เปิดคำสารภาพมือมีด แทงสาวดับคาคอนโดฯ ดื่มเบียร์รอ-ย่องเข้าห้อง ตร.ปิดตึก-ล่าทันควัน/อาชญา ข่าวสด

อาชญา ข่าวสด

 

เปิดคำสารภาพมือมีด

แทงสาวดับคาคอนโดฯ

ดื่มเบียร์รอ-ย่องเข้าห้อง

ตร.ปิดตึก-ล่าทันควัน

 

กลายเป็นเหตุสลดที่กระทบกระเทือนจิตใจคนในสังคมอย่างรุนแรง

สำหรับการเสียชีวิตของน้องเต้ย หญิงสาววัย 23 ปี ที่ถูกแทงเสียชีวิตอยู่ภายในอาคารคอนโดมิเนียมที่ตัวเองพักอาศัย

จากคนร้ายที่พักอาศัยอยู่ในคอนโดฯ เดียวกัน ที่ลอบเข้าไปหลบอยู่ภายในห้อง อ้างหวังจะขโมยทรัพย์สิน

แล้วเกิดการเผชิญหน้าจนต่อสู้รุนแรง แม้หญิงสาวจะวิ่งหลบเข้าไปในตู้เสื้อผ้า ก็ยังถูกลากออกมาใช้มีดแทงจนถึงแก่ชีวิต

แล้วหลบเร้นซ่อนตัวอยู่ในห้องพักคอนโดฯ ดังกล่าว สร้างความหวาดผวาให้คนร่วมอาคาร

ดีที่เจ้าหน้าที่ไล่เอ็กซเรย์ ตรวจสอบทุกห้องจนพบชายต้องสงสัย ก่อนคุมตัวเค้นสอบจนรับสารภาพ ส่งดำเนินคดีตามกฎหมาย

เหลือไว้แต่ความสูญเสียของครอบครัว และคำถามเรื่องความปลอดภัยในคุณภาพชีวิต ไม่ว่าจะเป็นระบบรักษาความปลอดภัย วงจรปิด ว่าจะปรับปรุงได้มากเพียงใด

ไม่ให้เกิดเหตุเศร้าเช่นนี้อีก

สลดสาว 23 ถูกฆ่าในคอนโดฯ

เหตุการณ์สลดครั้งนี้เกิดขึ้นเมื่อกลางดึกวันที่ 25 ธันวาคม 2564 ตำรวจ สภ.บางพลี สมุทรปราการ รับแจ้งมีหญิงสาวถูกแทงเสียชีวิตที่บริเวณหน้าลิฟต์ชั้น 7 อาคารเมืองทองคอนโด ตึก B2 เลขที่ 164 หมู่ 7 ต.บางโฉลง อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ

ที่เกิดเหตุเป็นอาคารสูง 10 ชั้น ตรวจสอบที่บริเวณหน้าลิฟต์ชั้น 7 พบร่างของน้องเต้ย น.ส.อินทุอร กอหาร อายุ 23 ปี อยู่บ้านเลขที่ 76 หมู่ 10 ต.วังตะกู อ.บางมูลนาก จ.พิจิตร นอนจมกองเลือดเสียชีวิต มีบาดแผลถูกแทงด้วยมีดที่ต้นขาซ้าย เป็นบาดแผลฉกรรจ์ มีเลือดไหลออกมามาก

พบที่มาจากห้องที่ 164/143 ห่างจากลิฟต์ประมาณ 10 เมตร ซึ่งเป็นห้องพักของน้องเต้ยเอง ภายในมีร่องรอยต่อสู้จนข้าวของกระจัดกระจาย มีเลือดไหลนองเต็มพื้นห้อง พบมีดสเตนเลสยาว 10 นิ้วตกอยู่ รวมทั้งมือถือของผู้ตาย มีรอยเท้าเปื้อนเลือดวิ่งออกจากห้องหลบหนีไปทางบันไดหนีไฟ คาดว่าเป็นของผู้ก่อเหตุ

