อาชญา ข่าวสด

 

นาทีจับบังหลีฆ่าแหม่ม

สยองภูเก็ตแซนด์บอกซ์

‘บิ๊กปั๊ด’ บินนำทีมลุยล่า

สั่ง 2 มาตรการฟื้นเชื่อมั่น

 

เป็นคดีสะเทือนขวัญที่มีผลกระทบรุนแรงที่สุดคดีหนึ่ง สำหรับเหตุฆาตกรรมนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เข้ามาท่องเที่ยวในโครงการภูเก็ตแซนด์บอกซ์

พื้นที่จัดพิเศษตามนโยบายของรัฐบาลเพื่อหวังการฟื้นตัวเรื่องธุรกิจการท่องเที่ยว ในช่วงสถานการณ์โควิดระบาด จนกระทบต่อเศรษฐกิจแทบทุกภาคส่วนของประเทศ

ทั้งที่ผ่านการวางแผนมาอย่างยาวนาน ทั้งเรื่องการฉีดวัคซีนโควิด การควบคุมโรคและดูแลเรื่องความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน

แม้ว่าหลังเริ่มโครงการจะมีเสียงสะท้อนในเชิงลบอยู่บ้าง ในเรื่องการเอารัดเอาเปรียบ เรื่องค่าบริการ ซึ่งก็ผ่านการปรับปรุงแก้ไขให้เกิดความเหมาะสม

จนกระทั่งคดีร้ายแรง การฆาตกรรมนักท่องเที่ยว

เป็นเหตุให้ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร.ต้องบินด่วนไปบัญชาการด้วยตัวเอง ไล่ล่าคนร้ายปิดคดี และในที่สุดก็สามารถจับกุมผู้ต้องหาได้อย่างรวดเร็ว

ปิดคดีฆาตกรรม แต่ยังมีโจทย์เรื่องรื้อฟื้นความเชื่อมั่นว่าแหล่งท่องเที่ยวในประเทศไทยมีความปลอดภัย

จะสำเร็จมากน้อยเพียงใดต้องติดตาม!??

ฆ่าแหม่มสยองแซนด์บอกซ์

เหตุการณ์นี้ถูกเปิดเผยขึ้นเมื่อช่วงบ่ายวันที่ 5 สิงหาคมที่ผ่านมา โดย ร.ต.ท.วุฒิชัย จันทร์ใฝ รองสารวัตรสอบสวน สภ.วิชิต รับแจ้งเหตุจากพลเมืองดี พบเห็นหญิงสาวนอนเสียชีวิตที่บริเวณน้ำตกโตนอ่าวยน อ.เมือง จ.ภูเก็ต จึงประสานเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบ

ที่เกิดเหตุ เป็นแอ่งน้ำบริเวณน้ำตกโตน อ่าวยน ห่างจากทางเข้าน้ำตก ตามเส้นทางเดินเท้าขึ้นน้ำตกประมาณ 1 กิโลเมตร พบร่างหญิงสาวนอนคว่ำหน้าบริเวณซอกโขดหิน ถูกปกปิดด้วยผ้าใบสีดำ ปลายเท้าโผล่เหนือน้ำ เมื่อเปิดผ้าคลุมออกพบว่า เป็นหญิงสาวชาวต่างชาติ สภาพร่างกายท่อนล่างเปลือยเปล่า สวมเสื้อแจ๊กเก็ต ด้านในสวมเสื้อยืดสีชมพู สภาพขึ้นอืด คาดว่าเสียชีวิตมาแล้วไม่น้อยกว่า 3 วัน

ต่อมาทราบชื่อ นิโกล โซแวง ไวสส์คอปฟ์ ชาวสวิตเซอร์แลนด์ อายุ 57 ปี ค้นในตัวพบนามบัตรอยู่ในกระเป๋า เป็นภาษาฝรั่งเศส ที่คอพบสร้อยคอ พร้อมเหรียญคล้ายเงิน ตรวจสอบตามร่างกายพบมีรอยสักนกที่เอว ใกล้กันพบกางเกงยีนส์ขาสั้น และกางเกงชั้นใน ถัดไปพบรองเท้าผ้าใบไนกี้สีเทาดำคาดชมพู ตกอยู่ใกล้กับบริเวณโขดหิน และโทรศัพท์มือถือ 1 เครื่อง

