Havana Syndrome โรคลึก (สาย) ลับ/บทความพิเศษ

บทความพิเศษ

จักรกฤษณ์ สิริริน

 

Havana Syndrome

โรคลึก (สาย) ลับ

 

ไม่น่าเชื่อว่า เหตุการณ์เล็กๆ ที่เกิดขึ้นในกรุง Havana ประเทศคิวบา เมื่อปี ค.ศ.2016 ได้กลายเป็นปริศนาใหญ่โต ทั้งในทางการแพทย์ ทั้งในทางการทูต และโดยเฉพาะอย่างยิ่งวงการสายลับในปัจจุบัน

มันเป็นช่วงปลายปี ค.ศ.2016 จู่ๆ เจ้าหน้าที่สถานทูตสหรัฐกว่า 20 คน มีอาการแปรปรวนลึกลับ อาทิ หูอื้อผิดปกติ ปวดหัวกะทันหัน วิงเวียนศีรษะรุนแรง บ้านหมุน ไปจนกระทั่งปัญหาเกี่ยวกับความจำ!

หลังจากเหตุการณ์ดังกล่าวที่เกิดขึ้นในสถานทูตสหรัฐ กรุง Havana ประเทศคิวบา สถานทูตแคนาดาในกรุง Havana ก็ประสบเหตุเช่นเดียวกัน ตามมาด้วยสถานทูตสหรัฐ กรุง Vienna ประเทศออสเตรีย

National Academies of Sciences (สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์แห่งชาติ) ชี้ว่า อาการดังกล่าว เป็นผลมาจากการที่ร่างกายได้รับคลื่นวิทยุความถี่สูง แบบที่สหภาพโซเวียตเคยใช้ในยุคสงครามเย็นเมื่อ 50 ปีก่อน

เป็นที่ทราบกันดีว่าคลื่นวิทยุความถี่สูง สามารถสร้างโพรงอากาศที่หูชั้นในทำให้เกิดฟองในหลอดเลือด และเนื่องจากหูชั้นในเชื่อมต่อกับสมอง ฟองอากาศเหล่านั้นจึงสามารถเล็ดลอดเข้าไปในสมองได้ในที่สุด

อีกประเด็นหนึ่งซึ่งน่าสนใจก็คือ หากเป็นการสั่นสะเทือนแบบไมโครเวฟที่ทำให้โมเลกุลภายในเซลล์และเนื้อเยื่อของร่างกายสั่นอย่างรวดเร็ว ส่งผลให้เกิดความเสียหายต่อโครงสร้างระบบประสาทในที่สุดเช่นกัน

โรคลึก (สาย) ลับ ดังกล่าว ถูกขนานนามว่า Havana Syndrome เนื่องจากเหตุการณ์รุนแรงที่เกิดขึ้นกับนักการทูตสหรัฐ และแคนาดา เกิดขึ้นในกรุง Havana ประเทศคิวบา ซึ่งคาดการณ์ว่าเกิดจากคลื่นไมโครเวฟ

ที่นอกจากหูอื้อผิดปกติ ปวดหัวกะทันหัน วิงเวียนศีรษะรุนแรง บ้านหมุน ไปจนกระทั่งปัญหาเกี่ยวกับความจำแล้ว เจ้าหน้าที่การทูตยังพบปัญหาเกี่ยวกับการนอน เลือดกำเดาไหล หลังจากได้ยินเสียงแหลมสูงประหลาดๆ

นักการทูตแคนาดารายหนึ่งระบุว่า เสียงแหลมสูงที่ได้ยินจากสนามหลังบ้าน ทำให้เธอรู้สึกป่วยขึ้นมาฉับพลัน และมีอาการปวดหัว ส่วนลูกสาววัย 10 ขวบก็มีเลือดกำเดาไหลอย่างรุนแรง และปวดหัวจนต้องหยุดเรียน

นักการทูตแคนาดารายดังกล่าวเล่าต่อไปว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเป็น “การโจมตีอย่างจงใจ” ซึ่งเกิดขึ้นขณะที่เธอประจำการในกรุง Havana ประเทศคิวบา เมื่อปี ค.ศ.2017 คาดว่าอาจทำให้เกิดการบาดเจ็บที่สมอง

 

นักสัตววิทยา นักกีฎวิทยา และนักชีววิทยา ในสหรัฐอเมริกา และสหราชอาณาจักร เคยวิเคราะห์เอาไว้ถึงการคาดการณ์ว่า เสียงที่นักการทูตหลายประเทศได้ยินนั้น คล้ายกันมากกับเสียงจิ้งหรีดชนิดหนึ่ง

