เผยแพร่ |
---|
การอ่านคำวินิจฉัยของตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ กรณีคำปราศรัยของ”อานนท์ รุ้ง ไมค์”ในวันที่ 10 สิงหาคม เมื่อวันที่ 10 พฤศจิกายนกำลังกลายเป็น”เส้นแบ่ง”สำคัญในทางการเมือง
ไม่ว่าจะมองจากด้านของโจทก์ซึ่งเป็นผู้กล่าวหา ไม่ว่าจะมองจากด้านของ”อานนท์ รุ้ง ไมค์”ซึ่งเป็นผู้ถูกกล่าวหา
คำถามก็คือจะเกิด”สถานการณ์”อะไรตามมา
หากประเมินจากท่าทีของ นายณัฐพร โตประยูร อย่างแรกที่สุดก็คือ ท่าทีที่จะขยายผลไปสู่การฟ้องร้องกล่าวโทษต่อบทบาทของผู้มี ส่วนเกี่ยวข้องโดยเฉพาะพรรคก้าวไกล
ความหมายก็คือ อาจมีการนำคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญนำไปสู่การฟ้องร้อง กล่าวหากระทั่งการยุบพรรคก้าวไกลเหมือนกับที่เคยกระทำกับพรรคอนาคตใหม่มาแล้ว
ขณะเดียวกัน การเคลื่อนไหวทางการเมืองจะเป็นอย่างไร
การเคลื่อนไหวในกรณีของ”ราษฎรประสงค์ ยกเลิก 112”จะต้องยุติลงเนื่องแต่คำวินิจฉัยของตุลาการศาลรัฐธรรมนูญหรือไม่
และจากคำวินิจฉัยนี้จะมีผลสะเทือนต่อการชุมนุมหรือไม่
หากดูสิ่งที่”ราษฎรประสงค์ ยกเลิก 112”ที่กระทำอยู่โดยเฉพาะการ ล่ารายชื่อผู้เห็นด้วยทางออนไลน์ที่ร่วมมือจากแอพลิเคชั่นของราษ เปษและคณะก้าวหน้า
ปรากฏว่ารายชื่อที่ทะยานเข้าสู่หลัก 200,000 คนก่อนหน้าวันที่ 10 พฤศจิกายนก็ยังทะยานไปอย่างไม่หยุดยั้ง
ความหมายก็คือ ผู้ที่เห็นด้วยยังคงเคลื่อนไหว ไม่สะดุด
ยิ่งกว่านั้น กลุ่มทางการเมืองต่างๆไม่ว่าในนามราษฎร ไม่ว่าในนามทะลุฟ้า ไม่เพียงแต่ได้ออกแถลงการณ์แสดงการไม่ยอมรับต่อคำวินิจฉัยของตุลาการศาลรัฐธรรมนูญเท่านั้น
หากกิจกรรมใดที่เคยประกาศเอาไว้ก็ยังเดินหน้าต่อไปเหมือน
กับไม่ได้ยินคำวินิจฉัยของตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ
ยังเร็วเกินไปที่จะคาดหมายว่าผลสะเทือนและความต่อเนื่องจากคำวินิจฉัยของตุลาการศาลรัฐธรรมนูญเมื่อวันที่ 10 พฤศจิกายนจะปรา กฎออกมาอย่างไร
แต่ที่แน่ชัดก็คือ ก่อให้เกิด”เส้นแบ่ง”สำคัญในทาง”ความคิด”
ยังเป็นความคิดที่ไม่เห็นด้วยกับคำวินิจฉัย และยังเป็นความคิดที่เห็นด้วยกับคำวินิจฉัย อันเป็นพื้นฐานเดิมที่ดำรงอยู่แล้ว
เพียงแต่การเข้าปะทะและต่อสู้กันจะดำเนินไปอย่างไรเท่านั้น