สอบถามเพื่อนบ้านที่อยู่ห้องเยื้องกัน ระบุว่า ขณะที่กำลังนอนหลับ ได้ยินเสียงคล้ายคนทะเลาะกัน ตอนแรกคิดว่าผัวเมียทะเลาะกัน แต่ได้ยินผู้ตายตะโกนว่าช่วยด้วย จึงคิดว่าไม่ใช่เรื่องผัวเมีย เปิดประตูออกมาพบรอยเลือดไปถึงหน้าลิฟต์ ไม่เห็นคนก่อเหตุ ผู้บาดเจ็บบอกช่วยหนูด้วย คนร้ายงัดห้องเข้ามา จึงโทร.เรียกเข้าหน้าที่ตำรวจ

ขณะที่ผู้พักอาศัยที่อยู่ชั้น 6 ระบุว่า ได้ยินเสียงข้าวของตกแตก จึงเปิดประตูออกมาดู เห็นชายรูปร่างผอม สูงประมาณ 165 ซ.ม.ใส่เสื้อกีฬาแขนสั้นสีน้ำเงิน กางเกงสีดำสามส่วนวิ่งมาทางบันไดหนีไฟ สภาพตัวเปียกชุ่มไปด้วยเลือด มาประจันหน้ากันก่อนคนร้ายตกใจวิ่งย้อนกลับไปที่บันไดหนีไฟ

เมื่อเปิดวงจรปิดที่อยู่ด้านล่างของอาคารดังกล่าว พบน้องเต้ยลงมาซื้อของที่ชั้นล่าง ก่อนกลับขึ้นลิฟต์ไปประมาณ 22.55 น. และในเวลา 23.55 น. ก็พบน้องเต้ยเสียชีวิตที่หน้าลิฟต์ เท่ากับว่ามีเวลาที่คนร้ายลงมือประมาณ 30 นาที

ทั้งนี้ ไม่พบว่ามีคนออกจากอาคาร เท่ากับว่าคนร้ายยังอยู่ในตึก และอาจเป็นผู้พักอาศัยห้องใดห้องหนึ่ง และเมื่อตามรอยเท้าเปื้อนเลือดพบว่าหายไปบริเวณบันไดหนีไฟชั้น 3 จึงให้เจ้าหน้าที่เคาะประตูทุกห้องสอบสวนหาผู้ต้องสงสัยและทำประวัติไว้ ซึ่งก็พบว่าบางห้องเปิดไม่ได้เนื่องจากเจ้าของห้องที่ไม่ได้อยู่ปิดล็อกไว้ และพบว่ามีเสื้อสีเหลืองของชาวบ้านที่ตากไว้ถูกขโมยไป น่าจะเป็นฝีมือคนร้ายเปลี่ยนเสื้อผ้าเพื่ออำพราง

ไม่เพียงแค่นั้น ยังให้ขยายขอบเขตการค้นหาไปทั่วทั้ง 10 ชั้นของอาคารดังกล่าว

ประกาศชัดว่าต้องล่ามือมีดโหดรายนี้ให้ได้!!!

ระดมค้นทั้งตึกล่ามือมีดโหด

หลังการค้นหาผ่านไปหลายชั่วโมง ก็ได้เบาะแสสำคัญ โดยช่วงสายของวันที่ 26 ธันวาคม 2564 ที่บริเวณชั้นที่ 5 ห้องที่ 5/7 ซึ่งเป็นห้องร้างไม่มีผู้อยู่อาศัย ตรวจในห้องน้ำ พบเสื้อยึดสีน้ำเงินเปื้อนเลือดถูกทิ้งอยู่ในโถชักโครก ซึ่งเป็นสีที่ตรงกับที่พยานพบเห็นชายผู้ก่อเหตุสวมใส่อยู่ขณะวิ่งหลบหนีลงมา

คาดว่าหลังก่อเหตุคนร้ายได้วิ่งลงมาที่ชั้น 3 ก่อนขโมยเสื้อยืดสีเหลืองไปจากราวตากผ้า แล้ววิ่งย้อนกลับขึ้นไปที่ชั้น 5 เพื่อเปลี่ยนเสื้อและล้างคราบเลือด ภายในห้องน้ำห้องดังกล่าวยังพบกระป๋องเบียร์สภาพใหม่ที่ดื่มหมดแล้ววางอยู่ 2 กระป๋อง