ซึ่งมีชื่อว่า Indies Short-tailed Cricket ชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Anurogryllus Celerinictus มีความถี่เสียง 7 MHz ซึ่งถูกส่งออกมาในอัตราสูงกว่าปกติ ทำให้มนุษย์ได้ยินเสียงกรีดร้องแหลมๆ ประหลาดๆ

ที่ผ่านมา ทำเนียบขาวมักอ้างว่า Havana Syndrome เกิดขึ้นเพราะคิวบา พยายามก่อการโจมตีโดยไม่ระบุเป้าหมาย ทำให้รัฐบาลสหรัฐได้ตัดสินใจลดจำนวนเจ้าหน้าที่สถานทูตคิวบาลงเพื่อตอบสนองต่อเหตุการณ์

โดยเฉพาะอย่างยิ่ง มีรายงานว่า ผู้แทนการทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศจีนเริ่มพบปัญหาทางสุขภาพคล้ายคลึงกับ Havana Syndrome โดยเฉพาะเจ้าหน้าที่ CIA ที่ปฏิบัติหน้าที่ลับๆ ในประเทศอื่นๆ

แม้ดูเหมือนแทบจะเป็นไปไม่ได้ ว่า โรคลึก (สาย) ลับ อย่าง Havana Syndrome นั้นเกิดจากการยิงคลื่นไมโครเวฟแรงสูงผ่านเครื่องยิงชนิดพกพา ซึ่งเป็นเทคโนโลยีขั้นสูง แต่แหล่งข่าวหลายแห่งก็เชื่อว่ามีมูล

 

การโจมตีที่ยังไม่สามารถอธิบายที่มาและสาเหตุได้นั้น เริ่มพบครั้งแรก ที่สถานทูตอเมริกัน และแคนาดาในคิวบา ก่อนจะเกิดขึ้นอีกที่ออสเตรีย รวมถึงจีน รัสเซีย รวมทั้งเหตุการณ์หนึ่งที่เกิดขึ้นในสหรัฐด้วย

นักวิทยาศาสตร์ระบุว่า การโจมตีที่ทำให้เกิด Havana Syndrome ดังกล่าวนี้ เกิดจากคลื่นไมโครเวฟอย่างแน่นอน ขณะที่ผู้เชี่ยวชาญบางคนเชื่อว่ารัสเซียอยู่เบื้องหลังเรื่องนี้ และบางคนก็เชื่อว่าเป็นคิวบา

โดยเฉพาะอย่างยิ่ง หนังสือของ Robert W. Baloh และ Robert E. Bartholomew ชื่อปกว่า Havana Syndrome: Mass Psychogenic Illness and the Real Story Behind the Embassy Mystery and Hysteria

หนังสือ Havana Syndrome เล่มนี้ เป็นเรื่องราวที่ฉายภาพโดย “นักสืบวิทยาศาสตร์” โดยเฉพาะอย่างยิ่ง กรณีศึกษาของ Havana Syndrome ที่นอกจากจะสร้างความเสียหายต่อสมองแล้ว ยังพบอาการทางจิตเวชอีกด้วย

เนื้อหาของหนังสือ กล่าวถึงโรคประหลาดอันน่าสับสนที่เกี่ยวข้องกับความเสียหายของสมอง เป็นอาการเจ็บป่วยโดยไม่มีคำอธิบาย Unexplained Health Incidents (UHI) ที่หลายคนเชื่อว่ามีสาเหตุมาจากคลื่นไมโครเวฟ

 

หนังสือ Havana Syndrome ของ Baloh และ Bartholomew มีทั้งสิ้น 11 บท ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นการนำเสนอข้อมูลเชิงลึกโดยนักประสาทวิทยาชั้นนำของโลก ร่วมกับผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวกับความเจ็บป่วยทางจิต

โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การพาผู้อ่านย้อนกลับไปสำรวจเหตุการณ์ในประวัติศาสตร์ศตวรรษที่ 18 ซึ่งเคยมีสถานการณ์ที่คล้ายคลึงกับที่เกิดขึ้นในกรณีของ Havana Syndrome ซึ่งกำลังเป็นที่กล่าวขวัญถึงในปัจจุบัน

