รายงานพิเศษ

จับสูตร “ตัวสำรอง-ม้ามืด” จาก “บิ๊กแดง-บิ๊กอ้อม”

ถึง “บิ๊กต่าย-บิ๊กโหน่ง-บิ๊กยาว”

มองข้ามช็อต ชิง ผบ.ทบ.-ผบ.ทอ. ศึก ตท.18

กับ “ก๊วน จ.” ตท.16 จัดโผทัพฟ้า

ลุ้นกันจนวินาทีสุดท้าย…

แม้บรรดาราชนาวี จะรู้กันดีว่าบิ๊กนุ้ย พล.ร.อ.นริส ประทุมสุวรรณ ผช.ผบ.ทร. จะเป็น ผบ.ทร.คนใหม่ ตามที่บิ๊กณะ พล.ร.อ.ณะ อารีนิจ เสนอขึ้นไปแล้วก็ตาม

แต่ก็ต้องจนกว่าจะมีโปรดเกล้าฯ ลงมา…

เพราะยังมีการ “เผื่อใจ” กันไว้ สำหรับการ “พลิกโผ” ที่อาจจะเกิดขึ้นอีก เพราะแม้แต่ พล.ร.อ.นริส เอง ก็ยังไม่อาจมั่นใจร้อยเปอร์เซ็นต์

แม้จะมีรายงานว่า พล.ร.อ.นริส มีการเตรียมทีมงานนายทหารฝ่ายเสนาธิการ ที่คัดเลือกคนเก่งๆ มาช่วยทำงานในสายงานต่างๆ แล้วก็ตาม

แต่ในขณะเดียวกัน บิ๊กลือ พล.ร.อ.ลือชัย รุดดิษฐ์ เสธ.ทร. ที่ก็ยังมีความหวัง ก็เตรียม “ดรีมทีม” เพื่อมาช่วยทำงานแล้วเช่นกัน

ที่ก็ต้องรอดูว่า จะเป็นแค่ “ดรีมทีม” เท่านั้นหรือไม่ เพราะถ้า พล.ร.อ.ลือชัย ไม่ได้เป็น ผบ.ทร. ในโผโยกย้ายครั้งนี้

อนาคตก็อาจกลายเป็นเพียงความฝัน…

เพราะไม่ได้มีคำมั่นสัญญาใดๆ ระหว่าง พล.ร.อ.ณะ และ พล.ร.อ.นริส กับ พล.ร.อ.ลือชัย เลย ว่าในการโยกย้ายปลายปีหน้า พล.ร.อ.นริส ที่เป็น ผบ.ทร. จะเสนอชื่อ พล.ร.อ.ลือชัย เป็น ผบ.ทร.คนใหม่

แม้จะเชื่อกันว่าโผนี้ พล.ร.อ.ลือชัย จะขึ้นจ่อเป็น รอง ผบ.ทร. ไว้ก่อนก็ตาม เพื่อสร้างความชอบธรรม ก็ไม่ใช่สิ่งรับประกันใดๆ

ยิ่งมีข่าวสะพัดว่า พล.ร.อ.ณะ ดันเพื่อน ตท.18 ของ พล.ร.อ.ลือชัย ขึ้นมาเป็น 5 ฉลามทัพเรือด้วยแล้ว ก็ยิ่งเป็นการเพิ่มคู่แข่ง

แม้ พล.ร.อ.ลือชัย ในเวลานั้น ปลายปีหน้าจะได้เปรียบในแง่ที่เหลืออายุราชการถึงปี 2563 ก็ตาม แต่ก็ไม่มีอะไรแน่นอน

