1 ต.ค. ดีเดย์เปิดประเทศ กับความท้าทายวิกฤตโควิด-19 มองผ่านโหราศาสตร์/รายงานพิเศษ

รายงานพิเศษ

ภัณธิภร วงษ์จันทร์เพ็ญ

ผู้อำนวยการสถาบันโหราศาสตร์สากลและยูเรเนียนแห่งประเทศไทย

email : [email protected]

Facebook : Classical and Uranian Astrology Thailand

วรเชษฐ์ ตียเกษม ที่ปรึกษา

 

1 ต.ค. ดีเดย์เปิดประเทศ

กับความท้าทายวิกฤตโควิด-19

มองผ่านโหราศาสตร์

 

หลังจากที่รัฐบาลกระตุ้นการท่องเที่ยวด้วยการตัดสินใจเปิดประเทศพร้อมกับเริ่มโปรเจ็กต์โมเดลภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ (Phuket Sandbox) เปิดรับนักท่องเที่ยวในระยะที่ 1 ประกอบด้วยโครงการภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ สมุย พลัส โมเดล เกาะยาวน้อย เกาะยาวใหญ่ เขาหลัก พังงา และจังหวัดกระบี่ ในช่วงกรกฎาคมที่ผ่านมา ตามที่เคยเขียนบทความไปแล้วนั้น (อ่านบทความเรื่อง 120 วันเปิดประเทศ ปักหมุดระวังโควิด-19 ตีพิมพ์ในมติชนสุดสัปดาห์)

นับว่าเป็นความท้าทายภายใต้ความเสี่ยงกับผลที่กำลังจะเกิดขึ้นในอนาคต และผลต่างๆ ที่เกิดขึ้นแล้วตามที่เป็นข่าวใหญ่ดังไปทั่วโลก

คราวนี้ดีเดย์ 1 ตุลาคม 2564 เปิดประเทศในช่วงระยะที่ 2 นี้เป็นการเปิดเพิ่มอีก 5 จังหวัด ได้แก่ กรุงเทพฯ พัทยา บางละมุง สัตหีบ จังหวัดชลบุรี ชะอำ จังหวัดเพชรบุรี หัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ แม่แตง แม่ริม ดอยเต่า จังหวัดเชียงใหม่ ภายใต้สถานการณ์วิกฤตโควิด-19 ยอดผู้ติดเชื้อรายวันรายใหม่ยอดพุ่งทะลุกว่า 1 หมื่นคน ผู้เสียชีวิตสูงบางครั้งถึง 200 คนต่อวัน ทำสถิตินิวไฮในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา

จากผลของการติดเชื้อและการระบาดอย่างหนักในรอบ 3 ไตรมาสที่ผ่านมา ส่งผลต่อประชาชนและภาคเศรษฐกิจอย่างหนักหน่วง โดยเฉพาะภาคการท่องเที่ยว ที่ได้ผลกระทบอย่างหนักต่อเนื่องมาตั้งแต่เมษายน 2563 จนปัจจุบัน

 

ในทัศนะโหราศาสตร์จากภาพดวงดาว ในช่วงการเปิดประเทศในครั้งนี้หวังกระตุ้นอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ

ดวงชะตาประเทศไทยด้านการท่องเที่ยวและเปิดประเทศ ยังน่าห่วงอย่างมาก เป็นช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อ มีความเสี่ยงสูงภายใต้ความไม่แน่นอน ถึงแม้ว่าจะมีจุดที่จะส่งผลดีก่อให้เกิดโชคลาภอย่างไม่คาดคิดมาก่อน

และในขณะเดียวกันก็จะมีเหตุให้เกิดความเสี่ยง ความพลิกผัน เอาแน่เอานอนไม่ได้จากการเผชิญปัญหาที่คาดการณ์ไม่ถึง ผลเสียหายที่จะตามมาในภายหลังรวมทั้งภาพลักษณ์ของประเทศด้วย การระบาดจะเพิ่มขึ้น พบเชื้อที่กลายพันธุ์ ส่งผลเสียต่อประชาชนในด้านต่างๆ การสาธารณสุขรับภาระอย่างหนักหน่วง เกิดความวิตกกังวลกับคนในพื้นที่

