ชนวนซื้อขายเก้าอี้ภาค 8 “ปัญญา” ปิดจ๊อบชี้เป้าบิ๊ก ตร. จับตา “บิ๊กแป๊ะ” วัดชะตา “เทศา”

ผลการตรวจสอบข้อเท็จจริง ปมอื้อฉาว ที่ นายวิทยา แก้วภราดัย อดีตแกนนำ กปปส. ออกโรงกล่าวหามีการซื้อขายตำแหน่ง ตีราคาเก้าอี้นั่งในการแต่งตั้งโยกย้ายตำรวจภูธรภาค 8 ออกมาแล้ว ผ่านยกแรกไม่มีมวยล้มต้มคนดู?!

ตามที่นายวิทยา เปิดปมร้อน ชี้เป้าน่าจะมีความไม่ชอบมาพากลในการแต่งตั้ง เหตุเกิดในพื้นที่จังหวัดภาคใต้ตอนบน เขตกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 ตามมาด้วยการปูดตัวละคร คนสนิท บ้านเล็ก บ้านลับ กระเป๋าเงินหลักสิบล้านพันขาเก้าอี้

ตามท้องเรื่องนี้ “บิ๊กแป๊ะ” พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ดำเนินการฉับไว พลันที่นายวิทยา ออกมาเปิดโปง ผบ.ตร. ออกคำสั่งเด้ง พล.ต.ท.เทศา ศิริวาโท ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 (ผบช.8) พ้นตำแหน่ง สั่งช่วยราชการที่ศูนย์ปฏิบัติการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศปก.ตร.) ทันที

เปิดทางให้การตรวจสอบข้อเท็จจริงไร้คำครหา?

พร้อมมอบหมาย “บิ๊กเม่น” พล.ต.อ.ปัญญา มาเม่น จเรตำรวจแห่งชาติ (จตช.) ดีกรีนักสืบระดับท็อปของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เป็นหัวหน้าชุดตรวจสอบข้อเท็จจริง สั่งรายงานผลภายใน 15 วัน

“เดอะเม่น” สั่งการ ส่งชุดตรวจสอบกองจเรตำรวจ 8 ตรวจสอบเอกสาร สอบพยานบุคคล โดยในช่วง 15 วันแรก ไม่สามารถให้คำตอบ

“บิ๊กเม่น” ขออนุมัติ “บิ๊กแป๊ะ” ขยายเวลาการตรวจสอบออกไป 30 วัน

ล่าสุด พล.ต.อ.ปัญญา เปิดเผยต่อสื่อมวลชนว่า ส่งรายงานผลการตรวจสอบข้อเท็จจริง ถึง ผบ.ตร. ไปตั้งแต่วันที่ 26 กรกฎาคมที่ผ่านมา ว่า ตรวจสอบข้อเท็จจริงตามที่กล่าวหาพบว่ามีมูล ให้ ผบ.ตร. ดำเนินการพิจารณาตั้งกรรมการสอบสวนทางวินัยนายตำรวจที่เกี่ยวข้อง 3 นาย โดยมี 1 นายเป็นนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่ ส่วนอีก 2 คนเป็นนายตำรวจชั้นยศ พ.ต.ท. และ พ.ต.ต. แต่ไม่ขอเปิดเผยรายชื่อ หรือความเกี่ยวข้องกับบุคคลใดอยู่ในสำนวนการตรวจสอบ

บิ๊กเม่น เผยว่า รายละเอียดการตรวจสอบข้อเท็จจริงได้สอบปากคำพยาน 114 ปาก โดยได้สอบปากคำนายวิทยา ในฐานะผู้กล่าวหาด้วย รวมทั้งให้ พล.ต.ท.เทศา ชี้แจง พร้อมสอบปากคำเจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายอำนวยการผู้เกี่ยวข้องจัดทำบัญชีแต่งตั้งของ บช.ภ.8 และสอบปากคำกลุ่มข้าราชการตำรวจที่ได้รับตำแหน่งสูงขึ้น ได้รับการแต่งตั้งสับเปลี่ยนหมุนเวียนใน บช.ภ.8 รวมทั้งกลุ่มที่รักษาราชการแทนในตำแหน่งที่เปิดตำแหน่งไว้เมื่อการแต่งตั้งรอง ผบก.-สว. วาระปี 2558 รวมกลุ่มนี้สอบไปทั้งหมด 31 ปาก

“ซึ่งจากการรวบรวมพยานบุคคล และพยานแวดล้อมต่างๆ ตามที่มีการกล่าวอ้างว่ามีการซื้อขายตำแหน่งใน บช.ภ.8 มีมูลความจริง ความผิดปรากฏอยู่ ในการแต่งตั้งทุกกลุ่ม คณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง เห็นควรเสนอ ผบ.ตร. ตั้งกรรมการสอบสวนวินัยตำรวจทั้ง 3 นาย