ยิ่งพบสายใยความสัมพันธ์แนบแน่นระหว่าง พล.ร.อ.ณะ และเตรียมทหาร 15 กับ พล.ร.อ.นริส เตรียมทหารรุ่น 16 และบิ๊กตุ๋ย พล.ร.ท.พิเชฐ ตานะเศรษฐ์ รอง เสธ.ทร. ที่จะขึ้นมาเป็น เสธ.ทร. เป็นแม่บ้านของ ทร. รวมถึงบิ๊กนวล พล.ร.อ.นวพล ดำรงพงศ์ ที่จะมาเสียบเป็น ผช.ผบ.ทร. ดูสายงานส่งกำลังบำรุง และสานต่อเรือดำน้ำจีน

พล.ร.อ.ลือชัย และผองเผื่อน ตท.16 จากนี้ไปจะยิ่งน่าจับตามองยิ่ง ในเมื่อทุกคนกลายเป็นแคนดิเดต ผบ.ทร. ด้วยกันทั้งสิ้น ย่อมไม่มีใครยอมใคร

ยิ่งเมื่อมีการพึ่งพาเรื่องหมอดู โชคลาง มาเป็นกำลังใจด้วยแล้ว ก็ยิ่งทำให้ใครๆ ก็เกิดความหวังได้

คนในกองทัพเรือ จึงเฝ้ารอคอยด้วยใจจดจ่อ ว่าจะเกิดอะไรที่คาดไม่ถึง หรือมีเซอร์ไพรส์อะไรเกิดขึ้นหรือไม่

เพราะดูเหมือนว่า การจัดโผทหารคราวนี้ จะเพิ่มอุณหภูมิในกองทัพ จากการจัดวางในแต่ละเหล่าทัพ

โดยเฉพาะทุ่งดอนเมือง จะกลับมาอาถรรพณ์อีกครั้ง หลังการแต่งตั้งโยกย้ายทหารคราวนี้

เพราะการจัดทัพเสืออากาศของบิ๊กจอม พล.อ.อ.จอม รุ่งสว่าง ผบ.ทอ. ครั้งนี้ บีบหัวใจยิ่งนัก

โดยเฉพาะบิ๊กต่าย พล.อ.อ.ชัยพฤกษ์ ดิษยศริน ผช.ผบ.ทอ. ที่ใครๆ ก็มองว่าจะเป็น “เต็งหนึ่งเดียว” แม่ทัพฟ้าคนต่อไป เมื่อบิ๊กจอมเกษียณตุลาคม 2561

แต่ข่าวที่สะพัดทุ่งดอนเมือง ในช่วงโค้งสุดท้ายโผทหารนี้ กลับระบุว่า พล.อ.อ.ชัยพฤกษ์ จะไม่ได้ขยับขึ้นเป็น รอง ผบ.ทอ. เพื่อครองอัตราจอมพล สร้างอาวุโสไว้ แต่จะเป็น ผช.ผบ.ทอ. ต่อไปอีกปี

แม้ว่าบิ๊กโต้ง พล.อ.อ.สุรศักดิ์ ทุ่งทอง เสธ.ทอ.จะยอมเสียสละ ยอมถูกขยับออกจาก ทอ. ไปเป็นรองปลัดกลาโหม ก็ตาม แต่ก็หาใช่ว่าจะเปิดทางให้ พล.อ.อ.ชัยพฤกษ์

ด้วยเหตุที่ พล.อ.อ.จอม ต้องการให้เสืออากาศที่เหลืออายุราชการปีเดียว ขึ้นมาครองอัตราจอมพลก่อนเกษียณ โดยเฉพาะเพื่อนร่วมรุ่น ตท.16

ก็เป็นที่รู้กันในทัพฟ้าว่า งานนี้บิ๊กจอม กับ บิ๊กแจง พล.อ.อ.ทวิเดนศ อังศุสิงห์ รอง ผบ.ทอ. เพื่อนรัก ที่เล่นบาสเกตบอลมาด้วยกัน ช่วยกันจัดโผ

คาดว่าจะดัน บิ๊กแจ๊ค พล.อ.อ.พงศธร ไชยเดช ขึ้น รอง ผบ.ทอ. ครองอัตราจอมพลก่อนเกษียณ

