ยานยนต์ สุดสัปดาห์/เชฟฯ “โคโลราโด สตรอม” ปิกอัพ 4 ประตู-อารมณ์ “เอสยูวี”

สันติ จิรพรพนิต

ยานยนต์ สุดสัปดาห์/สันติ จิรพรพนิต [email protected]

เชฟฯ “โคโลราโด สตรอม” ปิกอัพ 4 ประตู-อารมณ์ “เอสยูวี”

แม้ไม่บ่อยครั้งนักที่ผมจะมีโอกาสทดสอบรถกระบะ หรือปิกอัพ เพราะส่วนใหญ่ไปทางสายเก๋ง และเอสยูวีเป็นหลัก

อีกประการ ปิกอัพเป็นรถที่มีอายุแต่ละเจเนอเรชั่นค่อนข้างนาน รุ่นหนึ่งๆ 6-7 ปีเป็นอย่างต่ำ และหากยอดขายเดินได้ดีก็อาจยืดออกไปได้อีก

จนล่าสุดมีโอกาสได้โคจรมาพบกับปิกอัพรุ่นปรับโฉม คือ “เชฟโรเลต โคโลราโด ไฮคันทรี่ สตรอม” (ชื่อยาวไปไหน)

เรื่องของเรื่องเพราะได้เจอกับทีมพีอาร์ของแบรนด์เชฟโรเลต แล้วคุยกันถึงเรื่องโน้นเรื่องนี้ รวมถึงรายการทีวีออนเน็ต “โชว์รูม ประชาชื่น” รายการรถยนต์ที่ออกอากาศทางเพจ “ข่าวสด” ทุกวันอาทิตย์เวลา 19.00 น.

ออกมาได้หลายตอนแล้วยอดวิวแต่ละตอนหลายหมื่นจนแสนเศษๆ

ยิ่งเมื่อนำแต่ละช่วงมาซอยแยกจากกันเป็นคลิปสั้นๆ ลงซ้ำในเพจข่าวสด ยอดวิวยิ่งพุ่งขึ้นไปอีก สถิติ (ตอนนี้) ที่ถือว่าสูงสุดคือตอน “โรงจอดรถอเนกประสงค์พับเก็บได้” ยอดวิวอยู่ประมาณ 9.7 แสนครั้ง

คลิปอื่นๆ ก็ลดหลั่นกันลงมา แต่ส่วนใหญ่เกิน 90% ยอดคลิกชมทะลุแสนวิวทั้งสิ้น

ทีมพีอาร์เชฟโรเลต แย็บๆ มาว่าจะส่ง “ไฮคันทรี่ สตรอม” มาให้ลองทดสอบเสียหน่อย

รออะไรล่ะครับ…ติดต่อรับรถมาทันทีทันใด

“ไฮคันทรี่ สตรอม” เป็นรุ่นท็อปสุดของกระบะเชฟโรเลต โดยเพิ่มชุดตกแต่งพิเศษ อ็อปชั่นต่างๆ และปรับโน่น นี่ นั่น เพิ่มเติมจากรุ่นปกติ

ไฮคันทรี่ สตรอม ปรับกระจังหน้าแบบใหม่พร้อมสัญลักษณ์โบว์ไทขนาดใหญ่ ไฟหน้าหลอดฮาโลเจนแบบรีเฟล็กเตอร์ มีลูกเล่นเป็นเส้นโครเมียมอยู่ในโคม พร้อมไฟเดย์ไทม์ มีปุ่มเซ็นซอร์ช่วยจอดทั้งด้านหน้าด้านหลัง

กระโปรงหน้าติดสติ๊กเตอร์สีดำ เช่นเดียวกับด้านข้าง เป็นเอกลักษณ์ที่เห็นแล้วรู้ทันทีว่านี่คือไฮคันทรี่ สตรอม

ส่วนชุดแต่งต่างๆ ใช้สีดำเงาหรือเปียโนแบล๊ก เช่น สปอร์ตบาร์ กระจกมองข้าง มือเปิดปิดประตู ก็เป็นสีดำ จากของเดิมเป็นสีเดียวกับตัวรถ