ถ้าผลการตรวจสอบขยายผลไปถึงผู้ใดอีก ก็คงจะมีการดำเนินการต่อ ขณะนี้ ผบ.ตร. คงกำลังตรวจสอบเรื่องราวอยู่

“จากการตรวจสอบข้อเท็จจริงพบว่า มีการเสนอ เรียกรับ สัญญาว่าจะให้ จะรับทรัพย์สินอะไรแบบนี้ ในการสอบสวนพยานแวดล้อมต่างๆ ในชั้นนี้เรามั่นใจว่ามีมูลที่จะดำเนินการสู่ขั้นตอนต่อไปได้ ผบ.ตร. ให้ไปตรวจสอบว่าจะดำเนินการทางวินัยได้หรือไม่ ก็พบว่ามีมูล ส่วน ผบ.ตร. จะให้ช่วยราชการย้ายออกนอกพื้นที่หรือไม่ อยู่ที่อำนาจ ผบ.ตร. พิจารณา”

พล.ต.อ.ปัญญาเผย

แม้ พล.ต.อ.ปัญญา จะไม่เปิดเผยถึงตัวบุคคล ตำรวจ 3 นาย ทั้งยศใหญ่ คนน้อย

แต่ทว่า รายละเอียดที่เปิดเผยต่อสาธารณะ เรียกว่า “ปิดจ๊อบ” ยกที่ 1 อย่างมีชั้นเชิง ลบคำปรามาสที่มองว่างานนี้จะมีมวยล้ม โยงใยความสัมพันธ์ พล.ต.อ.ปัญญา กับ พล.ต.ท.เทศา เป็นเพื่อนร่วมรุ่นนักเรียนนายร้อยรุ่น 32 จับมือเกษียณอายุราชการพร้อมกันในวันที่ 30 กันยายนนี้ วางจ๊อบให้ “บิ๊กแป๊ะ” พล.ต.อ.จักรทิพย์ ดำเนินการต่อในยกต่อไป

การแต่งตั้งระดับ สว. ถึงรอง ผบก. วาระประจำปี 2559 ที่ผ่านมา ออกคำสั่งไปเมื่อช่วงต้นเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา หลังคำสั่งออกมาไม่ถึงสัปดาห์ นายวิทยา ออกมาเปิดปมฉาว ทีมโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ตบเท้าชี้แจง ว่าการแต่งตั้งวาระ 2559 ที่ผ่านมา เป็นไปตามขั้นตอน เดินตามกระบวนการกฎหมาย ตามคำสั่งหัวหน้า คสช. ที่ 7/2560 ที่ให้อำนาจ ผบ.ตร. แต่งตั้ง แต่ทุกตำแหน่งต้องผ่าน 3 ปราการ ผ่านการกลั่นกรองพิจารณาจากคณะกรรมการระดับกองบังคับการที่มี ผบก. เป็นประธาน รอง ผบก. ทุกคนเป็นกรรมการ ก่อนเข้าสู่บอร์ดระดับกองบัญชาการ (บช.) มี ผบช. เป็นประธาน รอง ผบช. ทุกคนเป็นกรรมการ และกลั่นกรองโดยปราการขั้นสุดท้าย บอร์ดกลั่นกรองระดับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่มี ผบ.ตร. เป็นประธาน และมี รอง ผบ.ตร. และ จตช. เป็นกรรมการ ก่อนที่ ผบ.ตร. ผู้มีอำนาจหน้าที่ตามกฎหมาย เป็นผู้ออกคำสั่ง

ย้อนไปในวันกลั่นกรองปราการสุดท้ายระดับ ตร. ในวันที่พิจารณากองบัญชาการหลัก หน่วยปฏิบัติ บอร์ดใหญ่เลือกพิจารณาบัญชีแต่งตั้งที่เสนอจาก บช.ภ.8 เป็นหน่วยแรก ให้ พล.ต.ท.เทศา เข้าชี้แจงตามขั้นตอน ใช้เวลาไม่ถึง 15 นาที พล.ต.ท.เทศา ก็กลับออกจากห้องประชุม

พล.ต.ท.เทศา ศิริวาโท ผบช.ภ.8

จากนั้นคำสั่งก็ออกมาพร้อมกับกองบัญชาการอื่นๆ ทั่วประเทศ

คงมีเพียงคณะกรรมการในห้องประชุมวันนั้นเท่านั้นที่ทราบดีว่าการตรวจพิจารณากลั่นกรองบัญชีรายชื่อ เฉพาะของกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 ในวันนั้น พบพิรุธ น่าสงสัยก่อนปล่อยผ่านหรือไม่

อย่างไรก็ตาม “บิ๊กแป๊ะ” เผยไว้แต่ต้นว่า เหตุที่ตั้งกรรมการตรวจสอบการแต่งตั้งของกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 เพราะมีข้อร้องเรียนและคำครหามาตลอด

