ไม่ว่าจะมองไปยังกรณีการถอดถอนศิลปินแห่งชาติ บอกอสุชาติ สวัสดิ์ศรี ไม่ว่าจะมองไปยังกรณีการลงโทษ “คุณหมอของขวัญ” โดยกรรมการแพทยสภา

ไม่ว่าจะมองไปยังกรณีความหงุดหงิดจากการไลฟ์ของ 2 พส. หลวงพี่ไพรวัลย์ประสานกับหลวงพี่สมปอง

แม้จะเป็นคนละ”เรื่อง” แต่ก็อยู่ใน”เรื่องเดียวกัน”

คล้ายกับกรณีของ บอกอสุชาติ สวัสดิ์ศรี เป็นเรื่องของนักเขียน คล้ายกับกรณีของ”หมอของขวัญ”เป็นเรื่องของแพทย์ คล้ายกับเรื่องของ 2 หลวงพี่เป็นเรื่องของพระสงฆ์องคเจ้า

แต่เมื่อจัดกลุ่มและนำมาสังเคราะห์ก็จะมองเห็นว่า ไม่ว่าเรื่องของนักเขียน ไม่ว่าเรื่องของแพทย์ ไม่ว่าเรื่องของพระสงฆ์องคเจ้า ล้วนอยู่ในพรมแดนและพื้นที่ของ”วัฒนธรรม”

สะท้อนปรากฏการณ์ที่เรียกว่าสั่นสะเทือนในทางความคิด

สะท้อนให้เห็นถึงการแย่งชิงเข้าไปยึดครองของแต่ละ”พื้นที่”ออกมาอย่างเด่นชัด

ก่อให้เกิดการปะทะและขัดแย้งระหว่างเก่ากับใหม่

 

ขอให้ดูตัวละครที่ออกมาคัดค้าน ต่อต้าน ขอให้ดูตัวละครที่ออกมาให้การสนับสนุน ส่งเสริม แต่ละใบหน้า แต่ละน้ำเสียงล้วนสัมพันธ์และแยกไม่ออก

นี่คือผลผลิตและแรงสะเทือนอันตกกระทบมาตั้งแต่ห้วงก่อนรัฐประหาร 2 ครั้งที่ต่อเนื่องมา

นั่นก็คือ รัฐประหาร 2549 และรัฐประหาร 2557

หากไม่เป็นคนในแวดวงพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยก็ต้องเป็นคนในแวดวงไทยรักไทยหรืออนาคตใหม่

หากไม่เคยร่วมเคลื่อนไหวไปกับมวลมหาประชาชนของ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ก็ล้วนได้รับผลสะเทือนมาจากพันธมิตรประชาชน 

และต่อเนื่องมาถึง”เยาวชนปลดแอก”กระทั่ง”ทะลุแก๊ซ”

 

จึงเด่นชัดเป็นอย่างยิ่งว่า บรรดาความขัดแย้ง  แตกแยกในทางความ คิดที่สะสมมาตลอด 1 ทศวรรษแห่งความสิ้นหวังล้วนปะทุและระเบิดขึ้นในยุค พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา

ไม่ว่าวงการ “คนเขียนหนังสือ” ไม่ว่าวงการ”สาธารณสุข”

ยิ่งเมื่อแตะเข้าไปในพื้นที่ในทาง”ศาสนา”ก็หนีไม่พ้นไปจากพระ ของคนรุ่นใหม่และสายตาที่มองมาจากความคร่ำครึ พลันที่เห็นยอดฟอลโลเวอร์หลักแสนเรือนล้านในโซเชียลมีเดีย

ทั้งหมดล้วนเป็น”ปฏิกิริยา”จากการปักธงในทาง”ความคิด”