Bangkok Shutdown เจ๊ง! ยาวมา 8 ปี (จบ) เกม Power Play กปปส. และ คสช. ใครหลอกใช้ใคร/หลักศิลากลางน้ำเชี่ยว มุกดา สุวรรณชาติ

หลักศิลากลางน้ำเชี่ยว

มุกดา สุวรรณชาติ

 

Bangkok Shutdown

เจ๊ง! ยาวมา 8 ปี (จบ)

เกม Power Play กปปส. และ คสช.

ใครหลอกใช้ใคร

 

หลังการเคลื่อนไหวปิดกรุงเทพฯ ในวันที่ 13 มกราคม 2557 ทหารก็เข้ามาตั้งบังเกอร์ในอีกประมาณ 1 สัปดาห์ต่อมา ต่างจากปี 2553 เพราะครั้งนี้รัฐบาลไม่ใช้กำลังปราบผู้ประท้วง แต่เข้ามาตั้งจุดรักษาการในกรุงเทพฯ ทั่วไปหมด ภายใต้การดูแลของ ผบ.ทบ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา ทั้งมาคุมสถานการณ์และให้กำลังใจ

เป็นที่รู้กันว่าไม่มีใครมาปราบม็อบแน่ แต่เกมแบบนี้ เป็นการจุดพลุชั่วคราว แนวร่วมที่ฉลาดรู้ตัวก็พากันล่าถอย เหลือแต่กำลังทางจัดตั้งทั้งใน กทม.และที่มาจากภาคใต้ ซึ่งก็ทำการขัดขวางการเลือกตั้งจนสำเร็จ

28 กุมภาพันธ์ 2557 มีการเปลี่ยนยุทธวิธี เพราะปฏิบัติการการเคลื่อนไหวทุกอย่างของ กปปส.ตลอดเดือนกว่าที่ผ่านมาดำเนินไปอย่างเต็มที่ ชื่อเสียงของการ์ด กปปส. น่ากลัวมาก สุเทพ เทือกสุบรรณ ประกาศว่าจะยุบสถานที่ชุมนุม หลายจุดย้ายสถานที่ชุมนุมไปยังสวนลุมพินี นับเป็นจุดสิ้นสุดของ “การปิดกรุงเทพมหานคร” ส่วนอีกหนึ่งเวทีที่แจ้งวัฒนะ ที่มีพระสุวิทย์เป็นแกนนำ ซึ่งประกาศว่าจะไม่รื้อหรือย้ายเวทีไปไหน

21 มีนาคม 2557 ศาลรัฐธรรนูญวินิจฉัยว่าการเลือกตั้งเป็นโมฆะทั้งหมด

กปปส.เคลื่อนไหวมา 4 เดือนแล้ว ยังยึดอำนาจไม่ได้ แต่หลังจากปิดกรุงเทพฯ ความนิยมก็เสื่อมลง ฝ่ายล้มรัฐบาลจึงต้องเปลี่ยนแผนใช้ตุลาการภิวัฒน์เข้าช่วย

10 มีนาคม 2557 นายไพบูลย์ นิติตะวัน ส.ว.สรรหา ได้ยื่นต่อศาลรัฐธรรมนูญเพื่อวินิจฉัยว่ากรณี น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร สั่งย้ายนายถวิล เปลี่ยนสี โดยมิชอบจะทำให้พ้นสภาพนายกรัฐมนตรีหรือไม่

7 พฤษภาคม 2557 ศาลรัฐธรรมนูญอ่านคำวินิจฉัยชี้ขาดให้นายกฯ พ้นตำแหน่ง และอีก 9 รัฐมนตรี กรณีความผิดโยกย้ายเลขาฯ สมช.

แต่ฝ่ายที่ต้องการล้มรัฐบาลก็ต้องฝันสลายเพราะรัฐบาลมีการตั้งนายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล รองนายกฯ ปฏิบัติหน้าที่รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรีต่อไป

การใช้ตุลาการภิวัฒน์ครั้งนี้ดูเหมือนจะไม่ได้ผล ไม่สามารถตั้งรัฐบาลใหม่ในค่ายทหารแบบปี 2551ได้ เพราะเพื่อไทยสามารถเปลี่ยนนายกฯ ไปได้เรื่อยๆ

 

เกมชิงรัฏฐาธิปัตย์…

สุเทพเรียกข้าราชการมารายงานตัว

วันที่ 9 พฤษภาคม สุเทพแกนนำ กปปส.ประกาศว่าจะมีการต่อสู้ครั้งสุดท้าย โดยจะนำผู้ชุมนุมเดินขบวนไปยังสถานีโทรทัศน์ช่อง 3 ช่อง 5 ช่อง 7 โมเดิร์นไนน์ทีวี NBT เพื่อขอความร่วมมือจากสถานีโทรทัศน์เหล่านั้นให้แพร่คำแถลงชัยชนะของตน

แต่สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์ และสมาคมวิทยุโทรทัศน์ได้แถลงการณ์ประณามการเคลื่อนไหวครั้งนี้ว่าเป็นการคุกคามสื่อ