สถานการณ์เช่นนี้การเปิดประเทศจะส่งผลกระทบด้านเสียมากกว่าผลดี

ในช่วงการระบาดของโควิด-19 ระยะนี้ดาวเสาร์โคจรพักรทำมุม 45 องศากับเนปจูน จะส่งผลให้การระบาดยังอยู่ในสภาพที่ขึ้นๆ ลงๆ ยังยืดเยื้อไม่สามารถควบคุมการแพร่ระบาดได้อย่างเด็ดขาด

เมื่อเปิดประเทศในช่วงที่ดาวเสาร์กำลังโคจรพักรนี้ จะเป็นการสะสมเก็บปัญหาต่างๆ คั่งค้างเอาไว้ รอการส่งผลเมื่อดาวเสาร์โคจรเดินหน้าปกติ ในราศีกุมภ์ในวันที่ 17 ธันวาคม พ.ศ.2563 (อ่านบทความเรื่อง ดาวเสาร์สถิตราศีกุมภ์ (ตลอดปี พ.ศ.2564) ตีพิมพ์ในมติชนสุดสัปดาห์)

ช่วงนั้นปัญหาต่างๆ จะเกิดขึ้นและส่งผลอย่างเด่นชัด ต้องเร่งแก้ไขและเตรียมรับมืออย่างเร่งด่วน

ก่อนที่ดาวเสาร์จะโคจรเดินหน้า ควรเตรียมการเพื่อเข้าสู่ไตรมาส 4 ของปีนี้ แม้ว่ากว่าจะผ่านไปในแต่ละช่วงเวลาที่ยากลำบากกับการเผชิญวิกฤตโควิด-19 การระบาดในรอบ 9 เดือนยังคงเกิดต่อเนื่องเรื่อยมา มีการฉีดวัคซีนช่วยกระตุ้นการสร้างภูมิคุ้มกันหมู่แล้วก็ตาม แต่ก็ยังไม่ครอบคลุมประชากรทั้งหมดให้ได้ตามเป้าหมาย

ประกอบกับรัฐและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องยังไม่สามารถควบคุมได้อย่างทันท่วงที จึงทำให้ต่างก็มีความหวังที่จะฟื้นฟูเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวให้กลับมาคึกคักอีกครั้งต้องอยู่ภายใต้การลุ้นว่าจะออกหัวหรือออกก้อย

สําหรับในการเปิดประเทศในคราวนี้ การคาดกราณ์ว่าธุรกิจต่างๆ และการท่องเที่ยวจะมีโอกาสฟื้นตัวกลับมา แต่ก็ยังไม่ได้เห็นผลที่ชัดเจน ประกอบกับต้องมีการลงทุนด้วยเม็ดเงินจำนวนมากในการเตรียมความพร้อมการเปิดประเทศ อาจเสี่ยงต่อเกิดวิกฤตระบาดโควิด-19 ในระลอกที่ 5 ขึ้นอย่างคาดไม่ถึง แต่รัฐเลือกทางเลือกคือการเดินหน้าเปิดประเทศต่อไป มีโอกาสลุ้นกับผลการขับเคลื่อนภาคการท่องเที่ยว

โดยรัฐบาลและหน่วยงานด้านการท่องเที่ยวมีการกระตุ้นการท่องเที่ยวโค้งสุดท้ายของปีนี้เพื่อรองรับฤดูการท่องเที่ยวของทั้งต่างชาติและชาวไทย ด้วยการกระตุ้นจากภาครัฐโครงการเราเที่ยวด้วยกันเฟส 3 สนับสนุนด้านที่พัก ค่าอาหาร ค่าเดินทาง ให้กับประชาชนและโครงการทัวร์เที่ยวไทยให้กับผู้ประกอบการ ทั้ง 2 โครงการนี้ทำให้รัฐต้องกู้เงิน

ทั้งนี้ รัฐบาลจะต้องแบกรับหนี้สินและการจัดการด้านการสาธารณสุข การจัดหาวัคซีนที่ยังคงดำเนินไปอย่างต่อเนื่องตามแผนการจัดหาวัคซีน และการแก้ไขปัญหาต่างๆ ที่จะเกิดขึ้นตามมาในภายหลังอีกมากมาย

