เส้นทางสู่ดวงดาวของ นาย โยชิฮิเดะ สุงะ(菅義偉)/บทความพิเศษ สุภา ปัทมานันท์

บทความพิเศษ

สุภา ปัทมานันท์

 

เส้นทางสู่ดวงดาวของ นาย โยชิฮิเดะ สุงะ(菅義偉)

 

นาย โยชิฮิเดะ สุงะ(菅義偉)อดีตนายกรัฐมนตรีของญี่ปุ่น ทุกคนต้องเคยเห็นหน้าตามาแล้วผ่านสื่อทั้งของญี่ปุ่นและสื่อต่างประเทศ ในเดือนเมษายน ปี 2019 ภาพที่ปรากฏคือ นาย สุงะ ซึ่งขณะนั้นดำรงตำแหน่งเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ถือป้ายอักษรจีน “เรวะ”(令和)ประกาศชื่อรัชศกใหม่ของพระจักรพรรดิ์องค์ปัจจุบัน เลยมีฉายาว่า “คุณลุงเรวะ”(令和おじさん)ด้วย และภาพวันเปิดงานโตเกียว โอลิมปิก 2020 เมื่อวันที่ 23 กรกฎาคม ปีนี้ ในฐานะนายกรัฐมนตรี

เส้นทางชีวิตนำพาหนุ่มน้อยจากชนบทให้เดินมาถึงจุดสูงสุด ในฐานะนายกรัฐมนตรีคนที่ 99 ของญี่ปุ่น

นาย สุงะ วัย 73 ปี เกิดในครอบครัวชาวไร่สตรอเบอรี่ ที่จังหวัด อาคิตะ ทางภาคเหนือของญี่ปุ่น พ่อเป็นอดีตข้าราชการ แล้วมาทำไร่ ส่วนแม่และคุณตาเป็นครู มีพี่สาว 2 คน ก็เป็นครู และน้องชาย 1คน ตอนเรียนชั้นมัธยมปลายต้องเดินทางจากบ้านถึงโรงเรียนที่ใกล้ที่สุดใช้เวลา 2 ชั่วโมง เมื่อเรียนจบ นาย สุงะ บอกพ่อว่าไม่อยากเป็นครู และไม่อยากเรียนเกษตรศาตร์ตามที่พ่อแนะนำ แต่อยากทำงานการเมือง

เขาตัดสินใจเดินทางมาตามหาความฝันที่โตเกียว ทำงานที่โรงงานทำลังกระดาษอยู่ช่วงหนึ่งแต่ก็เป็นงานหนักเกินกำลัง เขาต้องทำงานสารพัดทั้งที่ตลาดปลาสึคิจิ ร้านกินดื่ม ร้านอาหาร และเป็นรปภ. เป็นต้น เพื่อเก็บเงินสำหรับเรียนต่อมหาวิทยาลัยอยู่ถึง 2 ปี กว่าจะได้เข้าเรียนที่คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยโฮเซ(法政大学) เขาให้เหตุผลที่เลือกเรียนที่นี่ว่า เพราะค่าเล่าเรียนถูกที่สุด ไม่ได้เรียนที่มหาวิทยาลัยระดับท็อปของประเทศ คือ มหาวิทยาลัยโตเกียว มหาวิทยาลัยวาเซดะ เป็นต้น อย่างที่นักการเมืองส่วนใหญ่ล้วนผ่านสำนักเหล่านี้

เมื่อจบมหาวิทยาลัย ได้ทำงานเป็นเลขานุการของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรผู้เป็นรุ่นพี่ที่มหาวิทยาลัย ได้อยู่ในแวดวงการเมือง จนเป็นสมาชิกสภาเมืองโยโกฮามา และได้รับเลือกเป็นผู้แทนราษฎรสมัยแรกในปี 1996 ขณะอายุ 47 ปี และเป็นผู้แทนราษฎรทั้งหมด 8 สมัย

