย่างมากมาย

จนครบวาระ 1 ปีแล้ว ยังไม่มีทีท่าว่ารัฐบาลทหารจะคืนประชาธิปไตยให้กับประชาชนชาวเมียนมา เหตุการณ์ที่จะดำเนินต่อไปจากนี้ถือว่าเป็นสิ่งที่ประชาคมโลกต่างจับตาเฝ้ามองหลังจาก พล.อ.อาวุโส มิน อ่อง ลาย ได้ให้คำมั่นสัญญาไว้

1 กุมภาพันธ์ 2565 เป็นวันจันทร์ดับ (New Moon) ครบรอบ 1 ปีของการทำรัฐประหารเมียนมา เมื่อพิจารณาแนวโน้มเหตุการณ์นับจากนี้ไป พยากรณ์ด้วยโหราศาสตร์สากลสู่ยูเรเนียน มีหลายประเด็นที่น่าสนใจ

ภาพดวงดาวจุดอมาวสี (อาทิตย์กุมจันทร์) กุมเสาร์ สถิตเรือนที่ 10 หมายถึง รอบเดือนนี้จะส่งผลดีให้อำนาจและความสำเร็จแก่รัฐบาลสามารถรักษาอำนาจและตำแหน่งไว้ การออกกฎหมายราบรื่น

ดาวพฤหัสฯ สถิตร่วมเรือนที่ 10 ด้วย หมายถึง อำนวยความโชคดีให้กับรัฐบาล ประเทศมีความรุ่งเรือง มีอิทธิพลในทางเพิ่มพูน ความมีเกียรติและสำเร็จผลของประเทศทั้งภายในและภายนอกประเทศ การเริ่มต้นกิจการของชาติใหม่ หรือรัฐบาลใหม่

ดาวมฤตยูสถิตเรือน 12 เกิดเรื่องราวไม่คาดคิดโดยที่ไม่รู้มาก่อน หรือเรื่องที่ซ่อนเร้น ปิดบังจะส่งผลออกมาอย่างกะทันหัน นำมาซึ่งความวุ่นวาย แต่มีจุดโชคส่งผลดีต่อเรื่องต่างๆ ที่จะเกิดขึ้นนั้นมีแนวโน้มส่งผลไปในทางที่ดี

จากภาพดาวมีแนวโน้มว่า รัฐบาลทหารยังคงรักษาอำนาจต่อไป ยังไม่คืนประชาธิปไตยให้กับประชาชนเมียนมา อีกทั้งยังได้รับการสนับสนุนอย่างลับและเปิดเผยจากประเทศมหาอำนาจ หรือประเทศที่ต่างได้รับผลประโยชน์ร่วมกัน

รัฐบาลทหารจะได้รับการสนับสนุนจากผู้มีอิทธิพลที่มีความสัมพันธ์อันดีต่อผู้นำเมียนมาที่จะได้รับผลประโยชน์ร่วมกันในด้านการเมือง การค้า เศรษฐกิจ

สภาพด้านการเมืองภายในเมียนมายังคงมีความตึงเครียด กดดัน ประชาชนที่ยังออกมาต่อต้านการปกครองจากฝ่ายรัฐบาลทหารอย่างต่อเนื่อง ทั้งได้รับการสนับสนุนจากกองกำลังที่เป็นฝ่ายต่อต้านรัฐบาลทหาร และเกิดการชุมนุมประท้วงขยายวงกว้างออกไป

สภาพในเมียนมาจะยังคงคล้ายๆ กับรอบปีที่ผ่านมา ประชาชนที่ออกมาต่อต้าน จะถูกปราบปรามจากกองกำลังทหาร

การเปลี่ยนแปลงต่างๆ ที่เกิดขึ้นอย่างมากมายที่ส่งผลไปในทางเลวร้าย ทำให้ประชาชนเมียนมาต้องมีการสูญเสียชีวิตและบาดเจ็บเป็นจำนวนมาก ทั้งจากการออกมาต่อต้านกับกำลังฝ่ายรัฐบาลทหารที่มีอาวุธ

การระบาดโควิด-19 ก็จะมีการแพร่ระบาดต่อไป ยังไม่สามารถควบคุมการระบาดได้ ประกอบกับการได้รับวัคซีนของประชาชนยังไม่ทั่วถึง นับจากนี้ไปจะยังคงมีประชาชนที่ต้องบาดเจ็บและเสียชีวิตอีกจำนวนมาก การเรียกร้องประชาธิปไตย และการต่อสู้ด้วยกำลังอาวุธของทั้งสองฝ่ายในเมียนมาก็ขยายตัวออกไปตามพื้นที่ต่างๆ ของประเทศ

ด้านเศรษฐกิจ การคลัง การเงิน การค้าของชาติ (ฮาเดสและโครโนส สถิตเรือนชะตาที่ 2) ส่งผลเสียต่อเศรษฐกิจของประเทศ ทั้งนี้ จากที่ผ่านมานอกจากจะมีการปิดเมืองเพื่อควบคุมการระบาดโควิด-19 แล้วการจัดตั้งรัฐบาลทหารเป็นการปิดกั้นความช่วยเหลือระหว่างประเทศด้วย จึงกระทบต่อการลงทุนระหว่างประเทศ ส่งผลต่อเศรษฐกิจอย่างมาก

