หลังเลนส์ในดงลึก : สามารถ ลาดตระเวน

ม.ล.ปริญญากร วรวรรณ

30 มิถุนายน พ.ศ.2559

ห้องประชุมใหญ่ข้างสำนักงานเขตทุ่งใหญ่นเรศวรด้านตะวันออก

20:40 นาฬิกา

สายฝนซึ่งตกกระหน่ำมาตั้งแต่ตอนบ่ายเริ่มเบาบางเหลือเพียงละอองเบาบาง ท้องฟ้ามีเมฆดำ สายฟ้าแลบเป็นระยะ

ไยห้องที่โดยปกติใช้เป็นที่เก็บของ และประชุมเจ้าหน้าที่หรือให้คนเข้ามาพักในบางครั้งแน่นขนัดไปด้วยคน ประตูและหน้าต่างที่ปิดมิดชิด เสียงกระหึ่มของดนตรีดังลอดออกมาภายนอกเพียงแว่วๆ

เดิมอาคารหลังนี้เป็นโรงเรียนของหมู่บ้านใหญ่ ที่ชื่อว่า บ้านกะแง่คี

หลังจากอพยพคนออก อาคารนี้จึงใช้เป็นส่วนหนึ่งของสำนักงานเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวรด้านตะวันออก

ท่ามกลางเสียงดนตรี การแย่งไมโครโฟนเพื่อขับร้องเพลงเกิดขึ้น

บรรยากาศดูรื่นเริง แต่คล้ายจะมีความอาลัยแทรกอยู่เบาบาง

วันนี้เจ้าหน้าที่เขตทุ่งใหญ่นเรศวรด้านตะวันออกจัดงานเพื่อเลี้ยงส่งหัวหน้าของพวกเขา

หัวหน้าซึ่งอยู่ที่นี่มาถึง 11 ปี

 

“ผมเชื่อเหมือนกับที่ด๊อกเตอร์อนรรฆ พัฒนวิบูลย์ เชื่อครับว่าถึงวันนี้เราจำเป็นต้องนำวิทยาการมาใช้เพื่องานอนุรักษ์สัตว์ป่าและพื้นที่ธรรมชาติ”

สมปอง ทองสีเข้ม หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวรด้านตะวันออก พูดกับผมบ่อยๆ

ดร.อรนรรฆ ในนามของสมาคมอนุรักษ์สัตว์ป่าร่วมมือกับกรมอุทยานฯ นำระบบลาดตระเวนเชิงคุณภาพ หรือที่เรียกว่า SMART PATRUL มาใช้อย่างจริงจังหลายปีที่ผ่านมา พบว่านี่คือระบบอันเป็นเครื่องมือซึ่งทำให้งานปกป้องดูแลสัตว์ป่าและแหล่งอาศัยได้ผลดีขึ้น

“พื้นที่ซึ่งได้รับการประกาศให้เป็นเขตอนุรักษ์จะเป็นเช่นไร คำตอบสำคัญอยู่ที่คุณภาพของการป้องกัน รักษาดูแลและการจัดการในพื้นที่นะครับ” หน.สมปอง พูดให้ฟัง

“เทคโนโลยีช่วยให้เรารู้มากขึ้น ข้อมูลจากดาวเทียมพิสูจน์ได้ว่าป่ายังเหลืออยู่เท่าไหร่ การบุกรุกแผ้วถางแค่ไหน” หน. พูดต่อ

“แต่สิ่งที่ภาพดาวเทียมบอกเราไม่ได้เลยคือคุณภาพ และรายละเอียดของระบบนิเวศในผืนป่าอยู่ในสถานะใด ภาพดาวเทียมบอกไม่ได้ว่าไม้หอมถูกตัดไปมากเท่าใดในป่าเขาใหญ่ บอกไม่ได้ว่าไม้พะยูงโดนลักลอบตัดไปกี่ต้นในป่าทับลาน หรือ กระทิง เสือ กี่ตัวโดนล่าในป่าห้วยขาแข้ง เหล่านี้อีกมากมาย”