นาย สุงะ ไม่ได้เกิดในครอบครัวนักการเมืองไม่ว่าจะเป็นระดับท้องถิ่นหรือระดับประเทศ เขาดำเนินชีวิตอย่างสมถะ ไม่ดื่มเหล้า ไม่สูบบุหรี่ พูดน้อย แต่ฟังมาก และไม่สังกัด “มุ้ง” (กลุ่มสนับสนุน)ใดๆในพรรค เส้นทางชีวิตที่ผ่านความลำบากตรากตรำ มีความมานะบากบั่น อุทิศตัวเพื่องานในหน้าที่อย่างเต็มกำลังไม่เห็นแก่เหน็ดเหนื่อย ไม่ว่างานด้านการเมืองหรืองานในราชการ คลุกคลีใกล้ชิดกับข้าราชการระดับต่างๆ อยู่ในตำแหน่งรัฐมนตรีกระทรวงต่างๆ อาทิ กระทรวงกิจการภายใน รัฐมนตรีรับผิดชอบการแปรรูปรัฐวิสาหกิจการไปรษณีย์ ฯลฯ

เป็นเลขาธิการคณะรัฐมนตรี(官房長官)ในรัฐบาลของ นาย ชินโซ อาเบะ ตั้งแต่สมัยที่ 2, 3 และ 4 ติดต่อกัน (ธ.ค. 2012 – ก.ย. 2019)

วันที่ 19 กันยายน 2020 ได้รับการเลือกเป็นหัวหน้าพรรคแอลดีพี(自民党総裁) คนที่ 26 เป็นการเลือกหัวหน้าพรรคแบบเร่งด่วน(緊急時)คือ หัวหน้าพรรคคนใหม่เข้ามาดำรงตำแหน่งตามวาระที่เหลือของ นาย อาเบะ หัวหน้าพรรคคนเก่า ที่ลาออกจากตำแหน่งเนื่องจากปัญหาสุขภาพ ซึ่งมีวาระเหลือประมาณ 1 ปีเศษ

นาย สุงะ ชนะคู่แข่งในขณะนั้น คือ นาย ฟุมิโอะ คิชิดะ(岸田文雄)(ปัจจุบันคือนายกรัฐมนตรี ผู้เพิ่งรับตำแหน่งเมื่อวันที่ 4 ตุลาคม ปีนี้ต่อจากนาย สุงะ อดีตนายกรัฐมนตรี ซึ่งครบวาระการดำรงตำแหน่งหัวหน้าพรรคแอลดีพีนั่นเอง)

คะแนนการเลือกหัวหน้าพรรค เมื่อวันที่ 19 กันยายน 2020 มีสองส่วน คือ คะแนนจากสมาชิกสภาผู้แทน และวุฒิสภา (รวม 393 คะแนน) และคะแนนจากสมาชิกพรรคทั่วประเทศ 47 จังหวัด(คิดเป็น 141 คะแนน) รวม 534 คะแนน

นาย สุงะ ได้คะแนนจากสมาชิกสภาผู้แทน และวุฒิสภา รวม 288 คะแนน ได้คะแนนเกินกึ่งหนึ่ง เป็นคะแนนท่วมท้นถึง 73.3% และคะแนนจากสมาชิกพรรคทั่วประเทศ 89 คะแนน รวมทั้งสิ้น 377 คะแนน จาก 534 คะแนน ทิ้งห่างคะแนนของนาย คิชิดะ ซึ่งได้รวมเพียง 89 คะแนน นาย สุงะ จึงได้เข้ารับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีคนที่ 99 ของญี่ปุ่น (นับรวมคนที่ดำรงตำแหน่งหลายสมัย)

ในที่สุด ความฝันของหนุ่มน้อยจากชนบท ผู้เดินทางเข้าเมืองหลวงเมื่อ 50 กว่าปีก่อน ก็มาถึงดวงดาว…..ที่น้อยคนจะทำได้แล้ว