เมื่อนายวิทยาออกมาเปิดประเด็น จึงสั่งให้ พล.ต.ท.เทศา พ้นตำแหน่งและตั้งกรรมการตรวจสอบเพียง บช. เดียว แม้ว่านายวิทยาจะชี้เป้าไปยังกองบัญชาการอื่นๆ ด้วย แต่บิ๊กแป๊ะยันว่า ใน บช. อื่นไม่มีการร้องหรือเบาะแสน่าสงสัยจนถึงขั้นต้องตั้งกรรมการ

ก่อนนายวิทยาออกมาจุดประเด็น การแต่งตั้งโยกย้ายสีกากี มีคำครหาดังมาตลอด ในการแต่งตั้งรอง ผบก.-สว. วาระ 2558 มีการตั้งข้อสังเกตถึงการลาออกจากตำแหน่ง ก่อนวาระการแต่งตั้ง ระหว่างวาระการแต่งตั้งอย่างผิดสังเกตนับร้อยตำแหน่ง

วิทยา แก้วภราดัย
แกนนำ กปปส. – พรรค ปชป.

มีเสียงอื้ออึงว่านี่คือยุทธการจ้างลาออก เปิดเก้าอี้ว่าง การทำการแต่งตั้งที่ทุลักทุเลในวาระปี 2558 ดำเนินไปอย่างที่ทราบกันดีว่าเป็นอย่างไร ช่วงท้ายของการออกคำสั่งแต่งตั้ง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ออกมาเบรกให้เว้นการแต่งตั้งในตำแหน่งที่มีการลาออกอย่างผิดสังเกตเหล่านั้น สำนักงานตำรวจแห่งชาติ แก้ปัญหาโดยการออกคำสั่งรักษาราชการแทน

มีเสียงเล่าอ้างในวงการสีกากีว่า ตำแหน่งเจ้าปัญหาในตอนนั้น โฟกัสที่ บช.ภ.8 ก็มากกว่า 20 เก้าอี้ ทำให้เกิดพันธสัญญาต่อเนื่องมาในวาระปี 2559

แต่บางรายมีการผิดสัญญา เรื่องจึงแดงขึ้นมา ขุดคุ้ย กระเทือนไปหลายเก้าอี้

มีข้อมูลว่า ในการแต่งตั้ง สว.-รอง ผบก. วาระปี 2559 ใน บช.ภ.8 มีเก้าอี้ รอง ผบก. ว่าง 12 เก้าอี้ ผกก. จากในหน่วยเลื่อนขึ้น 7 คนเท่านั้น อีก 5 ตำแหน่ง คนนอกหน่วยมาขึ้น ตำแหน่ง ผกก. ว่าง 21 เก้าอี้ แต่รอง ผกก. ในหน่วยได้ขึ้นในหน่วย 13 คน ไปขึ้นนอกหน่วยได้ 1 คน ที่เหลือเป็นโควต้าคนนอกหน่วย รอง ผกก. ว่าง 49 ตำแหน่ง สว. จากในหน่วยขึ้น 36 เก้าอี้ ที่เหลือให้โควต้านอกหน่วย เก้าอี้สารวัตรว่าง 69 รอง สว. ในหน่วยขึ้น 65 เก้าอี้ ขณะที่รองสารวัตรภาค 8 ได้ดี ไปขึ้นนอกหน่วย 22 คน

นี่คือข้อมูลการแต่งตั้งของ บช.ภ.8 มีการเลื่อนขึ้นข้ามหน่วย เปิดเก้าอี้ให้คนนอกหน่วยมาเลื่อนตำแหน่งขึ้น ซึ่งเหมือนกับ บช. อื่นๆ เพราะการแต่งตั้งวาระ 2559 เปิดสเป๊กกว้าง ย้ายขึ้นข้ามห้วยได้ค่อนข้างเสรี?!

อย่างไรก็ตาม ภารกิจยกแรกของ พล.ต.อ.ปัญญา มวยไม่ล้ม เปิดเกมสู่ยกต่อไป ให้บิ๊กแป๊ะเต้นฟุตเวิร์กออกหมัดต่อโดยไม่ค้านสายตาคนดู

ตำรวจ 3 นายที่ถูกชี้มูลเป็นใคร ยังไม่มีหลักฐานใดเปิดเผยมาชัดเจน ทว่า ผลการสอบที่ออกมา ตอบคำถามสังคมได้ว่า เสียงลือกระฉ่อน เก้าอี้มีราคา ที่ดังทั่ววงการสีกากีนั้นไม่ได้ปั้นเรื่องเกินจริง?!

จับตา “บิ๊กแป๊ะ” ว่าจะจบเกมนี้อย่างไร เมื่อเรื่องมาถึงขนาดนี้แล้ว ส่วน “พล.ต.ท.เทศา” ผบช.ภ.8 ผลสอบออกมาแบบนี้คงร้อนๆ หนาวๆ?!!