ด้วยเพราะในทัพฟ้านั้นรู้กันดีว่า “ก๊วน จ.” แห่ง ตท.16 นั้น ถือเป็นดาวเด่นในรุ่น ทั้ง แจ็ค-แจง-เจี๊ยบ-จอม ซึ่งเจี๊ยบ ก็คือ บิ๊กเจี๊ยบ พล.อ.อ.สุทธิพันธุ์ กฤษณะคุปต์ รอง ผบ.ทหารสูงสุด ที่กำลังจะเกษียณ แต่ก่อนหน้านี้เคยเป็นแคนดิเดต ผบ.ทอ. แต่ทว่า พล.อ.อ.จอม ก็ได้ไปถึงดวงดาว

การดัน พล.อ.อ.พงศธร ขึ้นมาเป็น รอง ผบ.ทอ. ยังเป็นการวางหมากให้เตรียมทหาร 18 คนอื่นๆ ได้ขยับขึ้นมาชิงเก้าอี้ ผบ.ทอ. กับ พล.อ.อ.ชัยพฤกษ์ ในปลายปีหน้า

ทั้งบิ๊กเสย พล.อ.ท.ภาณุพงศ์ เสยยงคะ รอง เสธ.ทอ. ที่อาจจะขึ้นมาเป็น เสธ.ทอ.

ทั้งบิ๊กโหน่ง พล.อ.อ.ชาญฤทธิ์ พลิกานนท์ รอง เสธ.ทหาร ที่จะข้ามกลับมาเป็น ผช.ผบ.ทอ.ที่ก็มีพลังภายในไม่น้อยที่สามารถกลับมาทัพฟ้าได้ และเป็นเพื่อนรักของ พล.อ.ชัยพฤกษ์เลยทีเดียว

ทั้งบิ๊กยาว พล.อ.อ.วันชัย นุชเกษม ผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษ ทอ. ขึ้นมานั่งใน 7 เสืออากาศ ที่คาดว่าจะเป็น ผช.ผบ.ทอ. หรือ ผบ.คปอ.และอาจจะกลายเป็น “ม้ามืด” ที่แซงพรวดขึ้นมาเป็น ผบ.ทอ. ได้ ในปลายปีหน้า

ทั้ง บิ๊กหมู พล.อ.ท.ปรเมษฐ์ เกษโกวิท รอง ผบ.คปอ. ที่จะขยับขึ้นเป็น ผบ.คปอ. ที่ก็ถือว่าเป็น 1 ใน 7 เสืออากาศ

โดยเฉพาะ พล.อ.อ.วันชัย เสืออากาศมาดนุ่ม นิ่ง ที่มีอายุราชการถึงตุลาคม 2563 แถมเส้นทางเดินไม่ธรรมดา นอกจากเป็นนักบิน เอฟ 5 แล้ว ยังเป็นอดีต ผบ.กองบิน 7 และยังเป็น ผช.ทูตทหารอากาศประจำออสเตรเลีย ก่อนกลับมาเติบโตในสายส่งกำลังบำรุง จนเป็นเจ้ากรมส่งกำลังบำรุง ทอ. และรอง เสธ.ทอ. ก่อนขึ้น พลอากาศเอก ผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษ ทอ.

เรียกได้ว่า ลูกทัพฟ้า สะกิดให้จับตามอง พล.อ.อ.วันชัย คนนี้ไว้เลยที่เดียว เพราะหาก พล.อ.อ.ชัยพฤกษ์ เกิดอุบัติเหตุใดๆ ในการรับราชการ ก็จะมีตัวเลือก ผบ.ทอ. สำรองไว้ แถมมีอายุราชการ 2 ปี

ขณะที่ พล.อ.อ.ชัยพฤกษ์ นั้น เกษียณตุลาคม 2562 จะขึ้นเป็น ผบ.ทอ. ได้ปีเดียว แต่ที่ผ่านมาจะเห็นว่า ทอ. มักจะเอาคน 2 ปีขึ้นไป เป็น ผบ.ทอ.