นาย สุงะ ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี รวมเวลาตลอดวาระ 1 ปีกับอีกไม่กี่วัน ภาระหนักของรัฐบาลภายใต้การนำของเขา คือ การรับมือกับการแพร่ระบาดอย่างหนักของโควิด -19 ทั้งด้านการสาธารณสุข และเศรษฐกิจ ต้องประกาศภาวะฉุกเฉิน และมาตรการควบคุมโรคครั้งแล้วครั้งเล่า ผู้คนได้รับผลกระทบมาก ต้องตกงาน ปิดกิจการ เจ็บป่วยล้มตาย นาย สุงะ บินไปเจรจาขอซื้อวัคซีนไฟเซอร์จากสหรัฐอเมริกา และเร่งฉีดวัคซีนให้ได้วันละ 1 ล้านโดส

งานหนักอีกอย่างที่นาย สุงะ ต้องตัดสินใจคือ การจัดงานระดับโลก โตเกียว โอลิมปิก 2020 ในเดือนกรกฎาคม ปีนี้ หลังจากเลื่อนมาจากปี 2020 ที่มีการระบาดอย่างหนักในรอบแรกๆ ผู้คนมากมายคัดค้านการจัดงาน เพราะอยากให้นำงบประมาณมาเยียวยาและใช้จ่ายด้านสาธารณสุขมากกว่า และเกรงว่าจะระบาดเพิ่มขึ้นอีก แต่รัฐบาลก็ตัดสินใจจัดงานแม้ต้องใช้งบประมาณป้องกันโรคเพิ่มขึ้นอีกมาก นาย สุงะ บอกว่า “การไม่ทำ เป็นเรื่องง่าย แต่การกล้าทำ เป็นเรื่องท้าทาย” และทั่วโลกก็ชื่นชมญี่ปุ่นที่สามารถทำได้สำเร็จ

นายสุงะ ทุ่มเททำงานโดยไม่มีวันหยุดพักผ่อนเลย ท่าทางอ่อนล้า จนเกิดข้อผิดพลาดในการอ่านสุนทรพจน์สำคัญในวันรำลึกระเบิดปรมาณูที่ฮิโรชิมา ในเดือนสิงหาคม* ผู้คนวิพากษ์วิจารณ์เขามากขึ้น ทำให้คะแนนนิยมดิ่งมาอยู่ราว 30 %

เมื่อ 30 กันยายน ที่ผ่านมา รัฐบาลได้ยกเลิกภาวะฉุกเฉิน และมาตรการควบคุมต่างๆทั่วประเทศ (ร้านเหล้าจำกัดเวลาเปิด) ให้ผู้คนออกไปใช้ชีวิตตามปกติ

เมื่อพ้นจากตำแหน่งอย่างเป็นทางการในวันที่ 4 ตุลาคม ก็เป็นช่วงเวลาที่สถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด -19 สามารถควบคุมได้อย่างดีแล้ว ผู้ติดเชื้อทั่วประเทศลดลงอย่างต่อเนื่องจากวันละเกินหมื่นคน จนเหลือต่ำกว่า 500 คน ผู้ติดเชื้อในโตเกียวมีราวหลักสิบต่อวัน หลายจังหวัดไม่พบผู้ติดเชื้อแล้ว

ผลจากความทุ่มเทของนาย สุงะ มาเห็นชัดเจน…เมื่อเขาพ้นตำแหน่งแล้ว…

ถึงตรงนี้…หยุดคิดสัก 5 วิ…บอกชื่อนักการเมืองไทย…ที่ทำงานอย่างอุทิศตน

วันที่ 29 กันยายน 2021 นาย คิชิดะ ได้รับเลือกเป็นหัวหน้าพรรคแอลดีพีคนใหม่แทนนาย สุงะ ซึ่งตัดสินใจไม่ลงแข่งอีก นาย คิชิดะ ผ่านขั้นตอนการชิงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีในรัฐสภา ได้รับเลือกเป็นนายกรัฐมนตรีคนปัจจุบัน และประกาศยุบสภาหลังรับตำแหน่งเพียง 10 วัน เพื่อการเลือกตั้งทั่วไปในวันที่ 31 ตุลาคมนี้

————————–

* “เหตุเกิดเมื่อ…วันระเบิดปรมาณู” (原爆の日)