โลกหมุนเร็ว/ท่องเที่ยวไม่แพงอย่างที่คิด

โลกหมุนเร็ว/เพ็ญศรี เผ่าเหลืองทอง
[email protected]

ท่องเที่ยวไม่แพงอย่างที่คิด

ความรู้สึกสดชื่น เนื้อเต้น นอนไม่หลับ มักเกิดขึ้นเสมอเมื่อรู้ตัวว่าอีกไม่กี่ชั่วโมงข้างหน้าเราจะได้เดินทางไปสนามบิน ขึ้นเครื่องบินแล้วก็เดินทางท่องเที่ยว
เป็นความรู้สึกเบาตัว เบาใจ อารมณ์ดี เมื่อทิ้งภาระหน้าที่การงาน ความรับผิดชอบ ความกังวลใจ หรือปัญหาที่ยังไม่ได้สะสางไว้เบื้องหลัง แล้วมุ่งหน้าสู่เป้าหมายแห่งการเดินทาง ไม่ว่าจะใกล้แค่ห้าหกชั่วโมง หรือข้ามทวีปไปโดยใช้เวลาบินมากกว่าสิบชั่วโมง
ที่สนามบินมีผู้คนมากมาย ต่างชาติต่างภาษา ต่างคนต่างก็ลากกระเป๋าเดินทางมาพร้อมกับครอบครัว หรือไม่ก็มาพบเจอกันกับเพื่อนฝูง หรือผู้ร่วมเดินทางที่ไม่เคยรู้จักหน้าค่าตากันมาก่อนที่ซื้อทัวร์เดียวกันมา
อารมณ์ของผู้คนในสนามบินเป็นอารมณ์ที่ก่อให้เกิดพลังงานทางบวก นี่เองที่ทำให้ความรู้สึกดีๆ เกิดขึ้นตั้งแต่ที่สนามบิน ก่อนที่ล้อเครื่องบินจะลอยขึ้นจากพื้นสนามบิน แล้วบินข้ามประเทศไป

คนบางคนทำงานเหน็ดเหนื่อยตลอดปี เพื่อจะได้เดินทางท่องเที่ยวยาวๆ ยังแดนไกลให้เต็มอิ่มสักสิบวัน เขาอาจเก็บเงินไว้แล้วทุ่มเงินซื้อบริการท่องเที่ยวหนึ่งครั้งด้วยเงินสูง หลังจากได้เลือกดินแดนเป้าหมายที่ใฝ่ฝันถึงอย่างดีแล้ว

คนบางคนเที่ยวได้เที่ยวดี ปีละหลายหน โดยเลือกจุดหมายที่ใช้เงินประหยัดๆ
เดี๋ยวนี้การเดินทางท่องเที่ยวคือการใช้ชีวิตธรรมดาของคนชั้นกลาง
สมัยห้าสิบปีก่อน มารดาของผู้เขียนไปทัวร์ยุโรปทีหนึ่ง 6 ประเทศ เที่ยวกันแบบคุ้มค่าเงิน
สมัยนี้คนท่องเที่ยวเจาะลึกแต่ละสถานที่ แต่ละประเทศแบบเจาะลึกมากกว่าเดิม นอกจากจะ “เที่ยว” แล้วยังบวกการ “ใช้ชีวิต” หรือ “รับประสบการณ์ใหม่ๆ” ด้วย
เช่น นักท่องเที่ยวจีนอาจจะมาเมืองไทยเพื่อมาเข้าคอร์ส “เรียนอาหารไทย” หรือ “เรียนมวยไทย” เป็นต้น