ที่พื้นห้องน้ำมีน้ำเจิ่งนองอยู่และขวดน้ำดื่ม 2 ขวด คาดว่าผู้ก่อเหตุได้ใช้ล้างตัวก่อนถอดเสื้อเปลี่ยน นอกจากนี้ ยังพบปลอกมีดของคนร้ายทิ้งไว้ในชักโครกอีก 1 อัน

ขณะที่ พ.ต.อ.วิโรจน์ ตัดโส ผกก.สภ.บางพลี สมุทรปราการ ระบุว่า บาดแผลที่เกิดขึ้นเป็นบาดแผลเดียวที่ทำให้เสียชีวิต ส่วนสาเหตุยังระบุไม่ได้ แต่ตรวจสอบห้องไม่มีร่องรอยการงัด คนร้ายหรือผู้ต้องสงสัยน่าจะมาเคาะประตูพอผู้เสียชีวิตเปิดประตู คนร้ายน่าจะผลักประตูเข้าไป ส่วนจะเจตนาทำมิดีมิร้าย หรือประสงค์ต่อทรัพย์ยังไม่ได้ตัดประเด็นใดทิ้ง ขณะนี้ตรวจสอบครบ 244 ห้อง แต่ยังไม่เจอผู้ต้องสงสัย

ตรวจสอบกันทั้งคืน ในที่สุดก็ได้เบาะแส โดยมีรายงานว่าเจ้าหน้าที่ควบคุมชายต้องสงสัยไว้ 1 คนเพื่อนำไปสอบสวน

ทั้งนี้ หลักฐานสำคัญก็คือ พิรุธในขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจเรียกสอบสวนผู้พักอาศัยในอาคาร พบผู้ต้องสงสัยคนนี้ออกมาพบเจ้าหน้าที่ในลักษณะเพิ่งอาบน้ำเสร็จใหม่ๆ จึงถ่ายรูปเก็บเป็นหลักฐาน เมื่อซูมที่รูปถ่ายไว้ ก็พบบาดแผลรอยขีดข่วนที่นิ้วกลางของมือข้างซ้าย เมื่อถามก็ไม่สามารถบอกได้ จึงเชื่อว่าผู้ต้องสงสัยรายนี้มีพิรุธจึงเชิญตัวจากที่ทำงานมาสอบปากคำ

และจาการประสานเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานเข้าเก็บหลักฐานภายในห้องเพื่อหาคราบเลือดตามห้องน้ำภายในห้องพักของผู้ต้องสงสัย ซึ่งผลปรากฏหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ยืนยันพบคราบเลือดที่ห้องน้ำ อ่างล้างหน้า และภาชนะตักน้ำบางอย่างภายในห้องพักของผู้ต้องสงสัย

และจากการสอบพยานแวดล้อม ก็พอจะเห็นภาพว่าชายคนดังกล่าวที่เป็นผู้ต้องสงสัย เห็นผู้เสียชีวิตเดินลงมาด้านล่าง ขณะที่เจ้าตัวเดินสวนขึ้นลิฟต์ จึงขึ้นห้องไปเปลี่ยนเสื้อเป็นเสื้อสีน้ำเงิน แล้วเข้าไปดักรอคนตายในห้อง โดยผู้เสียชีวิตอาตไม่ได้ล็อกห้อง เพราะคิดว่าออกไปธุระไม่นาน ก่อนจะก่อเหตุสังหารโหด

เชื่อมั่นว่าเป็นคนร้ายไม่ผิดตัว

สารภาพ-ย่องเข้าห้องดักรอ

จากการเค้นสอบตลอดคืน ในที่สุดก็รับสารภาพ โดยคนร้ายรายนี้คือ นายณัฐชัย อาดสามารถ อายุ 31 ปีอยู่บ้านเลขที่107/1 ม.7 ต.นาเคียน อ.เมือง นครศรีธรรมราช ผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลจังหวัดสมุทรปราการ ลงวันที่ 27 ธันวาคม 2564 ในข้อหาบุกรุกเคหสถานในเวลากลางคืนโดยใช้กำลังประทุษร้าย โดยมีอาวุธและทำร้ายร่างกายผู้อื่น จนเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย

จากกรณีที่ผู้ต้องหารายนี้ลงมือก่อเหตุใช้อาวุธมีดแทง น.ส.อินทุอร หรือน้องเต้ย ในห้องพักชั้น 7 ในคอนโดเมืองทอง ต.บางโฉลง อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ เสียชีวิตเมื่อคืนวันที่ 25 ธันวาคมที่ผ่านมา

โดยนายณัฐชัยสารภาพว่า วันเกิดเหตุ ตนเองสวมเสื้อสีขาว สวมกางเกงขาสามส่วน ลงมาซื้อเบียร์ด้านหน้าคอนโดฯ จากนั้นก็เดินกลับขึ้นมาที่ชั้น 5 เพื่อมาเปลี่ยนเสื้อสีน้ำเงินที่เตรียมไว้ในห้องร้างที่ชั้น 5

หลังจากที่เปลี่ยนเสื้อเสร็จ ก็ถอดรองเท้าไว้ที่ห้องร้างดังกล่าว แล้วเดินขึ้นบันไดหนีไฟมาที่ระเบียงหน้าลิฟต์ที่ชั้น 7 เพื่อนั่งดื่มเบียร์

กระทั่งเบียร์หมดขวด ตนเองมองลงมาด้านล่างสังเกตเห็นว่าน้องเต้ยเดินลงมารับอาหารจากไรเดอร์ จึงเดินไปที่ห้องของผู้เสียหาย ลองเอามือบิดล็อกลูกบิดของประตูพบว่าไม่ได้ล็อก จึงแง้มประตูเปิดดู พบว่าไม่มีใครอยู่ในห้อง แต่เห็นกระเป๋าของเหยื่อวางไว้บนที่นอน จึงจะเข้าไปลักทรัพย์

จังหวะนั้นน้องเต้ยกลับมาพอดี จึงไปซ่อนตัวในห้องน้ำ รออยู่ 20 นาที จนน้องเต้ยกินก๋วยเตี๋ยวที่สั่งมาจนหมด ก็ตั้งใจว่าจะวิ่งหนีโดยจะฉกกระเป๋าไปด้วย แต่พอออกจากห้องน้ำ น้องเต้ยหันมาเห็นร้องโวยวาย จึงใช้มือซ้ายปิดปาก ซึ่งก็ถูกน้องเต้ยกัดที่นิ้วกลาง และดิ้นหลุดมาได้ จึงใช้มีดข่มขู่

“จนผู้เสียหายหลบไปอยู่ในตู้เสื้อผ้า ผมก็เปิดประตูตู้ลากน้องออกมา แล้วต่อสู้กันอีก ก่อนใช้มีดแทงที่ไปต้นขา แล้วตกใจวิ่งหนีออกจากห้องไปที่บันไดหนีไฟวิ่งลงมาเจอคนอยู่ที่ชั้น 6 ก็ตกใจอีก วิ่งหนีมาชั้น 3 แต่ไม่กล้าเข้าห้องพัก เพราะมีเลือดติดตัว จึงไปขโมยเสื้อมาแล้ววิ่งหนีไปที่ห้องร้างชั้น 5 เปลี่ยนเสื้อสีขาวที่ถอดไว้ เอาเสื้อสีน้ำเงินและปลอกมีดยัดใส่ชักโครก สวมรองเท้าวิ่งกลับมาที่ห้องพักชั้น 3”

นายณัฐชัยกล่าวอีกว่า เมื่อถึงห้องก็ไม่กล้าเปิดไฟ เพราะภรรยาหลับแล้ว และกลัวจะเห็นคราบเลือด รีบเข้าห้องน้ำไปอาบน้ำ จากนั้นไม่นานมีตำรวจมาเคาะประตูถ่ายรูปทำประวัติ และมาเชิญตัวสอบสวนก่อนจะจนมุมต่อหลักฐานรับสารภาพ

แม้คดีนี้จะสามารถจับคนร้ายได้อย่างรวดเร็ว แต่ความสูญเสียที่เกิดขึ้น ถือเป็นอุทาหรณ์ที่ควรตระหนักในการป้องกันภัยแม้จะอยู่ในห้องพักอาศัยของตัวเอง

ไม่ให้เกิดเรื่องสลดเช่นนี้ขึ้นอีก