สิ่งเหล่านี้จะเห็นเป็นภาพชัดเมื่อมีการเดินลาดตระเวนอย่างเป็นระบบ โดยเหล่าเจ้าหน้าที่ผู้ได้รับการฝึกฝนมาเป็นอย่างดี

“หลายคนบอกว่าในป่า ปัจจัยคุกคามคล้ายจะไม่ลดลง เห็นมีแต่จะเพิ่มขึ้น” หัวหน้าเล่าต่อ

“จริงๆ เพราะเราเดินกันละเอียดครอบคลุมพื้นที่มากขึ้น ร่องรอยเล็กๆ น้อยๆ ของคนที่ลักลอบเข้าป่า เราตรวจสอบพบไม่ว่าจะเข้ามาเก็บของป่า จับปลา หรือล่าสัตว์ ซึ่งในสมัยก่อนเรามักจะไม่พบเพราะเวลาเดินลาดตระเวนก็เดินไปเรื่อยๆ เสบียงหมดก็กลับ”

สิ่งสำคัญอย่างหนึ่งของงานตระเวนระบบลาดตระเวนเชิงคุณภาพ คือการนำข้อมูลต่างๆ ที่ชุดลาดตระเวนบันทึกมาวิเคราะห์ในห้องประชุม

ชุดลาดตระเวนทุกชุดจะนำข้อมูลมานำเสนอทุกๆ เดือน เพื่อดูว่าบริเวณใดเป็นอย่างไร หรือควรจะเพิ่มความเข้มงวดในบริเวณไหน

“ตัวชี้วัความสำเร็จของการอนุรักษ์ไม่ใช่แค่รักษาป่าให้เหลือเท่านั้นหรอกครับ” หัวหน้าสมปองคุยกับผมถึงเรื่องนี้บ่อยๆ

“ตัวชี้วัดสำคัญคือ สัตว์ป่า ซึ่งคุณค่าของพวกมันไม่สามารถอธิบายได้ชัดเจน เหมือนคุณค่าของป่าไม้ที่ว่าเป็นแหล่งต้นนำ แหล่งผลิตอากาศบริสุทธิ์ รวมทั้งเป็นพื้นฐานของปัจจัยอื่นๆ ที่สำคัญต่อความอยู่รอดของคน แต่ในความเป็นจริงซึ่งมีการศึกษามากมายบอกให้รู้ว่าสัตว์ป่าเป็นผู้ดูแลรักษาระบบนิเวศของป่าไม้ให้สมบูรณ์ เช่น พวกนกเงือกช่วยกระจายเมล็ดพันธุ์ไม้ หมูป่าช่วยพรวนดิน ช้างป่าทำหน้าที่รักษาโครงสร้างป่า และเอื้อให้สัตว์อื่นๆ มีแหล่งหากิน นกและแมลงช่วยผสมเกสร และกระจายเมล็ดพันธุ์ไม้”

การดูแลปกป้องชีวิตสัตว์ป่าจำเป็นและเป็นงานสำคัญ

“ระบบนิเวศไม่ได้มีผลอะไรอย่างเฉียบพลันหรอกครับ ถ้ามีสัตว์ป่าชนิดหนึ่งสูญพันธุ์ไป แต่มันจะค่อยๆ ล่มสลายโดยที่เราไม่รู้ตัว”

 

วันนี้เป็นวันสุดท้ายของหัวหน้าสมปอง ตั้งแต่เช้ามีการประชุมสำนักงาน และประชุมงานลาดตระเวน ผู้ชาย ผู้หญิง ในชุดลายพรางเดินขวักไขว่

ถึงตอนบ่าย หลายคนเริ่มพูดเยอะขึ้นจากปกติที่ไม่ใช่คนชอบพูด

พลบค่ำ ห้องประชุมก็มีแต่คนพูด ไม่ค่อยมีคนฟังแล้ว

หัวหน้าสมปองเดินไปทางโน้นทางนี้ กอดคอ พูดหัวเราะกับลูกน้อง พวกเขาทำงานและเผชิญหน้าเหตุการณ์ต่างๆ ร่วมกันมานานปี ความผูกพันลึกซึ้ง

