ที่มา | มติชนสุดสัปดาห์ ฉบับวันที่ 17 - 23 ธันวาคม 2564 |
---|---|
คอลัมน์ | ต่างประเทศ |
เผยแพร่ |
บทความต่างประเทศ
นิวซีแลนด์
กับ กม.ห้ามสูบบุหรี่ตลอดชีวิต
“บุหรี่” อยู่คู่กับสังคมมนุษย์มานานนับพันปี วัฒนธรรมการสูบบุหรี่เริ่มขึ้นในทวีปอเมริกา ก่อนที่ “คริสโตเฟอร์ โคลัมบัส” จะนำไปเผยแพร่ต่อในยุโรป
สารเสพติดอย่าง “นิโคติน” ทำให้ “บุหรี่” แพร่ระบาดไปทั่วโลกเรื่อยมาจนถึงปัจจุบัน
ล่าสุดข้อมูลจากองค์การอนามัยโลกระบุว่า “บุหรี่” ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตปีละ 8 ล้านคน
ในจำนวนนั้น 7 ล้านคนเป็นผู้สูบโดยตรง อีก 1.2 ล้านคนเสียชีวิตจากผลกระทบทางสุขภาพจากควันบุหรี่ที่คนอื่นสูบ
หากดูตัวเลขผู้เสียชีวิตแล้วเรียกได้ว่ามากกว่าผู้เสียชีวิตจากการติดเชื้อโควิด-19 ที่คร่าชีวิตคนไป 5.3 ล้านคนในรอบ 2 ปีที่ผ่านมาเสียอีก
ปัจจุบันมีคนสูบบุหรี่ทั้งโลกราว 1,300 ล้านคน ในจำนวนนี้ 80% เป็นนักสูบที่อาศัยอยู่ในประเทศรายได้น้อยและปานกลางที่ต้องเสียเงินจำนวนมากไปกับบุหรี่ที่มีแต่จะส่งผลเสียกับสุขภาพ
ผลร้ายจากบุหรี่ส่งผลให้แทบจะทุกประเทศทั่วโลกพยายามออกกฎหมายคุ้มครองประชากรจากอันตรายของบุหรี่ แต่แน่นอนว่าด้วยพฤติกรรมที่ฝังรากลึกในสังคม จึงเป็นไปได้ยากที่จะออกกฎหมายให้ “บุหรี่” เป็นสิ่งผิดกฎหมายในทันที
นั่นทำให้หลายประเทศเลือกที่จะเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมคนในสังคมอย่างค่อยเป็นค่อยไป
เช่น การออกกฎหมายห้ามสูบบุหรี่ในที่สาธารณะ การจำกัดอำนาจทางการตลาดของบริษัทผู้ผลิตบุหรี่ เช่น การห้ามโฆษณา กำหนดอายุผู้ซื้อ รวมไปถึงการกำหนดหีบห่อบรรจุให้เป็นลักษณะเฉพาะ ติดภาพและคำเตือนขนาดใหญ่ เพื่อลดความดึงดูดใจจากผู้ซื้ออย่างที่ประเทศไทยทำตั้งแต่ปี 2562 เป็นต้นมา
ล่าสุด ประเทศ “นิวซีแลนด์” กลายเป็นประเทศที่ออกมาตรการทางกฎหมายที่ก้าวหน้าไปอีกระดับ เพื่อจัดการกับการสูบบุหรี่ของประชากร ด้วยการประกาศร่างกฎหมาย “แบนเยาวชนจากการสูบบุหรี่ไปตลอดชีวิต”
เดิม นิวซีแลนด์เป็นหนึ่งใน 17 ประเทศออกกฎหมายบังคับให้บุหรี่ทุกยี่ห้อใช้หีบห่อบรรจุให้เป็นไปตามที่รัฐกำหนด มีการกำหนดอายุผู้ซื้อบุหรี่ไม่ให้ต่ำกว่า 18 ปี อย่างไรก็ตาม กฎหมายเหล่านี้ไม่ได้ทำให้นิวซีแลนด์ก้าวไปถึงเป้าหมายในการลดจำนวนผู้ใหญ่ที่สูบบุหรี่ลงให้เหลือ 5% ของประชากร ภายในปี 2025 ได้
กฎหมายฉบับใหม่ที่รัฐบาลนิวซีแลนด์จะเริ่มต้นร่าง มีเป้าหมายเพื่อห้ามไม่ให้ขายบุหรี่ให้กับชาวนิวซีแลนด์ที่อายุต่ำกว่า 14 ปี นับจากปี 2027 เป็นต้นไป
และกฎหมายนี้จะบังคับใช้กับคนกลุ่มนี้ไปตลอดชีวิต เรียกง่ายๆ ว่าคนที่มีอายุ 60 ปีในปี 2073 ก็จะยังคงถูกกฎหมายห้ามไม่ให้ซื้อบุหรี่ ขณะที่คนอายุ 61 ปีนั้นซื้อบุหรี่ได้นั่นเอง