ไฟท้ายแบบแอลอีดีที่เปิดฝาท้าย จะติดกล้องมองหลังแต่ออกแบบได้เนียนตามาก เรียกว่าหากไม่สังเกตจะมองไม่เห็นว่ากล้องอยู่ตรงไหน

ล้ออัลลอยสีดำขนาด 18 นิ้ว มีแร็กหลังคามาให้ด้วย

มาดูด้านในกันบ้าง พวงมาลัยแบบมัลติฟังก์ชั่น ผ่อนแรงด้วยไฟฟ้าผันแปรตามความเร็ว ยกมาจากของเดิม

แผงหน้าปัดแบบใหม่มีจอแสดงผลตรงกลางเป็นภาษาไทย มีปุ่มเปลี่ยนบริเวณก้านด้านขวาพวงมาลัย บอกฟังก์ชั่นต่างๆ ละเอียดมาก อาทิ ความเร็วแบบดิจิตอล อุณหภูมิภายนอก อุณหภูมิน้ำมันเครื่อง อุณหภูมิน้ำหล่อเย็น อัตราสิ้นเปลือง ระยะทางก่อนน้ำมันหมด ฯลฯ

และที่น่าสนใจคือบอกแรงดันลมยางแต่ละล้อด้วย เรียกว่าแค่กดดูไม่ต้องไปไล่เช็กลงทีละล้อเหมือนที่ผ่านๆ มาแล้ว

เบาะนั่งเป็นหนังโอบกระชับและนั่งสบาย ด้านคนขับปรับไฟฟ้า คอนโซลกลางใหม่ดูหรูหรากว่าเดิม มีจอขนาด 7 นิ้วระบบทัชสกรีน รองรับแอปเปิ้ลคาร์เพลย์ ครั้งแรกของปิกอัพบ้านเรา เชื่อมต่อเชฟโรเลต มายลิงก์ได้ ส่วนอื่นๆ ก็พอร์ตยูเอสยู เอยูเอ็กซ์

ลำโพงมีมาให้ 7 ตัว ที่ประตูทั้ง 4 บาน แล้วก็ตรงกลางคอนโซลหน้า ด้านบนคอนโซลซ้าย-ขวาเป็นทวิตเตอร์

แผงด้านหน้ากรุด้วยวัสดุอ่อนนุ่ม

เบาะด้านหลังก็นั่งสบายพนักพิงองศาเอียงกำลังเหมาะ ไม่ได้ตรงแหนวเหมือนในอดีต และด้วยตัวถังที่ใหญ่โตทำให้ห้องโดยสารโอ่โถงไปด้วย เลกรูม เฮดรูมเหลือเยอะมาก

รุ่นนี้ย้ายระบบไฟหน้าจากก้านด้านขวาหลังพวงมาลัย มาไว้บริเวณใต้เรือนไมล์ ได้อารมณ์รถยุโรปพอสมควร มีให้เลือกระบบอัตโนมัติด้วย และสามารถปรับโคมสูงต่ำได้ 3 ระดับ

หากเปิดระบบไฟหน้าอัตโนมัติ เมื่อดับเครื่องและล็อกรถแล้วไฟยังส่องสว่างอยู่อีกอึดใจหนึ่งก่อนดับ ทำให้สะดวกและปลอดภัยเวลาจอดในที่มืดๆ

อีกอย่างที่ถือว่าเป็นครั้งแรกของปิกอัพคือระบบ “รีโมตสตาร์ต” โดยสามารถกดปุ่มสตาร์ตที่รีโมตได้เลย และแอร์จะเปิดอัตโนมัติเช่นกัน

นอกจากนี้ มีระบบลดกระจกลงทั้ง 4 บานผ่านรีโมตเช่นกัน

ส่วนเวลาเปิดประตู กระจกจะลดลงอัตโนมัตินิดหนึ่ง เมื่อปิดแล้วก็จะเลื่อนขึ้นจนสุด นัยว่าเพื่อลดแรงดันในการเปิด-ปิดประตูนั่นเอง