แต่ทว่า ในแง่ความเหมาะสมแล้ว ไม่มีใครปฏิเสธ พล.อ.อ.ชัยพฤกษ์ ได้ เพราะครบเครื่อง “Stomper” ในฐานะนักบินเอฟ 16 ที่ผ่านทั้งการเป็นผู้นำฝูง และผู้การกองบิน 1 และอดีต ผช.ทูต ทอ.ประจำเยอรมนี เจ้ากรมยุทธการ ทอ. รอง เสธ.ทอ. และ ผช.ผบ.ทอ.

แต่อาจเป็นเพราะ พล.อ.อ.จอม เองก็ต้อง เพลย์ เซฟ ด้วยการดัน บิ๊กทัพฟ้า ขึ้นมาเป็นแคนดิเดต ผบ.ทอ. ไว้ให้มากกว่า 1 เพราะในยุคเปลี่ยนผ่านนี้ ไม่มีใครหยั่งรู้อนาคต

เช่นเดียวกับ กองทัพบก ที่ พล.อ.ประยุทธ์ และ พล.อ.ประวิตร ร่วมกันจัดโผ จะต้องเพิ่มตัวเลือกคนที่จะเป็นแคนดิเดต ผบ.ทบ. นอกเหนือจากบิ๊กแดง พล.ท.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ แม่ทัพภาค 1 ที่จะขึ้นเป็น ผช.ผบ.ทบ.

แม้ พล.ท.อภิรัชต์ จะเป็นเต็งหนึ่ง และมีความพร้อมสมบูรณ์ทุกอย่าง ทั้งเส้นทางสายคอมแมนด์ และผลงานในอดีตจนปัจจุบัน โดยเฉพาะการเป็นน้องรักสายวงศ์เทวัญที่ พล.อ.ประยุทธ์ ไว้วางใจ ก็ตาม

แต่ในสถานการณ์ช่วงเปลี่ยนผ่านที่กำลังจะไปสู่การเปลี่ยนผ่านทางการเมือง หลังการเลือกตั้งด้วยแล้ว อนาคตจึงไม่มีอะไรแน่นอน

แม้จะเชื่อกันว่า หลังการเลือกตั้ง พล.อ.ประยุทธ์ ก็จะกลับมาเป็นนายกรัฐมนตรีคนนอกก็ตาม

นี่จึงทำให้ พล.อ.ประวิตร ดันบิ๊กอ้อม พล.ท.วีรชัย อินทุโศภน ผบ.หน่วยบัญชาการรักษาดินแดน (ผบ.นรด.) ขึ้นมาเป็น ผช.ผบ.ทบ. และเป็นอีกความหวังของ บูรพาพยัคฆ์ ที่ได้ขึ้นถึง 5 เสือ ทบ. และมีสิทธิ์ลุ้น ผบ.ทบ. ในปลายปีหน้า

เรียกได้ว่า พล.ท.วีรชัย กลายเป็นม้ามืด และอาจจะกลายเป็นม้าตีนปลายที่มาแรงในช่วงท้าย แถมมี พล.อ.ประวิตร เป็นสปอนเซอร์หลัก

ต้องยอมรับว่า แม้ในอดีตหายากยิ่งที่ ผบ.นรด. จะได้ขึ้นเป็นห้าเสือ ทบ. หรือขึ้นชิง ผบ.ทบ. เพราะไม่ใช่สายกำลังรบ แม้จะมีศักดิ์เทียบเท่ากองทัพภาค ประหนึ่ง กองทัพภาค 7 ต่อจาก นสศ. ที่เป็นกองทัพภาค 6 และ นปอ. ที่เป็นกองทัพภาค 6 ก็ตาม

แต่ พล.ท.วีรชัย ถือว่าพิเศษ เพราะเป็นน้องรักในระดับท็อปไฟว์ ของ พล.อ.ประวิตร เลยทีเดียว