ทั้งนี้ ผู้ตายเป็นนักท่องเที่ยวที่เข้ามาเที่ยวภูเก็ตตามโครงการภูเก็ตแซนด์บอกซ์ โดยเดินทางเข้ามายังประเทศไทยวันที่ 13 กรกฎาคม 2564 ผ่านตรวจคนเข้าเมือง ท่าอากาศยานภูเก็ต

ถือเป็นคดีสะเทือนขวัญที่สร้างความแตกตื่น กลายเป็นข่าวอื้อฉาวไปทั่วโลก และกระทบกับโครงการภูเก็ตแซนด์บอกซ์ ที่เปิดให้นักท่องเที่ยวเข้ามาอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

เป็นเหตุให้ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. ต้องบินด่วนไปยัง จ.ภูเก็ต เพื่อสั่งการในแผนไล่ล่าตัวคนร้ายให้ได้โดยเร็ว

โดย พล.ต.อ.สุวัฒน์สั่งตั้ง ศปก.ส่วนหน้าขึ้นที่ สภ.วิชิต ให้ทำงานต่อเนื่อง 24 ชั่วโมง จนกว่าจะจับกุมคนร้ายได้ โดยตั้ง 3 ทีม ประกอบด้วย ทีมตรวจสอบไทม์ไลน์ของผู้เสียชีวิต ทีมตรวจสอบสภาพแวดล้อมในบริเวณที่เกิดเหตุและพื้นที่ใกล้เคียง และทีมสอบสวนหาพยานบุคคลและพยานหลักฐานอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องทั้งหมด

จนทราบไทมไลน์ว่า น.ส.นิโกลเดินทางมา จ.ภูเก็ต ด้วยสายการบินเที่ยวบินที่เอสคิว 0726 วันที่ 13 กรกฎาคม เข้าพักที่โรงแรมดุสิตธานี ลากูน่า ภูเก็ต มีกำหนดถึงวันที่ 27 กรกฎาคม

ช่วงเวลาที่เข้าพัก ผู้ตายร่วมออกกิจกรรมโยคะกับพนักงาน รับประทานอาหารเช้า และนอนพักที่โรงแรมทุกคืน ต่อมาวันที่ 25 กรกฎาคม เดินทางไปโรงพยาบาลกรุงเทพภูเก็ต และวันที่ 27 กรกฎาคม เช็กเอาต์ออกจากโรงแรม และไปเข้าพักที่โรงแรมเดอะ มอริ่ง รีสอร์ต ต.วิชิต มีกำหนดถึงวันที่ 7 สิงหาคม

ต่อมาวันที่ 3 สิงหาคม เวลา 11.25 น. ผู้ตายออกจากโรงแรมไปท่องเที่ยวน้ำตกโตนอ่าวยน ก่อนหายตัวไป จนกระทั่งวันที่ 5 สิงหาคม เวลาประมาณ 14.00 น. ตำรวจรับแจ้งพบศพ

ทั้งนี้ น้ำตกโตนอ่าวยนนั้นไม่ค่อยมีนักท่องเที่ยวขึ้นไปเที่ยว นอกจากเป็นผู้ชำนาญในพื้นที่ เพราะเป็นสถานที่เปลี่ยวและขึ้นลงลำบาก โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจเร่งตรวจสอบหลักฐาน ตรวจสอบกล้องวงจรปิด

หาตัวคนร้ายให้ได้โดยไว

จับทันควัน-วงจรปิดชัด

ด้วยการทำงานที่จริงจังในที่สุดก็ได้ผล วันที่ 7 สิงหาคม เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดคลี่คลายคดี ก็เข้าล็อกตัวผู้ต้องสงสัย ซึ่งก็คือ นายธีรวัฒน์ ท่อทิพย์ อายุ 27 ปี หรือบังหลี บ้านเลขที่ 11/7 ชาวบ้านหมู่ 3 ต.ป่าคลอก อ.ถลาง จ.ภูเก็ต อาชีพรับจ้างใช้แรงงานทั่วไป

