วิเคราะห์ : เมืองในหมอก (แก๊สน้ำตา) สกัด ‘แกนนำ’ – คืนสู่คุก ‘คาร์ม็อบ’ เครื่องไม่ดับ ลุยต่อ?

เป็นเดือนสิงหาคมแห่งความร้อนแรง

สืบเนื่องจากการชุมนุมทางการเมืองของประชาชนหลากหลายกลุ่มภายใต้จุดร่วมหลักขับไล่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา

กิจกรรม “คาร์ม็อบ” ออกแบบโดยนายสมบัติ บุญงามอนงค์ หรือ บก.ลายจุด ถูกนำมาใช้เป็นโมเดลเคลื่อนไหว

ไล่เรียงไทม์ไลน์ #ม็อบ1สิงหา ผู้ชุมนุม 3 กลุ่ม ประกอบด้วย กลุ่มนายสมบัติ บุญงามอนงค์ นัดรวมตัวริมถนนวิภาวดี-รังสิต ภายใต้ชื่อกิจกรรม “ถนนทุกสายมุ่งสู่กรุงโรม” มีรถเข้าร่วมกว่า 1 พันคัน

กลุ่มแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม นำโดยนายพริษฐ์ ชิวารักษ์ หรือเพนกวิน และกลุ่มทะลุฟ้า นำโดยนายจตุภัทร์ บุญภัทรรักษา หรือไผ่ ดาวดิน นัดทำกิจกรรมบริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย

กลุ่มเครือข่ายไล่ประยุทธ์ หรือ อ.ห.ต. นำโดยนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ นัดหมายแยกราชประสงค์

แม้ บก.ลายจุด จะเน้นย้ำสันติวิธี “ไม่เอาปะทะ ไม่เอาวุ่นวาย” และไม่มีแผนจอดเยี่ยมบ้าน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ภายใน ร.1 รอ.

แต่สิ่งที่อยู่นอกแผนในวันนั้นคือเหตุปะทะระหว่างกลุ่ม 2 ล้อเพื่อประชาธิปไตยที่เข้าร่วมขบวนคาร์ม็อบ กับกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ บริเวณหน้าโรงพยาบาลทหารผ่านศึก ถนนวิภาวดี

แก๊สน้ำตาและกระสุนยางถูกยิงเข้าใส่แบบไม่ยั้ง สกัดกั้นไม่ให้เคลื่อนขบวนไปยังบ้าน พล.อ.ประยุทธ์

ถนนเส้นหลักของเมืองหลวง ปกคลุมไปด้วยหมอกควันแก๊สน้ำตา

เติมเชื้อไฟความโกรธแค้นต่อรัฐบาลประยุทธ์ให้โหมแรง

กล่าวได้ว่าเหตุการณ์วันนั้นคือจุดเริ่มสัญญาณความรุนแรง ระหว่างตำรวจกับกลุ่มผู้ชุมนุม

ที่ในเวลาต่อมาได้เกิดเหตุการณ์ในลักษณะเดียวกันอีกหลายครั้ง

3 สิงหาคม 2564 กิจกรรม “เสกคาถาผู้พิทักษ์ ปกป้องประชาชน” จัดขึ้นบริเวณลานหน้าหอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร

โดยกลุ่มทนายอานนท์ นำภา 1 ในแกนนำราษฎร เนื่องในโอกาสครบ 1 ปี “เสกคาคา ปกป้องประชาธิปไตย” หรือม็อบแฮร์รี่ พอตเตอร์ ครั้งแรกเมื่อวันที่ 3 สิงหาคม 2563

ตอกย้ำจุดยืนขับไล่ พล.อ.ประยุทธ์แบบทะลุเพดาน

ต่อเนื่อง 7 สิงหาคม กลุ่มเยาวชนปลดแอก ประกาศผ่านโซเชียลออนไลน์นัดระดมพลเคลื่อนขบวนไปยังเป้าหมายสถานที่สำคัญ