เมื่อต้นปี 2560 มีผู้ทำคลิปเผยแพร่ในยูทูบว่าประเทศที่นักเดินทางจะใช้ค่าใช้จ่ายน้อยที่สุดในโลก 10 ประเทศนั้นคืออะไร ผลสรุปออกมามีประเทศในหลายทวีป
และค่าใช้จ่ายที่ว่าน้อยนี้มีค่าเฉลี่ยคือ ในแต่ละวันนักเดินทางจะใช้เงินต่ำกว่า 20 ดอลลาร์ นั้นคือประมาณ 666 บาท (1 ดอลลาร์เท่ากับ 33.3 บาท)
ประเทศที่นักเดินทางสามารถใช้เงินวันละ 666 บาทที่ว่าก็คือ ฮังการี โบลิเวีย กัวเตมาลา กรีซ อียิปต์ เดอะแกมเบีย คิวบา เวียดนาม ศรีลังกา
มีหลายเหตุผลที่ทำให้การไปเที่ยวในประเทศเหล่านี้ใช้เงินไม่มาก อย่างเช่นกรีซ ซึ่งขึ้นชื่อว่าเป็นแหล่งอารยธรรมของโลก เคยมีราคาแพง แต่ความที่มีปัญหาเศรษฐกิจตกต่ำจนเกือบล้มละลายเมื่อไม่นานมานี้ทำให้ค่าใช้จ่ายถูกลงและน่าฉวยโอกาสไปเที่ยวอย่างยิ่ง
ประเทศไทยไม่ได้อยู่ในโผของประเทศที่การท่องเที่ยวใช้เงินน้อยแล้วนะคะ แม้ว่าถ้าหากนักท่องเที่ยวมุ่งตรงมาที่บางจังหวัด เช่น นครศรีธรรมราช ตรัง หรืออุบลราชธานี จันทบุรี หรือตราด นักท่องเที่ยวก็อาจจะใช้เงินไม่มากเลยก็ได้

ห้าปีที่แล้วผู้เขียนกับเพื่อนไปเที่ยวจังหวัดน่านกัน การไปเที่ยวกับเพื่อนนั้นก็จะมีธรรมเนียมว่าเอาเงินมารวมกองกลางแล้วหารเฉลี่ยกันตั้งแต่ค่าเครื่องบิน รถตู้ โรงแรม อาหาร ส่วนค่าซื้อของนั้นก็แล้วแต่ของใครของมัน
เราไปกัน 4 คืน โดยแวะค้างคืนที่สุโขทัยด้วย หารเฉลี่ยค่าใช้จ่ายแล้วตลอดการเดินทาง ออกมาแค่คนละ 6,000 กว่าบาท
การเที่ยวในจังหวัดต่างๆ ในไทยประหยัดค่าเข้าชมสถานที่ต่างๆ เพราะมักจะเข้าได้ฟรี และค่าอาหารก็มักจะมีมื้อหรูแค่ไม่กี่มื้อ นอกนั้นเราก็มักจะรับประทานอาหารพื้นบ้านพื้นถิ่นที่ไม่แพงกัน แถมบางจังหวัดค่าโรงแรมก็ไม่แพง ที่ตกคืนละ 800-900 หรือบางทีต่ำกว่านั้นก็ยังมี
ผู้เขียนเคยอ่านในเว็บไซต์ หนุ่มสาวเขาเที่ยวกันด้วยงบประมาณแค่ 2,000 บาทก็ยังมี
ที่อุบลราชธานี เราบินไป และพักอยู่หลายวัน ได้ไหว้พระครบ 9 วัด ใช้เงิน 6,000 กว่าบาทเช่นกัน
ส่วนล่าสุดที่จันทบุรี เที่ยวเต็มอิ่ม อาหารทะเลเต็มพุง ผลไม้เต็มที่ ไม่น่าเชื่อเลยว่าใช้เงินแค่ 4,000 บาท
ยังมีการท่องเที่ยวเชิงความรู้ที่จัดโดยอีกหลายสำนักนะคะ ที่ทำให้ได้ความรู้เต็มสมองกลับมาอีกด้วย และใช่ว่าจะได้แต่ความรู้ ที่พักและอาหารก็มักจะเลือกเฟ้นมาอย่างดีเลิศอีกด้วย ผู้เขียนพบว่าความรู้ที่ได้จากผู้บรรยายก็จะติดแน่นในความทรงจำมากกว่าการอ่านจากหนังสือหลายเท่าทีเดียวละค่ะ
คุยมาทั้งหมดนี้คล้ายๆ กับจะชวนผู้อ่านเที่ยว ถูกต้องแล้วค่ะ