รุ่นนี้ใช้เครื่องยนต์ดูราแม็กซ์ 2.5 ลิตร เทอร์โบ กำลังสูงสุด 180 แรงม้า แรงบิด 440 นิวตัน-เมตร เท่ากับรุ่นที่แล้วซึ่งเป็นเครื่อง 2.8 ลิตร

การขับขี่ต้องบอกว่าเป็นปิกอัพที่ขับสนุกมาก ยิ่งบวกกับการตกแต่งภายใน หากไม่บอกว่าเป็นปิกอัพ ก็ไม่มีทางรู้เลย เพราะต้องนึกว่านั่งอยู่ในเอสยูวี

พวงมาลัยเบาแรงในความเร็วต่ำ และเพิ่มน้ำหนักขึ้นเมื่ออยู่บนย่านความเร็วสูง

อัตราเร่งตีนต้นมาค่อนข้างเร็ว เช่นเดียวกับช่วงกลางและปลายไหลได้เรื่อยๆ

ผมลองอัดไปประมาณ 160 กิโลเมตร/ชั่วโมง ในช่วงกลางคืนตอนถนนโล่งๆ ยังมีที่ว่างใต้คันเร่งเหลือให้ใส่ต่อ แต่ด้วยความสูงของรถ เลยตัดสินใจถอนคันเร่ง แม้ความเร็วขนาดนี้ยังไม่รู้สึกหวาดเสียวอะไร เนื่องจากช่วงล่างค่อนข้างนิ่งดีมาก

แรงสั่นสะเทือนจากช่วงล่างแทบไม่ขึ้นมาถึงห้องโดยสาร เนื่องจากปรับเปลี่ยนยางรองแท่นเครื่อง เกียร์ และตัวถังใหม่หมด

เช่นเดียวกับเสียงลมกว่าจะเล็ดลอดเข้ามาก็เกิน 130 กิโลเมตร/ชั่วโมงไปแล้ว ถือว่าทำได้ดีมากๆ สำหรับปิกอัพ เพราะเพิ่มความหนาของกระจก รวมทั้งเสริมยางที่ขอบประตู

แต่ที่เข้ามาก่อนเพื่อนคือเสียงเครื่อง ก็ต้องทำใจเพราะนี่คือเครื่องดีเซล แต่การเปิดเพลงก็พอกล้อมแกล้มได้บ้าง

จะมีมากหน่อยโดยเฉพาะช่วงออกตัวใหม่ๆ หรือเร่งแซง แต่ถ้าไปที่ความเร็วกลางๆ เสียงเครื่องจะไม่ดังมาก

เกียร์แบบอัตโนมัติ 6 สปีด พร้อมระบบแมน่วลทำงานได้ราบเรียบ จังหวะเร่งแซงมีรอนิดๆ แต่นิดเดียวจริงๆ หากไม่ได้ขับแบบจับผิดแทบไม่รู้สึก

แม้รุ่นนี้ขนาดมิติตัวถังจะใหญ่เบิ้ม (กว้าง x ยาว x สูง) 2,132 x 5,408 x 1,858 ม.ม. (วัดรวมกระจกมองข้าง-กันชนหน้า-หลัง และแร็กหลังคา) ความสูงจากพื้นถึงตัวรถ 219 ม.ม. แต่ด้วยความสูงทำให้ทัศนวิสัยได้เปรียบรถอื่นๆ บนถนน

ความปลอดภัยมีครบไม่แพ้เอสยูวีหรูๆ เลย เช่น ระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว, ระบบป้องกันการพลิกคว่ำ, ควบคุมความเร็วขณะลงทางลาดชัน ป้องกันการลื่นไถลและล้อหมุนฟรี ฯลฯ

“เชฟโรเลต โคโลราโด ไฮคันทรี่ สตรอม” มีให้เลือก 2 รุ่นย่อย ต่างกันแค่ระบบขับเคลื่อน ส่วนอื่นๆ เหมือนกันหมด

รุ่นขับเคลื่อน 4 ล้อ ราคา 1,098,000 บาท และขับเคลื่อน 2 ล้อ ราคา 1,028,000 บาท