ปัญหาด้านเศรษฐกิจและปัญหาโรคระบาดในปัจจุบัน ทำให้ประชาชนเมียนมายากจนมากขึ้น แต่ทั้งนี้อาจจะเป็นช่องโหว่ให้เกิดการเอื้อประโยชน์ให้แก่ผู้มีอำนาจเข้ามาควบคุมพื้นที่บางส่วนเพื่อแสวงหาทรัพยากรเพื่อผลประโยชน์ เกิดการค้าขายยาเสพติด และทำสิ่งที่ผิดกฎหมายได้ง่ายขึ้น

 

แม้ว่าเมียนมาจะเป็นประเทศเล็กๆ แต่ด้วยผลของการรัฐประหารโดยทหาร ทำให้เมียนมาได้รับความสนใจให้กับคนทั่วโลก โดยเฉพาะประเทศประชาธิปไตยที่ไม่สนับสนุนรัฐบาลเผด็จการและการละเมิดสิทธิมนุษยชน

ครบรอบ 1 ปีแล้วที่เกิดรัฐประหารในเมียนมา ประชาคมโลกเฝ้าจับตามองต่างก็ไม่พอใจในการรัฐประหารเมียนมา เรียกร้องให้ปล่อยนางออง ซาน ซูจี รวมทั้งพรรคพวก

ดาวอังคารเจ้าเรือนที่ 7 ไปสถิตเรือนที่ 8 เล็งฮาเดส โครโนส ภาพดาวชุดนี้ มีแนวโน้มที่ส่งผลให้ สหประชาชาติหรือประชาคมโลกต้องหันมาพิจารณาความรุนแรงการต่อสู้ในเมียนมาของประชาชนเป็นเรื่องสำคัญที่กดดันให้รัฐบาลทหารยุติความรุนแรง และเร่งคืนอำนาจประชาธิปไตยให้กับประชาชนโดยเร็วตามที่สัญญาไว้ แต่ทั้งนี้ไม่ใช่เรื่องง่ายที่รัฐบาลทหารจะยอมทำตามข้อเรียกร้อง

ต้องคอยติดตามว่า ผู้นำรัฐประหารเมียนมาจะออกมากล่าวสิ่งใดหลังจากครบรอบ 1 ปีแล้ว มีประเด็นที่น่าจับตามองตรงที่ว่าภาพดาวมีจุดอมาวสี (New Moon) สัมพันธ์การโฆษณาชวนเชื่อ (มฤตยู/โพไซดอน)

แม้ว่าผ่านไปครบ 1 ปีแล้ว การยึดอำนาจของรัฐบาลทหารไม่ผลประสบความสำเร็จอย่างแท้จริง ประชาชนบางส่วนยังคงออกมาต่อต้านและมีเหตุความรุนแรงอย่างต่อเนื่องตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา สภาวะเช่นนี้สะท้อนให้เห็นว่าชัดเจนว่า ผู้นำทหารเมียนมาสามารถยึดอำนาจได้ไม่ยาก แต่กลับไม่สามารถปกครองประเทศได้

รัฐบาลทหารมีอำนาจแต่ไม่มีความชอบธรรมด้านประชาธิปไตย และไม่เป็นที่ยอมรับในเวทีสากลโลก ระบอบการเมืองที่ปกครองโดยรัฐประหารครั้งนี้ จึงไม่ง่ายเหมือนกับหลังรัฐประหารในครั้งก่อนๆ เป็นสาเหตุให้ไร้เสถียรภาพและมีการประท้วงทางการเมืองเกิดขึ้นต่อเนื่องในเมียนมา

 

หมายเหตุ

บทความนี้พยากรณ์โดยใช้วันรัฐประหาร ตรงกับวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2564 เวลา 06:00:00 น. เมืองเนปิดอว์ เมียนมา เป็นดวงวันรัฐประหาร มาสัมพันธ์กับดวงอมาวสี (New Moon) วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2565 เวลา 12:15:50 น. เมืองเนปิดอว์ เมียนมา พิมพ์ดวงจาน 2 ชั้น หรือจานจรัญ (45 องศา) ด้วยโปรแกรม Solar Fire

พยากรณ์ดวงชะตาใช้พยากรณ์ด้วยโหราศาสตร์ยูเรเนียนระบบจาน 2 ชั้น นำคำแปลความหมายมาจากหนังสือคัมภีร์พระเคราะห์สนธิ อ.พลตรี ประยูร พลอารีย์

จุดอมาวสี (New Moon) สัมพันธ์กับ เซอุส/แอตเมตอส = เนปจูน/คิวปิโด = มฤตยู/โพไซดอน = เสาร์/เมอริเดียน = อังคาร/เนปจูน หมายถึง รอบเดือนนี้มีเรื่องที่น่าสลด (เซอุส/แอตเมตอส) และความเศร้าสลด (เสาร์/เมอริเดียน) เกิดการแตกร้าวในหมู่คณะ (เนปจูน/คิวปิโด) การติดเชื้อ (อังคาร/เนปจูน) มีการโฆษณาชวนเชื่อ (มฤตยู/โพไซดอน)