ครัวอยู่ที่ใจ l ทางรอดอยู่ในครัว : อาหารจากไร่ฝ้าย / อุรุดา โควินท์

 

 

ทางรอดอยู่ในครัว

: อาหารจากไร่ฝ้าย

 

“อืม…อร่อย” เขาว่า ตักอีกคำจากหม้อ

ฉันรีบบอก “เป่าก่อนนะ เดี๋ยวลวกลิ้น พอดีถึงมื้อ กินไม่อร่อย”

“โอย อร่อย มันอร่อยมาก” เขาว่า ตาเป็นประกาย

“เหมือนอยู่อุซเบกเลยใช่มั้ย”

เขาสูดลมหายใจลึก “ใช่ กลิ่นแบบนี้น่ะใช่เลย”

ก็เสียงแบบนี้ และสายตาวาววับแบบนี้ล่ะ คือคำตอบของฉัน

 

ฉันไม่ได้ตามใจเขาทุกวัน และไม่อาจตามใจตัวเองทุกวัน อาหารในบ้านของเรา เกิดขึ้นจากความเหมาะสมเป็นส่วนใหญ่ เพราะฉันต้องบริหารทั้งเวลา ทั้งสภาพคล่อง และพลังงาน

แน่นอนว่าย่อมมีบางวัน หลายวัน-ฉันตามใจตัวเอง กินน้ำพริกอยู่นั่น ไม่เคยเบื่อ และมีอีกหลายมื้อ ที่ฉันตามใจเขา ทำอาหารที่เขาอยากกิน หรืออาหารที่ทำให้เขาผุดรอยยิ้ม

อาหารรัสเซียหรืออาหารอุซเบกทำให้เขาคิดถึงตัวเองตอนเรียนที่นั่น เขาก็เหมือนฉัน และเหมือนทุกคน ตอนที่เราเป็นนักศึกษาคือช่วงเวลาล้ำค่า ตอนนั้นเราอาจไม่รู้ตัว แต่เมื่อเดินผ่านมา ยิ่งไกล เรายิ่งเห็นคุณค่าของมัน

มิตรภาพ ความทรงจำ และสำคัญที่สุด คือวัยหนุ่ม-สาว

มันช่างหอมหวาน ที่ได้รู้สึกถึงช่วงเวลานั้น

ให้เขาได้กลับไปอุซเบกด้วยอาหารเป็นเหตุผลแรกที่ฉันหัดทำอาหารรัสเซีย

แต่พอทำไปหลายเมนูเข้า ฉันกลับพบว่าฉันชอบอาหารรัสเซียและอาหารอุซเบกมาก และฉันทำได้เข้ามืออย่างประหลาด

กระทั่งเพื่อนของเขา ซึ่งเป็นชาวรัสเซีย ยังบอกว่า บางจานฉันทำได้อร่อยกว่าคนรัสเซียเสียอีก

 

กับอาหารจานนี้ บอกตรงๆ ว่า ฉันเริ่มต้นด้วยความกังวล เพราะเขาบอกว่า เขาไม่เคยกิน แต่เป็นเมนูที่ใกล้เคียงกับ Plov

เขาคงอยากกิน เพราะเรื่องราวของมัน

เมนูนี้ เป็นเมนูที่นักศึกษาทำกินในไร่ฝ้าย ตอนที่เขาเรียนที่นั่น รัฐเกณฑ์นักศึกษารวมทั้งอาจารย์ไปเก็บฝ้าย ครั้งละเป็นเดือนหรือหลายเดือน ความเป็นอยู่ลำบาก น้ำก็ไม่ค่อยมีให้อาบ

แต่นักศึกษาบางคนชอบ เพราะไม่ต้องเรียน มีความรู้สึกเหมือนได้ไปออกค่าย ได้ผจญภัย ได้อยู่ด้วยกันแบบคนหนุ่ม-สาว

เขาเป็นชาวต่างชาติ จ่ายเงินเรียน อาจารย์จึงลงความเห็นว่า เขาไม่ต้องไปใช้แรงงานในไร่ฝ้าย ซึ่งอาจารย์บอกว่าดีแล้ว เพราะงานเก็บฝ้าย เป็นอันตรายต่อมือของนักเปียโน มันแหลมคมมาก ถ้าไม่ระวังดีๆ มือพังได้เลย

เขาคงอยากกินเมนูนี้ เพราะคิดถึงเพื่อน และอาจารย์ซึ่งเขาเคยบอกฉันว่า เหมือนพ่ออีกคนของเขา สอนเขาทั้งเรื่องดนตรีและชีวิต

เขาส่งคลิปที่เชฟรัสเซียทำมาให้ฉันดู แรกที่เห็น ฉันคิด จะกินได้เหรอ เอาเส้นแห้งๆ ไปผัดให้เกรียม แล้วเอามาหุงอีกทีนี่นะ ตอนหุง ใส่มันฝรั่งหั่นเต๋าด้วย มันฝรั่งต้องเละสิ