การปราศรัยคืนวันที่ 14 พฤษภาคม 2557 ของนายสุเทพ ฟังแล้วเข้าใจว่ายึดอำนาจได้แล้ว

“ประเทศไม่มีนายกฯ ไม่รู้จะเอานายกฯ มาจากไหน มีทางเดียวคือวุฒิสภา ต้องจัดให้ประเทศมีนายกฯ ส่วนเขาจะเลือกใคร เราไม่เคยไปยุ่งกับเขา เราเชียร์อยู่นอกสภา”

“สมมุติวันศกุร์ที่ 16 พฤษภาคม ประธานวุฒิสภายกมือยอมแล้วบอกวุฒิสภาทำไม่ได้ วันที่ 17-18 พฤษภาคม คนอื่นไม่ทำ เราแสดงเอง จัดการเรียบร้อย วันที่ 19 พฤษภาคม เรียกข้าราชการมารายงานตัวต่อประชาชน ให้ปลัดกระทรวง อธิบดี ผวจ. ผบ.ตร. ผบ.เหล่าทัพ ทั้งหลายมารายงานตัวต่อประชาชน ผมไปจัดเตรียมที่ไว้แล้วที่ตึกสันติไมตรีแล้ว”

“ขอส่งข่าวนี้ไปถึงบรรดาข้าราชการทั้งหลายให้ซักซ้อมไว้ได้เลย ถ้าเกิดปลัดกระทรวงไม่มา รองปลัดจะมาไหม เพราะถ้ามาจะปลดปลัด ตั้งรองปลัดให้เป็นปลัดแทน ผู้ว่าราชการจังหวัดไปตัดสินใจเสีย ถ้าไม่มา บอกลูกน้องเลย รองผู้ว่าฯ มาเลย อัยการสูงสุดนอนคิดตัดสินใจได้ตั้งแต่คืนนี้ ถ้าประชาชนเรียกมารายงานตัวจะมาหรือไม่ ถ้าไม่มา รองอัยการสูงสุดอยากเป็นอัยการสูงสุดมาเลย ถ้ารองไม่มา อัยการพิเศษ คนไหนคิดเป็นอัยการของประชาชนมาเลย”

นายสุเทพกล่าวว่า วันที่ 15 พฤษภาคม เวลา 09.30 น. จะเคลื่อนขบวนโดยรถยนต์ไปหาคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ซึ่งไม่ใช่การค้านการเลือกตั้ง แต่ไปเพื่อพูดคุยว่า มวลมหาประชาชนต้องการเลือกตั้งที่ไม่มีโกงซื้อเสียง ทุจริต จะทำได้ไหม ถ้าทำได้ก็จับมือกันทำปฏิรูปก่อนเลือกตั้ง อย่ามามั่วเลือกตั้งเหมือนวันที่ 2 กุมภาพันธ์ จะเลือกวันที่ 20 กรกฎาคม หรือวันอื่นไม่เอาทั้งนั้น

ปรากฏว่าไม่มีข้าราชการคนไหนหลงไปรายงานตัว

วันที่ 20 พฤษภาคม พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ.ขณะนั้นประกาศกฎอัยการศึก

วันที่ 22 พฤษภาคม ก็ประกาศการรัฐประหาร ล้มรัฐบาลรักษาการ อ้างเพื่อความสงบ

วันรุ่งขึ้นข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ก็ต้องไปรายงานตัวกับคณะรัฐประหาร คสช. ส่วนนักการเมืองอื่นๆ ก็ถูกจับไปปรับทัศนคติ ถูกกักขังกันมากน้อยตามแต่แรงต่อต้านของแต่ละคน

และก็เป็นไปตามหลักแห่งอำนาจ ผู้ล้มรัฐบาลได้จริง ก็ได้อำนาจรัฐ คสช.จึงตั้งรัฐบาลชั่วคราว 5 ปีและสืบทอดอำนาจต่อ

 

ผ่านไป 8 ปี สรุปแล้วได้ปฏิรูปอะไรไปบ้าง?

ที่อ้างตั้งแต่ กปปส.จัดชุมนุมขึ้นมา จนถึงรัฐประหาร ก็เพื่อจะปฏิรูปประเทศ หลังได้อำนาจไปแบบเด็ดขาดแล้ว ที่ตั้งใจปฏิรูป (และผลงานจริง) เป็นอย่างไร?

1. “ปฏิรูปการเลือกตั้งให้บริสุทธิ์ ยุติธรรม โกงไม่ได้ และต้องไม่ให้คนชั่วมีโอกาสเข้ามานั่งในสภาทำเรื่องชั่วๆ โดยที่ไม่ฟังเสียงอำนาจของประชาชน”

(ผลก็คือ…ได้ คสช.ไปปกครองประเทศหลายปี ได้รัฐธรรมนูญฉบับขี้โกง คสช.ตั้ง ส.ว.มาเลือกนายกฯ ไม่จำเป็นต้องฟังเสียงประชาชน เพราะผู้ที่จะเลือกนายกฯ และตั้งรัฐบาลจริงๆ เป็นคนไม่กี่คนเท่านั้น ไม่ใช่ประชาชนเลือก และได้ พล.อ.ประยุทธ์เป็นนายกฯ คนชั่วกับคนดีในสภาไม่รู้ใครมากกว่า)