ทำให้เริ่มเห็นสัญญาณจากฝั่งตำรวจ ที่พร้อมลุยจัดม็อบทุกกลุ่มที่ออกมาเคลื่อนไหวในช่วงนี้ด้วยยุทธวิธีขั้นเด็ดขาด

ก่อนถึงวันชุมนุม 7 สิงหาคม มีการแฉคลิปเสียงจากที่ประชุมนายตำรวจใหญ่ รายละเอียดเป็นการหารือวางแผนและวางกลยุทธ์จัดการกับกลุ่มผู้ชุมนุม

สรุปได้ว่า สั่งการให้ทุกโรงพักเตรียมสำนวนไว้เอาผิดม็อบ ทั้งความผิดตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉิน และกฎหมายอาญา มาตรา 112, 113 และ 116

ล็อกเป้าแกนนำทุกกลุ่ม หากใครมีหมายจับหรือพบการกระทำผิดซ้ำให้พร้อมจับกุมทันที

การตระเตรียมรับมือทั้งด้านกฎหมาย ยุทธวิธีและกำลังพลอย่างเฉียบขาด สะท้อนถึงความหวั่นไหวของฝ่ายอำนาจต่อการชุมนุม

7 สิงหาคม ตำรวจเปิดปฏิบัติการไล่จับกุมผู้ชุมนุมบริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย

ทำให้กลุ่มผู้ชุมนุมประกาศย้ายจุดไปยังทำเนียบรัฐบาล และอีกครั้งไปยังอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ เพื่อตั้งหลักเคลื่อนขบวนไปยังบ้านพัก พล.อ.ประยุทธ์ที่ ร.1 รอ. จนเกิดการเผชิญหน้ากับกำลังเจ้าหน้าที่บริเวณแยกดินแดง

ตำรวจ คฝ.ไม่รีรอในการใช้กระสุนยางและแก๊สน้ำตายิงใส่ผู้ชุมนุมทันที ส่งผลให้แยกสามเหลี่ยมดินแดง ไม่ต่างจากเมืองในหมอก ฟุ้งตลบด้วยควันจากแก๊สน้ำตา และเสียงจากปืนยิงกระสุนยางที่ดังต่อเนื่องนานนับชั่วโมง

#ม็อบ7สิงหาฯ ลงเอยด้วยการที่ตำรวจจับกุมผู้ชุมนุม 14 คน ดำเนินคดี 6 คดี บางคนโดนข้อหาอั้งยี่ซ่องโจร

ถามว่าม็อบเข็ดหลาบหรือไม่ เมื่อต้องเผชิญกับความรุนแรงจากฝั่งเจ้าหน้าที่ตำรวจ

การปรากฏขึ้นในทันทีทันใดของคาร์ม็อบ 8 สิงหาคม สลิ่มกลับใจ นำโดยนายธนัตถ์ ธนากิจอำนวย หรือไฮโซลูกนัท อดีตแนวร่วมกลุ่ม กปปส. และการนัดหมายของกลุ่มแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม วันที่ 10 สิงหาคม

คือคำตอบอย่างดี

ต่อ #ม็อบ10สิงหาฯ ตำรวจใช้แผนไล่เช็กบิลแกนนำก่อนถึงวันชุมนุม

นายอานนท์ นำภา ถูกดำเนินคดีตามมาตรา 112 และข้อหาฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉิน จากกรณีม็อบ “เสกคาถาผู้พิทักษ์ ปกป้องประชาชน” วันที่ 3 สิงหาคม ไม่ได้รับการประกันตัวในชั้นศาล

เพนกวิน-พริษฐ์ ชิวารักษ์ เข้ามอบตัวคดีสาดสีหน้า บก.ตชด.ภาค 1 พนักงานสอบสวนไม่ให้ประกันตัว ส่งฝากขังศาล ศาลมีคำสั่งถอนประกันปล่อยตัวชั่วคราว ในคดีเดิมเกี่ยวกับความผิดมาตรา 112