เพื่อดวงตาแวววับของเขา ฉันจึงลองทำ

 

ฉันรู้สึกคล่องแคล่วในครัวใหม่ และคล่องพอสมควรกับอาหารรัสเซีย เริ่มต้นด้วยการหั่นผักทุกชนิด ซึ่งจะหั่นเป็นทรงใดก็ย่อมได้ แต่เพราะเป็นเส้นเกลียว ฉันคิดว่าหั่นเต๋าเล็กๆ น่าจะเหมาะ

เน้นหอมหัวใหญ่ กับแคร์รอต สองชนิดนี้ช่วยชูรสให้อาหารได้มาก

พริกระฆังใส่นิดหน่อย เพราะกลิ่นแรง ฉันใช้ครึ่งลูกพอ

มะเขือเทศนั้นจะใส่มากน้อยเท่าไรก็ได้ แต่เป็นเส้นเกลียว เปรี้ยวหน่อยน่าจะอร่อย เชฟรัสเซียบอกว่า ใช้มะเขือเทศทั้งหมดจะอร่อยมาก แต่เนื่องจากในไร่ฝ้าย คนชอบเก็บมะเขือเทศไว้กินเล่น จึงนิยมใส่มะเขือเทศเข้มข้นกระป๋องแทน

สรุปว่า จะใส่ทั้งสองอย่างหรืออย่างหนึ่งอย่างใดก็ได้ มากน้อยแค่ไหน แล้วแต่ความต้องการรสเปรี้ยว ฉันเลือกใช้มะเขือเทศเนื้อ ปริมาณที่คาดว่าเปรี้ยวติดปลายลิ้น

มันฝรั่งหนึ่งลูกย่อมหั่นเต๋า

เตรียมผักพร้อมแล้วก็เตรียมเครื่องเทศ ใช้สามชนิด ยี่หร่า เม็ดพริกไทย และพริกไทยดำ คั่วเสียหน่อย จะหอมขึ้น เอามาตำรวมกัน

ฉันใช้เนื้อวัว ความจริงจะใช้เนื้ออะไรก็ได้ บางทีคนอุซเบกก็ใช้แกะ

ตั้งหม้อก้นหนา ใส่น้ำมันนิดหน่อย ผัดหอมใหญ่กับเนื้อให้สุก ใส่เครื่องเทศลงไปผัดด้วย ให้กลิ่นคลุ้ง ตามด้วยผักที่เหลือ ยกเว้นมันฝรั่ง

ผัดทั้งหมดให้ร้อน ให้สะดุ้งไฟ แล้วเติมน้ำลงไป แค่พอท่วม เพราะถ้ามากไป เส้นจะแฉะตอนเสร็จ ปรุงรสด้วยเกลือ แล้วฉันก็บรรจงหย่อนใบกระวานลงไปหนึ่งใบ

รอให้เดือด แล้วเคี่ยวไฟอ่อนแบบเปิดฝา 25 นาที

 

ระหว่างที่รอ ฉันตั้งกระทะ ใส่น้ำมันนิดหน่อย เอาเส้นเกลียวลงไปเจอไฟแรงๆ ร้อนๆ ใช่ บางเส้นมีความเกรียม ในคลิปของเชฟรัสเซียก็เป็นแบบนั้น

ผัดพอร้อนแล้วฉันก็ปิดเตา ครบยี่สิบห้านาที ชิมน้ำซุป เค็มนิด หวานหน่อยจากผัก และหอมเครื่องเทศถือว่าใช้ได้ เพราะเดี๋ยวน้ำงวดลง รสจะแน่นขึ้น

เทเส้นเกลียวลงไปพร้อมมันฝรั่ง เร่งไฟให้เดือด ก่อนเบาไฟอ่อนสุด ปิดฝา อบไว้แบบนั้น 15-20 นาที

เจ็ดนาทีผ่าน ฉันไปเปิดหม้อคนทีหนึ่ง ลองชิมเส้นดู ถ้าเรากะปริมาณน้ำกับเส้นพอดี จะได้เส้นที่สุก และไม่เหลือน้ำ

เขาชิมแล้ว ผ่านฉลุยแล้ว ตอนนี้ฉันก็แค่ตักใส่จานสวยๆ โรยผักชีลาวหั่นหยาบ

“มันเหมาะเป็นอาหารที่ทำเลี้ยงคนเยอะๆ นะ อร่อย ครบห้าหมู่ กินอิ่ม” เขาว่า

“เพราะทำอร่อยด้วยแระ” ฉันทวงคำชม

เขาหัวเราะ “บอกแล้ว ว่าเป็นเมียรัสเซียได้เลย เมียทิพย์นะ”