สาเหตุที่กำหนดอายุกลุ่มประชากรที่อายุต่ำกว่า 14 ปีนั้นเนื่องจากหน่วยงานสาธารณสุขของนิวซีแลนด์พบว่าพฤติกรรมการสูบบุรี่จะเริ่มต้นขึ้นในช่วงวัยรุ่น
โดยผลสำรวจพบว่าชาวนิวซีแลนด์ที่สูบบุหรี่ 4 ใน 5 คนนั้นเริ่มสูบบุหรี่ตั้งแต่อายุ 18 ปี ขณะที่คนสูบบุหรี่กว่า 96% เริ่มสูบบุหรี่ก่อนวัย 25 ปี
และด้วยกฎหมายที่จะหยุดคนในรุ่นนี้และในรุ่นถัดไปไม่ให้สูบบุหรี่นั้น สาธารณสุขนิวซีแลนด์คาดว่าจะสามารถหยุดยั้งการเสียชีวิตจากการสูบบุหรี่ได้มากถึง 5,000 รายต่อปี
นอกจากเรื่องการกำหนดกลุ่มประชากรที่ห้ามเข้าถึงบุหรี่แล้ว ภายใต้ข้อเสนอกฎหมายซึ่งรัฐบาลนิวซีแลนด์เตรียมบังคับใช้ภายในสิ้นปี 2022 รัฐบาลจะยังจำกัดจำนวนร้านค้าที่สามารถขายบุหรี่ได้นับตั้งแต่ปี 2024 เป็นต้นไป และลดปริมาณ “นิโคติน” สารเสพติดในบุหรี่ลง โดยจะเริ่มในปี 2025 เพื่อให้นักสูบเลิกสูบบุหรี่ได้ง่ายขึ้น
และสุดท้ายการสร้างคนในเจเนอเรชั่นใหม่ที่จะปลอดบุหรี่นับตั้งแต่ปี 2027 เป็นต้นไป
สำหรับการบังคับใช้นั้น รัฐบาลนิวซีแลนด์ยังไม่ได้มีประกาศอย่างชัดเจน และยังไม่ได้กำหนดรายละเอียดว่าร้านค้าใดที่จะถูกห้ามไม่ให้ขายบุหรี่ต่อไปในอนาคต โดยรายละเอียดเหล่านี้คาดว่าจะชัดเจนขึ้นในการนำเข้าพิจารณาในรัฐสภาในปีหน้านี้
การออกกฎหมายห้ามคนรุ่นใหม่ซื้อบุหรี่ตลอดชีวิตนั้นมุมหนึ่งก็ได้รับเสียงตอบรับที่ดี
แต่อีกมุมหนึ่งก็ถูกวิพากษ์วิจารณ์ว่าอาจไม่ได้ผลมากนัก เพราะหากคนจะสูบก็จะหาซื้อมาสูบได้เองจากใครก็ตามที่พร้อมจะขายให้
ขณะที่กฎหมายดังกล่าวไม่ได้มีผลบังคับไปยังบรรดาบุหรี่ไฟฟ้า ที่วัยรุ่นชาวนิวซีแลนด์มีใช้กันมากกว่ากลุ่มที่สูบบุหรี่ 2 ถึง 3 เท่า ขณะที่การใช้มาตรการทางภาษี ซึ่งส่วนใหญ่จะส่งผลกระทบกับคนกลุ่มน้อยชาวเมารี และชาวเกาะแปซิฟิก ที่มีประชากรสูบบุหรี่เป็นจำนวนมาก
อย่างไรก็ตาม ในอีกแง่หนึ่งมาตรการดังกล่าวก็เป็นแนวทางที่น่าสนใจ อย่างน้อยก็เป็นการนำร่องให้กับหลายๆ ประเทศที่กำลังหาแนวทางเกี่ยวกับการค่อยๆ ทำให้บุหรี่หายไปจากสังคม
นิวซีแลนด์ไม่ได้นับว่าเป็นประเทศที่มีกฎหมายจำกัดบุหรี่มากที่สุดในโลก
แต่ประเทศภูฏานเคยออกกฎหมายห้ามขายบุหรี่ในประเทศอย่างสิ้นเชิงมาแล้วตั้งแต่ปี 2010 เป็นต้นมา
อย่างไรก็ตาม ในปี 2020 ช่วงเวลาที่เกิดการแพร่ระบาดของโควิด-19 จำเป็นต้องยกเลิกการแบนขายบุหรี่ในประเทศลงชั่วคราว เพื่อหยุดยั้งการนำเข้าบุหรี่ผิดกฎหมายที่หลั่งไหลมาจากประเทศอินเดีย เพื่อขายในตลาดมืดในประเทศ
นับจากนี้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ซึ่งรวมไปถึงคณะทำงานจากชนเผ่าเมารี และผู้เชี่ยวชาญด้านสาธารณสุขของนิวซีแลนด์จะต้องปรึกษาหารือถึงรายละเอียดในการร่างกฎหมายดังกล่าวเพื่อนำไปบังคับใช้ให้ทันในปี 2022 ต่อไป
และต้องทำอย่างค่อยเป็นค่อยไปเพื่อหลีกเลี่ยงผลกระทบทางเศรษฐกิจด้วยนั่นเอง