โดยมีหลักฐานสำคัญ คือภาพจากกล้องวงจรปิดในเส้นทางที่เกิดเหตุ ขณะที่เจ้าตัวอยู่บริเวณใกล้เคียง จึงเข้าจับกุมเพื่อเก็บหลักฐานให้แพทย์นิติเวช โรงพยาบาลวชิระภูเก็ต พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานเก็บสารพันธุกรรม เทียบเคียงกับหลักฐานที่พบในที่เกิดเหตุ นอกจากนี้ พบรอยแผลจากการต่อสู้ตามร่างกายหลายแห่ง

เบื้องต้นพบประวัติยาเสพติด โดยนายธีรวัฒน์ให้การสารภาพว่าวันเกิดเหตุออกหาของป่าและกล้วยด่างเพื่อนำมาขาย ระหว่างนั้นเจอแหม่มสาวนั่งเล่นน้ำอยู่ที่โขดหินบริเวณน้ำตกเพียงลำพัง จึงเกิดอารมณ์ชั่ววูบหวังชิงทรัพย์และข่มขืน ใช้แขนรัดคอจนนักท่องเที่ยวหมดสติจมลงในน้ำเสียชีวิตในที่เกิดเหตุ จากนั้นถอดกางเกงผู้เสียชีวิตออกเพื่อข่มขืน แต่เกิดเปลี่ยนใจทิ้งศพไว้ในที่เกิดเหตุแล้วหลบหนี

พล.ต.ต.นันทเดช ย้อยนวล รอง ผบช.ภาค 8 กล่าวว่า จากการตรวจสอบกล้องวงจรปิดพบชายไทยไม่ทราบชื่อ สวมเสื้อสีดำ กางเกงขาสั้น ใส่แว่นกันแดด ขับขี่รถจักรยานยนต์สีแดงขึ้นไปบนน้ำตกก่อนผู้เสียชีวิตจะขึ้นไป และกลับลงมาหลังจากผู้เสียชีวิตขึ้นไป 1 ชั่วโมง 17 นาที 13 วินาที ร่วมอยู่ในน้ำตกเป็นเวลา 2 ชั่วโมง 39 นาที 14 วินาที

จากการสืบสวนทราบว่ารถจักรยานยนต์ทะเบียน ขมข 493 ภูเก็ต ยี่ห้อฮอนด้า สีแดง มีนายธีรวัฒน์ ท่อทิพย์ เป็นผู้ขับขี่ มีที่พักอยู่ในบริเวณใกล้เคียงกับที่เกิดเหตุ จึงเชิญตัวมาซักถาม ให้การรับว่าเป็นบุคคลที่ปรากฏอยู่ในภาพวงจรปิด เมื่อตรวจสอบร่างกายพบร่องรอยบาดแผลที่เพิ่งเกิดหลายแห่ง ซักถาม พบพิรุธต้องสงสัยให้ถ้อยคำไม่สอดคล้องกับข้อเท็จจริงหลายประการ และให้การรับสารภาพในเวลาต่อมาว่าเป็นผู้ลงมือฆ่าด้วยตนเอง

ระบุว่าหลังจากเดินขึ้นไปชั้นบนของน้ำตก เมื่อเดินลงกลับมาพบผู้เสียชีวิตนั่งอยู่บริเวณโขดหิน แอบดูอยู่สักครู่แล้วเดินเข้าไปบริเวณด้านหลัง ใช้มือทั้งสองข้างล็อกคอ ผู้เสียชีวิตต่อสู้และดิ้นรนแล้วตกลงไปบริเวณแอ่งน้ำด้วยกันจนผู้เสียชีวิตแน่นิ่ง