โดยเฉพาะปัญหาในด้านภาพลักษณ์ที่จะส่งผลต่อความเชื่อมั่นของประเทศในด้านเป็นเมืองท่องเที่ยว ต้องมีมาตรการการเข้มงวดต่อการป้องกันการแพร่ระบาดโควิด-19 และระบบความปลอดภัยเพื่อให้นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติไว้วางใจเมื่อเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในเมืองไทย

จุดนี้จะเป็นเรื่องสำคัญอย่างยิ่งต่อภาพลักษณ์และการฟื้นฟูอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของไทย

 

ในสถานการณ์ที่การฉีดวัคซีนยังไม่ครอบคลุมคนทั้งประเทศ แต่ทุกภาคส่วนโดยเฉพาะอย่างยิ่งเมืองสำคัญที่กำลังจะเปิดประเทศเพื่อรองรับนักท่องเที่ยวพยายามผลักดันการฉีดวัคซีนเข็ม 2 เพื่อเพิ่มภูมิคุ้นกันหมู่ให้ได้เกิน 70% แม้ว่าการเปิดประเทศในครั้งนี้จะแตกต่างจากเดิมตรงที่นักท่องเที่ยวที่ฉีดวัคซีนครบแล้ว ไม่ต้องถูกกักตัวในโรงแรม 14 วัน สามารถเดินทางท่องเที่ยวตามเมืองที่เปิดรับนักท่องเที่ยวได้เลย

นับว่าเป็นความท้าทายยิ่งกว่าโครงการภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ ประกอบกับความหวั่นวิตกของประชาชนส่วนในพื้นที่เปิดนั้นที่ยังไม่ได้รับการฉีดวัคซีนครบทุกคน (100%) ทั้งนี้อาจจะรวมถึงวัคซีนกระตุ้นภูมิคุ้มกันในเข็ม 3 ด้วย

การเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวในสถานการณ์อย่างนี้ เสี่ยงต่อการแพร่กระจายและการระบาดโควิด-19 เดิมพันการเปิดประเทศในครั้งนี้จึงสูง ท่ามกลางวิกฤตโควิด-19 ที่ยังไม่มีแนวโน้มว่าจะควบคุมการแพร่ระบาดได้ ขณะที่อีกด้านก็ต้องดิ้นรนเพื่อความอยู่รอดกับภาคธุรกิจการท่องเที่ยว

 

หมายเหตุ

ภาพดาวจากโปรแกรม SolarFire ที่นำมาใช้พยากรณ์

ภาพดาววันที่ 1 ตุลาคม พ.ศ.2564 อาทิตย์สถิตราศีตุลทำมุม 135 องศากับพฤหัสฯ โคจรพักร และดาวเสาร์โคจรพักรทำมุม 45 องศากับเนปจูน

อาทิตย์สถิตราศีตุล ร่วมเรือนกับอังคาร เซอุส พุธ อาพอลลอน, เมษ/อาทิตย์ สัมพันธ์กับ ราหู/วัลคานุส = พฤหัสฯ/มฤตยู = แอดแมตอส/วัลคานุส = เสาร์/แอดแมตอส = อังคาร/เมษ

หมายถึง เหตุการณ์ในวันนี้ (เมษ/อาทิตย์) เป็นการเริ่มต้นกิจกรรม การงาน (อังคาร/เมษ) ด้วยความกระตือรือร้น (ราหู/วัลคานุส) นำมาซึ่งโชคฉับพลัน หรือโชคร้ายฉับพลัน (พฤหัสฯ/มฤตยู) ขณะที่อยู่ในภาวะลำบาก (เสาร์/แอดแมตอส) อันเป็นผลมาจากชะตากรรมรังแก (แอดแมตอส/วัลคานุส) ของวิกฤตโควิด-19

ทางโหราศาสตร์ ดาวเสาร์ (Saturn) เป็นดาวบาปเคราะห์ (Malefic Planet) หมายถึง ความทุกข์ ปัญหา อุปสรรค ความเครียด ความเจ็บป่วย การเดินทาง การพลัดพราก การสูญเสีย ความตาย ปัญหาเรื้อรัง ข้อจำกัด การทำงานหนัก ความขาดแคลน เป็นต้น