นั่นคือความเชื่อประหลาด ในศตวรรษที่ 18 ที่มีข่าวลือหนาหูว่า มีเหตุการณ์ที่ชวนพิศวง จากเสียงเครื่องดนตรีบางชนิด เป็นอันตรายต่อสุขภาพของมนุษย์ โดยอาการคล้ายคลึงกับ Havana Syndrome อยู่หลายประการ

โดยเฉพาะอย่างยิ่ง กรณี “โทรศัพท์ช็อก” ในศตวรรษที่ 19 ที่ได้สร้างความตื่นตระหนกเป็นอย่างมาก เมื่อ “คลื่นเสียงจากโทรศัพท์” ทำอันตรายให้แก่ผู้รับสายหลายรายที่เชื่อกันว่า เชื่อมโยงกับปัญหาด้านสุขภาพ

โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ประวัติศาสตร์วิทยาศาสตร์ในศตวรรษที่ 20 ที่มีการทดลองผสมพันธุ์จิ้งหรีดชนิดหนึ่ง ซึ่งมีชื่อว่า Indies Short-tailed Cricket (ชื่อวิทยาศาสตร์ Anurogryllus Celerinictus)

 

อย่างไรก็ดี ในปี ค.ศ.2018 วารสาร JAMA (The Journal of the American Medical Association) ได้ตีพิมพ์บทความที่ชี้ว่า อาวุธคลื่นไมโครเวฟเป็น “ผู้ต้องสงสัยหมายเลขหนึ่ง” ของผู้ป่วย Havana Syndrome

ต่อมา ในปี ค.ศ.2020 ปรากฏรายงานผลการศึกษาโดยคณะผู้เชี่ยวชาญจากสถาบันวิทยาศาสตร์ วิศวกรรมศาสตร์ และแพทยศาสตร์แห่งชาติของสหรัฐ ได้เปิดเผยรายงานสรุปว่า มีการปล่อยคลื่นไมโครเวฟจริง

โดยเป็นลักษณะของการปล่อยคลื่นไมโครเวฟ “ที่มีการกำหนด” (Directed Microwave Radiation) หรือ “การเจาะจงยิงคลื่นไมโครเวฟเข้าสู่เป้าหมายที่ต้องการ” นั้น มีความเป็นไปได้มากที่สุดในกรณีของทูตในคิวบา

ขณะเดียวกัน นิตยสาร The New Yorker ได้ระบุว่า นับตั้งแต่ประธานาธิบดี Joe Biden เข้ารับตำแหน่ง มีนักการทูต และเจ้าหน้าที่ข่าวกรองอเมริกัน ได้พากันล้มป่วยด้วยอาการ Havana Syndrome เป็นจำนวนมาก

ขณะที่แหล่งข่าวบางสำนักพยายามอธิบายว่า Havana Syndrome เกิดจาก “อาวุธลับ Sonics” หรือ Cuba Acoustic Attack หรือ “เหตุการณ์ลึกลับ” ที่เกิดขึ้นจาก “การโจมตีด้วยคลื่นเสียงที่คิวบา”

โดยเมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา สมาชิกวุฒิสภาสหรัฐรายหนึ่งได้กล่าวว่า รัฐบาลสหรัฐกำลังสืบสวนเหตุการณ์ลึกลับที่เชื่อว่าเป็นการโจมตีจากศัตรูต่างชาติ ทำให้เจ้าหน้าที่การทูตอเมริกันล้มป่วยอย่างประหลาด

และล่าสุด ทางกระทรวงต่างประเทศออสเตรียได้ออกมาระบุว่า ขณะนี้กำลังทำงานร่วมกับเจ้าหน้าที่กระทรวงต่างประเทศสหรัฐ เพื่อตรวจสอบเหตุการณ์ประหลาดที่นำไปสู่ Havana Syndrome

ขณะที่โฆษกสหรัฐเผยว่า ขณะนี้เจ้าหน้าที่ทุกคนได้รับการรักษา Havana Syndrome แล้ว และได้รับการดูแลจากทางการเป็นอย่างดี และกำลังมีการจัดตั้งคณะผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์เพื่อจัดการกับปัญหานี้

อย่างไรก็ดี มีรายงานว่า พบเจ้าหน้าที่ทำเนียบขาว มีอาการ Havana Syndrome ขณะพาสุนัขไปเดินเล่น หลังจากได้ยินเสียงดัง ศีรษะของเธอเริ่มปวด หน้าชา และมีรายงานว่าสุนัขของเธอมีอาการชักรุนแรง