จากนั้นจับผู้เสียชีวิตคว่ำหน้า ใช้พลาสติกสีเข้มที่อยู่ในบริเวณนั้น คลุมปิดศพไว้ ใช้ก้อนหินทับไว้อีกชั้นหนึ่งเพื่อไม่ให้ผู้ใดพบเห็น นำกระเป๋าเป้ผู้ตายไปซ่อนหลังต้นไม้ ส่วนรองเท้าโยนทิ้ง จากนั้นขับขี่รถจักรยานยนต์หลบหนี

ทั้งนี้ รื้อค้นกระเป๋าเป้นำเงิน 300 บาท ใช้เงินที่ขโมยมาแวะซื้อน้ำส้ม 30 บาท น้ำแข็ง 10 บาท ไปแวะที่ขนำของเพื่อนและเจอเพื่อนฝูง โดยใช้เงินที่เหลืออีก 260 บาทไปซื้อกัญชาและบุหรี่มาเสพ

ยืนยันไม่ใช่การจับแพะแน่นอน

วาง 2 มาตรการ-ฟื้นเชื่อมั่น

สําหรับมาตรการป้องกันหลังจากนี้ พล.ต.อ.สุวัฒน์ระบุว่า กำหนด 2 มาตรการเร่งด่วน คือ

1. เร่งสำรวจสถานที่ท่องเที่ยว หากพบว่าสถานที่ท่องเที่ยวแห่งใดไม่เป็นที่นิยม และยากต่อการดูแล หรือเป็นจุดอับที่ไม่มีกำลังเจ้าหน้าที่ไปดูแลเพียงพอ เช่น บริเวณน้ำตกโตนอ่าวยน ก็ควรจะปิด พร้อมทั้งสำรวจข้อมูลแหล่งท่องเที่ยว ที่เข้าหลักเกณฑ์ หากเปิดได้จะประชาสัมพันธ์ไปยังกลุ่มนักท่องเที่ยว โดยใช้สื่อของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยอีกช่องทางหนึ่ง

2. ยกระดับมาตรการความเข้มเดินทางเข้าพื้นที่จังหวัดภูเก็ต โดยตั้งเป้าว่า 1 สัปดาห์จากนี้ ภูเก็ตจะปรับมาตรการในการคุมคนเข้า-ออกจังหวัดภูเก็ตโดยเฉพาะบริเวณด่านตรวจท่าฉัตรไชย ทั้งคนไทยและชาวต่างชาติจะต้องถูกตรวจสอบทุกคน ในกลุ่มของคนไทยที่จะต้องตรวจสอบทุกคน อาจจะส่งผลให้ประชาชนไม่ได้รับความสะดวก อาจก่อให้เกิดความรู้สึกว่าถูกละเมิดสิทธิ์ แต่จำเป็นต้องเข้มข้นในช่วงระยะเวลานี้จากนั้นจะมีการประเมินสถานการณ์อีกครั้ง

ขณะที่นายณรงค์ วุ่นซิ้ว ผู้ว่าฯ ภูเก็ต จัดกิจกรรม “In remembrance of MRS. NICOLE SAUVAIN WEISSKOPF” เพื่อแสดงความอาลัยและเสียใจอย่างสุดซึ้งที่นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ พร้อมระบุว่า พวกเราทุกคนมารวมตัวกัน เพื่อร่วมรำลึกถึงคุณนิโกล ณ ที่ชายหาดแห่งนี้ เพราะเราทราบว่า คุณนิโกลรักทะเล รักชายหาด และเห็นเกาะภูเก็ตเป็นเหมือนบ้านหลังที่สอง ในฐานะตัวแทนของประชาชนชาวภูเก็ต ขอแสดงความอาลัยและเสียใจอย่างสุดซึ้งไปยังครอบครัว ญาติ พี่น้อง และเพื่อนฝูงของคุณนิโกล สำหรับการสูญเสียที่ยิ่งใหญ่ดังกล่าว

เป็นความสูญเสียที่ส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ประเทศไทย ที่ต้องเร่งฟื้นความเชื่อมั่นโดยเร็ว