นายจตุภัทร์ บุญภัทรรักษา หรือไผ่ ดาวดิน ถูกดำเนินคดีสาดสีใส่ป้าย สน.ทุ่งสองห้อง ไม่ได้รับการประกันตัวและเพิกถอนประกันปล่อยตัวในคดีเก่า

ทั้ง 3 คนถูกส่งตัวกลับเข้าเรือนจำอีกครั้ง

เพนกวินเขียนจดหมายส่งถึงผู้รักประชาธิปไตยและตำรวจ โพสต์ลงในเฟซบุ๊กว่า ขอสาบานจะยืนหยัดต่อสู้จนกว่าประเทศชาติจะเป็นประชาธิปไตยและคนไทยเท่าเทียมกันทุกด้าน

ขอเรียกร้องให้ตำรวจยืนอยู่เคียงข้างประชาชนที่กำลังต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย

ขณะนี้ความล้มเหลวของรัฐบาลปรากฏเป็นที่ประจักษ์ มีผู้ติดเชื้อและเสียชีวิตจากโควิดเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ประเทศเผชิญกับสภาวะเศรษฐกิจตกต่ำ รัฐบาลนี้ใกล้ถึงแก่การล่มสลาย

พร้อมฝากภารกิจต่อสู้เพื่อขับไล่ พล.อ.ประยุทธ์ไว้ในมือพ่อ-แม่พี่น้องทุกคน

เช่นเดียวกับนายอานนท์ นำภา เขียนจดหมายส่งต่อภารกิจ ใจความว่า

“จากสถานการณ์ตอนนี้ พวกเขาเจตนากระตุ้นให้เราโกรธแค้นและใช้ความรุนแรงกับเจ้าหน้าที่ ขอให้พวกเราตั้งสติ รอบคอบ และใช้สันติวิธีให้ถึงที่สุด ดูแลกันและกันให้ปลอดภัยในการต่อสู้ครั้งนี้”

“คุกขังผมได้ คุกก็ขังประยุทธ์กับพวกได้เช่นกัน”

อย่างไรก็ตาม ถึงจะไม่มีอานนท์-เพนกวิน-ไผ่ คาร์ม็อบ 10 สิงหาฯ ยังคงเดินหน้าต่อตามจุดหมายที่วางไว้ คืออาคารซิโน-ไทย และบ้านพัก ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า

ช่วงเย็นหลังแกนนำประกาศยุติการชุมนุม ปรากฏว่าผู้ชุมนุมบางส่วนได้มาเผชิญหน้ากับตำรวจ บริเวณแยกสามเหลี่ยมดินแดงอีกครั้ง เนื่องจากฝ่ายเจ้าหน้าที่ตั้งแถวสกัดไม่ยอมให้เคลื่อนผ่านไปยังบ้านพัก พล.อ.ประยุทธ์

ผลคือทั้งกระสุนยางและแก๊สน้ำตาถูกยิงออกมารัวๆ แต่ก็ต้องแลกกับการที่ป้อมตำรวจถูกเผาจำนวน 2 จุด

วันรุ่งขึ้น ตำรวจนครบาลแถลงจับกุมผู้ต้องหา #ม็อบ10สิงหาฯ จำนวน 48 ราย ยึดรถจักรยานยนต์ 122 คัน

11 สิงหาคม กลุ่มทะลุฟ้า นัดรวมตัวบริเวณอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ประกาศเป้าหมายบ้าน พล.อ.ประยุทธ์ แต่เพียงแค่เริ่มต้นยังไม่ทันตั้งขบวน ก็ถูกเจ้าหน้าที่ใช้กระสุนยางและแก๊สน้ำตาเข้าสลายในทันที