“ผมไม่อยากให้หัวหน้าไปเลย” พี่น้อย พนักงานราชการรุ่นอาวุโส ผู้เคียงบ่าเคียงไหล่มากับหัวหน้านาน พูดเมื่อหัวหน้าเข้ามากอดคอ

“แต่หัวหน้าไปโตขึ้นผมก็ดีใจด้วย” เขาพูดพลางชนแก้วกับหัวหน้า

หน้าเวทีมียื้อแย่งไมค์ จอสีขาวขนาดใหญ่มีภาพการทำงานในป่าของชุดลาดตระเวน ภาพการเดินทางบนเส้นทางช่วงฤดูฝนและภาพสัตว์ป่าหลากหลายชนิด

เวลากว่าปีแล้วที่ผมกับน้องๆ ในทีมช่วยกันบันทึกภาพเหล่านี้

ความตั้งใจที่จะนำเสนอความอุดมสมบูรณ์ของผืนป่าใหญ่นเรศวร เริ่มเห็นเป็นภาพชัด

 

“รักมากก็เจ็บมาก”

ชายหนุ่มซึ่งนั่งตรงข้ามกับผมพูดเสียงสั่นน้ำตาคลอ เขาคือ เทียนชัย ผู้ช่วยช่างหนุ่ม ซึ่งคอยดูแลรถที่น่ารวมถึงเจ้านิค พาหนะของผมด้วย

เทียนชัย ถูกหญิงสาวของเขาซึ่งอยู่ในเหมืองอุ้มผางตัดสัมพันธ์อย่างไม่ไยดี

“เธอตัดผมทุกอย่างเลยครับ ในเฟซบุ๊ก ในโทรศัพท์ ในไลน์ ไม่ให้ผมติดต่อได้เลย” ชายหนุ่มผมทรงสกินเฮด เพราะเพิ่งผ่านการอบรมลาดตระเวนเชิงคุณภาพมา คร่ำครวญ

“ชนแก้วกับผมครับ จอมู่โคว้หว่า”

เครื่องดื่มจากบ้านปะละทะ เริ่มออกฤทธิ์

“นึกซะว่าเราจะได้ไปพบเจอคนที่ดีว่านี้นะ”

ผมปลอบใจ นึกไม่ออกว่าจะพูดอะไรให้ดีกว่านี้

เทียนชัย ก็เหมือนรุ่นพี่ๆ ของเขา หลายคนผิดหวังและไม่ประสบความสำเร็จในชีวิตครอบครัว

“ผมจะไม่มีแฟนหรอกครับ เห็นพี่ๆ เป็นตัวอย่างแล้ว” อุไร หัวหน้าชุดลาดตระเวนม้าศึก แห่งหน่วยพิทักษ์ป่ากระแง่สอด บอกกับทุกๆ คน

เหตุผลหลักๆ ที่พวกเขาถูกปฏิเสธ

คือใช้เวลาอยู่ในป่ามากกว่าในเมือง

 

“ตรงนี้แหละครับจุดปะทะ ผมโดนตรงใต้ต้นไม้นั่นแหละ”

พิริยะ หรือ หนิง ชี้มือไปข้างทาง เขาขอติดรถไปลงเมืองอุ้มผาง การปะทะอันทำให้เพื่อนในทีมเสียชีวิตหนึ่งคน และบาดเจ็บสาหัส 2 คน รวมทั้งตัวเขา

หนิงเป็นอีกคนซึ่งเคยถูกปฏิเสธจากหญิงสาวของเขา การบาดเจ็บของเขาทำให้ต้องใช้เวลารักษาตัวอยู่นาน

ถึงวันนี้เขาเดินโขยกเขยกมีไม้ช่วยพยุง

ผมมองหน้าหนิง พลางคิดถึงเพื่อนๆ ของเขา

พวกเขาต่างล้วนเชี่ยวชาญในงานลาดตระเวน SMART PARTOL

หรือที่ ดร.ประทีป ด้วงแค เรียกว่า “สามารถ ลาดตระเวน” คนในป่าที่ผมรู้จักเก่งในงาน พวกเขาสามารถลาดตระเวน

แต่หลายคนไร้ความ “สามารถ” ในเรื่องรัก