งานนี้ นอกจากมีรายการ “พี่ป้อม ขอมา” แล้ว พล.ท.วีรชัย ก็ถือว่าแสดงบทบาทเด่นในการทำงาน โดยเฉพาะการพลิกโฉม การพลิกบทบาทของนักศึกษาวิชาการ หลายแสนคนทั่วประเทศ ให้ทำประโยชน์ให้สังคมและประเทศ มากขึ้น ด้วยโครงการต่างๆ มากมาย

อีกทั้ง เป็นเหตุผล ที่บิ๊กเจี๊ยบ พล.อ.เฉลิมชัย สิทธิสาท ผบ.ทบ. ระบุว่าต้องมีการ “กระจายรุ่น” ใน 5 เสือ ทบ. ด้วย ทั้งนี้เพราะ พล.ท.วีรชัย เป็นเตรียมทหาร 18 ท่ามกลาง ตท.16-17 และ ตท.20

แม้ว่า ผบ.นรด. หรือสมัยยังเป็นเจ้ากรมการรักษาดินแดน นั้น จะไม่ค่อยมีใครทะลุขึ้นไปได้ถึงห้าเสือ ทบ. แต่ก็มีอยู่ไม่น้อยที่เป็นดาวเด่นใน ทบ. ทั้ง พล.อ.เทียนชัย สิริสัมพันธ์ พล.อ.วิจิตร สุขมาก พล.อ.วิโรจน์ แสงสนิท พล.อ.อานุภาพ ทรงสุนทร พล.อ.ยุทธพันธุ์ มกรมณี และล่าสุดเมื่อปี 2549 คือ พล.อ.มนตรี สังขทรัพย์ ที่ขึ้นเป็น เสธ.ทบ.

และไม่แน่ว่า ในปีหน้าอาจจะกลายเป็น ผบ.นรด. คนแรก ที่ได้ขึ้นเป็น ผบ.ทบ. ก็เป็นได้

นั่นย่อมหมายถึงเกิด “ฟ้าผ่า” ขึ้นที่กองทัพบก ที่ทำให้ พล.ท.อภิรัชต์ ไม่ได้เป็น ผบ.ทบ. ที่ก็ถือว่าเป็นโอกาสที่น้อยมาก แต่ใช่ว่าไม่มีเลย ดังนั้น ผู้ใหญ่ จึงต้อง “เผื่อ” ไว้ก่อน

แม้แต่ การดันบิ๊กเล็ก พล.ท.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รอง เสธ.ทบ. เพื่อน ตท.20 ของ พล.ท.อภิรัชต์ ขึ้นมาเป็น เสธ.ทบ. ไว้เลย ทั้งๆ ที่มีอายุราชการถึงปี 2564 แต่เพราะมีฝีมือ และเป็นคีย์แมนเบื้องหลังรัฐประหาร คสช. อีกด้วย

นั่นย่อมหมายถึงว่า คนที่ขึ้นมาเป็น 5 เสือ ทบ. ที่ยังไม่เกษียณราชการ ล้วนมีสิทธิ์ที่จะเป็น “อะไหล่สำรอง” ได้ทั้งสิ้น เพราะผ่านการเลือกสรรมาแล้ว

แม้การเลือก ผบ.เหล่าทัพ และ ผบ.หน่วยคุมกำลังในกองทัพ จะยึดการมาดูแลกองทัพ เพื่อรองรับ พล.อ.ประยุทธ์ ที่จะรีเทิร์นกลับมาเป็นนายกฯ คนนอก หลังการเลือกตั้ง เพื่อให้มั่นใจว่ากองทัพจะไม่ทำรัฐประหาร ย้อนศร พล.อ.ประยุทธ์ ในเวลานั้นแล้ว

แต่ความไม่แน่นอน ที่กองทัพต้องเตรียมพร้อมรับทุกสภาวการณ์ ต่างหาก ที่สำคัญกว่า