เหตุปะทะรุนแรงยืดเยื้อตั้งแต่เย็นถึงค่ำ

อีกความเคลื่อนไหวต้องจับตา #ม็อบ15สิงหาฯ

นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ โพสต์เฟซบุ๊กถึงการจัด Car Park (คาร์ปาร์ก) วันที่ 15 สิงหาคมนี้ว่า คาร์ปาร์กคือ การต่อยอดยกระดับจากคาร์ม็อบ ที่นายสมบัติ บุญงามอนงค์ หรือ บก.ลายจุด ออกแบบไว้

เชิญชวนประชาชนทุกจังหวัดทั่วประเทศแสดงพลังร่วมกัน ทั้งการเคลื่อนขบวนคาร์ม็อบรูปแบบเดิม เพิ่มเติมการปราศรัยไฮด์ปาร์ก ที่ยกระดับอย่างไม่เคยมีมาก่อนในประเทศไทย มีการแสดงดนตรีจากศิลปินรับเชิญ

พิเศษสุดเปิดโอกาสให้กับผู้เข้าร่วมขบวนคาร์ปาร์กทุกคนทั่วประเทศ

ใครขับรถออกมาแต่งรถสีสันบาดตาฉูดฉาดโดนใจ ถ้าคิดว่าแน่แชร์ลงโซเชียล ใครชูป้ายไม่ว่าบนรถหรือข้างทาง ถ้าข้อความของท่านเด็ดเจ็บจี๊ดจ๊าดโดนใจ คิดว่าแน่แชร์ลงโซเชียล กรรมการของเราจะรวบรวมทั้งประเทศ แล้วก็มอบรางวัล

ต่างจังหวัดกำหนดเส้นทางกันเอง กรุงเทพฯ จะมี 3 เส้นทาง จะเป็นเส้นทางไหน ผ่านถนนเส้นใด จะแจ้งให้ทราบอีกครั้ง

พี่น้องที่ไม่สะดวกขับรถออกมา อยู่แถวละแวกบ้าน สามารถออกมารอคอยที่จุดผ่านทาง แสดงป้าย แสดงสัญลักษณ์ขับไล่ประยุทธ์ไปพร้อมๆ กัน การปราศรัย การแสดงดนตรี จะถ่ายทอดสดผ่านทางเฟซบุ๊กไลฟ์ ยูทูบ คลับเฮาส์ และทุกแพลตฟอร์มออนไลน์ ที่สามารถแพร่ภาพกระจายเสียง

ต่างจังหวัดรับสัญญาณสดจากส่วนกลางก็ได้ หรือจะมีเวทีเฉพาะของตัวเอง มีงานศิลปวัฒนธรรมจะแสดงในการต่อสู้ ถ่ายทอดชมกันเองในพื้นที่ก็ไม่ผิดกติกา

เจอกันที่จุดนัดหมายทั่วประเทศ 14.00 น. เคลื่อนขบวน 15.00 น. ฟังการปราศรัย ฟังเพลง ดูการแสดงกันไป

จนถึง 18.00 น. ขบวนถึงจุดไหนก็ตามเราจะจอดรถพร้อมกัน แล้วกดแตรยาวเท่าความยาวของเพลงชาติ เพื่อส่งสัญญาณขับไล่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา

เสียงขับไล่ประยุทธ์จะสะเทือนเลื่อนลั่นทั้งแผ่นดิน

จากนั้นเป็นอันยุติกิจกรรม แยกย้ายเดินทางกลับ รอนัดหมายยกระดับครั้งถัดไป

นี่ไม่ใช่ภารกิจของสีเสื้อ แต่เป็นการต่อสู้เพื่อเกียรติยศ ศักดิ์ศรีและชีวิตที่ดีกว่าของประชาชน

จากคาร์ม็อบเป็นคาร์ปาร์ก จนกว่า พล.อ.ประยุทธ์จะคาที่

เมื่อไหร่ก็เมื่อนั้น