โลกหมุนเร็ว/บริการสาธารณสุขยอดเยี่ยมของไทย

โลกหมุนเร็ว/เพ็ญศรี เผ่าเหลืองทอง [email protected]

บริการสาธารณสุขยอดเยี่ยมของไทย

คนไทยควรภูมิใจที่ประเทศเรามีบริการสาธารณสุขที่ดีเยี่ยม จะเรียกว่าสุขภาพถ้วนหน้า หรือ 30 บาทรักษาทุกโรคอะไรก็แล้วแต่ ไม่สำคัญ

กรณีศึกษานี้เกิดขึ้นกับครอบครัวผู้เขียน เมื่อน้องสาวคนหนึ่งป่วยเป็นลิ่มเลือดอุดตันที่ขั้วปอด หมดสติไป ได้เรียกรถ ambulance มารับตัวไปเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่ง ซึ่งให้บริการที่ดี และให้นอนพักห้องพิเศษ 2 คืน ให้ดูอาการต่อไป

ปรากฏว่าเมื่อเช็กค่าใช้จ่าย 2 คืนที่ผ่านไปเป็นจำนวนเก้าหมื่นบาทเศษ

เราพิจารณากันแล้วก็ดูออกจะสูงอยู่ จึงคิดดูว่าคนไข้พ้นขีดอันตราย ดูเป็นปกติ รับประทานอาหารได้ พูดคุยได้

เธอมีประกันสุขภาพถ้วนหน้าอยู่ที่โรงพยาบาลพระมงกุฎฯ ซึ่งเป็นโรงพยาบาลชั้นนำของรัฐ การหาเตียงใช้เวลา 1 วันก็สามารถทำเรื่องย้ายจากโรงพยาบาลเดิมไปได้ และนอนที่นั่นอีก 4 คืน อยู่ในห้องรวมที่ใกล้พยาบาล ทุกเช้ามีแพทย์เข้ามาตรวจอาการ และทุกท่านกระตือรือร้นที่จะค้นหาสาเหตุของอาการ จนแพทย์แน่ใจแล้วว่าสามารถควบคุมโรคได้ด้วยการให้รับประทานยาเป็นประจำ ก็จ่ายยา ให้กลับบ้านได้ และนัดมาดูอาการเป็นประจำ

เราไม่ต้องจ่ายเงินแม้แต่บาทเดียวสำหรับบริการและการดูแลที่ทั่วถึง อุ่นใจ

ผ่านไปเกือบ 6 เดือนที่ไปให้แพทย์ติดตามผลเป็นระยะ ก็ไม่เคยต้องจ่ายค่ารักษา สำหรับเราแม้ว่าคนไข้จะมากมาย และใช้เวลาประมาณครึ่งวันเช้าตั้งแต่ยื่นบัตรจนถึงพบแพทย์และจ่ายยา แต่เราก็อุ่นใจกับคุณหมอที่ให้ความเมตตาและเอาใจใส่ คุณหมอ (นายแพทย์อนันต์) อ่านประวัติและวินิจฉัยอย่างไม่รีบเร่ง ยิ่งไปรับบริการก็ยิ่งเกิดความเห็นใจนายแพทย์ทุกคนที่ทำงานหนักคราวละหลายๆ ชั่วโมง

อีกกรณีหนึ่งเป็นกรณีของผู้เขียนเองซึ่งมีประกันสังคมอยู่ที่โรงพยาบาลหัวเฉียวซึ่งเป็นโรงพยาบาลเอกชน คืนนั้นอุบัติเหตุล้มหัวไหล่กระแทกพื้นเวลาสามทุ่ม ก็ไปโรงพยาบาลหัวเฉียว เข้าไปที่แผนกฉุกเฉิน ซึ่งในช่วงค่ำค่อนข้างดึกแทบไม่มีคนไข้ เข้าไปเอ็กซเรย์ มีแพทย์เวรดูอาการ

แพทย์เวรเห็นฟิล์มเอ็กซเรย์ก็โทร.ปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญกลางดึก ซึ่งสั่งให้เรานอนโรงพยาบาลคืนนั้นเลย และเข้าเฝือกไว้

ห้องพักเป็นห้องห้าคนมีห้องน้ำในตัว สะอาดเอี่ยม ได้ทราบภายหลังว่าโรงพยาบาลเพิ่งปรับปรุง วันรุ่งขึ้นแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านกระดูก (นายแพทย์ปานนภ) ก็เข้ามาดูอาการ และบอกให้ดีใจว่าไม่ต้องผ่าตัด น่าจะเข้าเฝือกไว้ประมาณเดือนครึ่ง นอนอีกคืนก็กลับบ้านได้

ที่นี่พยาบาลก็ดูแลเอาใจใส่ดี ทำความสะอาด วัดไข้ วัดความดัน

เช่นกัน ได้ออกจากโรงพยาบาลไปโดยไม่มีค่าใช้จ่าย และเมื่อไปพบแพทย์ทุกสองสัปดาห์เพื่อเช็กกระดูก คุณหมอเปลี่ยนเฝือกใหม่ให้ด้วยตนเอง นับว่าทำงานหนักทีเดียว

ประสบการณ์ของคนไข้ที่รับบริการคือสิ่งยืนยันว่าบริการสาธารณสุขของไทยอยู่ในชั้นแนวหน้าของโลก ผู้เขียนรับรู้ว่าแพทย์ไทยมีจิตวิญญาณของการทำงานช่วยเหลือคนไข้สูงที่สุด และเชื่อว่าที่เราได้รับการดูแลที่ดีเป็นเรื่องของนโยบายบวกกับความทุ่มเทของแพทย์โดยตรง

มีเสียงแสดงความไม่เห็นด้วยกับการหยิบยื่นบริการที่ให้กับคนไทยเผื่อแผ่ไปยังแรงงานต่างด้าวที่เข้ามาทำงานในไทย ซึ่งผู้เขียนคิดว่าทางสาธารณสุขน่าจะต้องมีการศึกษาตัวเลขทั้งจำนวนคนต่างด้าวที่มารับบริการและค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นอยู่แล้ว

เรื่องการรักษาพยาบาลเป็นบริการขั้นพื้นฐานของมนุษย์ นอกจากนี้ อาจจะต้องคำนึงว่าแรงงานต่างด้าวมีบทบาทค้ำจุนเศรษฐกิจไทยไม่น้อย

ที่จริงคนไทยใจดี ใจกว้างอยู่แล้ว ถ้าคิดแบบ “คนมีเงินก็ไปจ่ายเงินให้โรงพยาบาลเอกชน” คนที่รายได้น้อยหรือปานกลางค่อยมาใช้บริการสุขภาพถ้วนหน้า ก็จะเป็นการแบ่งเฉลี่ยกันไป แพทย์ในโครงการก็ทำงานหนักน้อยลงอีกหน่อยหนึ่ง สังคมก็ผาสุก