2. “การทุจริตคอร์รัปชั่นที่เกิดขึ้นทำให้ประเทศเสียหายต้องขจัดออกไปให้ได้ ต้องออกกฎหมายเกี่ยวกับการทุจริตคอร์รัปชั่น ว่าไม่มีอายุความ ไม่ว่าจะวันไหนหากยังไม่ตายก็ต้องติดคุก”

(สภาพที่เป็นจริงคือการคอร์รัปชั่นมากขึ้นทุกองค์กร ลามไปถึงศาสนา และศาล ไม่มีใครเกรงกลัวกฎหมายคอร์รัปชั่น)

3. “เคารพในอำนาจของประชาชนอย่างแท้จริง ประชาชนต้องสามารถถอดถอนนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรี และ ส.ส.แบบระบุระยะเวลาได้ การปกครองของบ้านเมืองจะต้องถูกกระจายไปยังท้องถิ่น เช่น ทุกจังหวัดจะต้องมีการเลือกตั้งผู้ว่าฯ ไม่ใช่การแต่งตั้งจากส่วนกลางซึ่งทำให้มีการทุจริตซื้อตำแหน่ง”

(การเลือกผู้ว่าฯ โดยตรง อย่าไปฝัน ขนาดผู้ว่าฯ กทม.ที่เคยเลือก ตอนนี้ 8 ปีแล้วยังไม่ได้เลือกใหม่เลย การเลือกตั้งท้องถิ่นทุกระดับ กว่าจะได้เลือกก็เลื่อนมาถึง 6-7 ปี ในระดับสภา มีซื้อขาย ส.ส.)

4. “ต้องปฏิรูปโครงสร้างของตำรวจให้เป็นตำรวจของประชาชน ซึ่งคณะกรรมการตำรวจจะต้องเป็นภาคประชาชน ไม่ใช่ตำรวจด้วยกันเอง”

(ไม่รู้ปฏิรูปยังไงตอนนี้ตำรวจเป็นของผู้มีอำนาจ ประชาชนที่มีความเห็นค้านถูกบุกถึงบ้าน คดีทุจริตโรงพักของตำรวจก็ยังไม่ไปถึงไหน จะไปทำอะไรใครได้)

5. ปฏิรูปการศึกษา (ไม่เคยมี ที่เห็นตอนนี้คือเด็กๆ หลุดออกจากระบบการศึกษา ประมาณ 1.2 ล้านคน แต่เด็กตาสว่างกันทั้งประเทศ)

 

ครบ 8 ปี

ที่ระบบการเมือง ระบบยุติธรรมและระบบเศรษฐกิจ…

พังพินาศอย่างต่อเนื่อง

การเมืองพังเพราะการใช้อำนาจปกครองเพื่อต้องการสืบทอดอำนาจของตัวเองต่อไปเรื่อยๆ

ระบบยุติธรรมพัง เพราะถูกใช้เป็นเครื่องมือปกป้องอำนาจรัฐและทำลายคู่แข่งทางการเมือง

เศรษฐกิจของประเทศพัง ไร้ความสามารถ ไม่มีความรู้ และมีคนโกง

ผลคือ…ความเหลื่อมล้ำยิ่งขยายตัวออกไปมากยิ่งขึ้น การมีผู้บริหารและผู้ปกครองที่ไร้ความสามารถและจ้องหาผลประโยชน์ ทำให้เศรษฐกิจของประเทศทรุดหนักอย่างต่อเนื่อง ผลประโยชน์เพียงน้อยนิดก็ถูกพวกปรสิตตัวใหญ่ตัวเล็กคอยสูบเลือดสูบเนื้อจากประชาชนตลอดเวลา

กลุ่มทุนใหญ่ยิ่งรวยมากขึ้น ในขณะที่ SME กำลังล้มละลาย คนชั้นกลางจนลง

คนจนจะกลายเป็นขอทาน เป็นความหายนะครั้งใหญ่ที่มีต่อเนื่องยาวนานมาถึง 8 ปี

วิถีชีวิตผู้คนก็ต้องถูกเปลี่ยนไม่เพียงเพราะเรื่องโรคระบาดโควิด แต่การบริหารของรัฐบาล เช่น ปล่อยให้โรคระบาดหมู กระจายออกยาวนานถึง 2 ปี ทำให้ชีวิตของประชาชนยากลำบากมากขึ้น ต้องกินของที่แพงขึ้น ไทยเปลี่ยนจากประเทศที่ส่งออกอาหารอันดับต้นของโลก คงจะต้องนำเข้ากันแล้ว

การออกมาต่อต้านระบอบประชาธิปไตย คือการสนับสนุนเผด็จการ ทำให้มีอำนาจขึ้นมา ปกครองและบริหารประเทศ ประชาชนไม่เพียงยากลำบากวันนี้ แต่ยังต้องแบกหนี้เป็น 10 ล้านล้านต่อไป ยิ่งอยู่นาน คงเจ๊ง บาน…เป็น 18 ปี