ที่มา | มติชนสุดสัปดาห์ ฉบับวันที่ 5 - 11 มีนาคม 2564 |
---|---|
คอลัมน์ | สิ่งแวดล้อม |
ผู้เขียน | ทวีศักดิ์ บุตรตัน |
เผยแพร่ |
ทวีศักดิ์ บุตรตัน
ถนนสวย-ต้นไม้งาม
ช่วงนี้ชีพจรลงเท้า
เดินทางไปหลายจังหวัดได้ชื่นชมทิวทัศน์ในห้วงสุดท้ายของฤดูหนาวปีนี้ซึ่งเป็นปีที่มีอากาศเย็นๆ และกินเวลายาวเป็นพิเศษตั้งแต่ปลายเดือนตุลาคมปีที่แล้ว มาสิ้นสุดปลายกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา
ระหว่างทางสายรังสิต-นครนายก ก่อนจะเข้าตัวเมืองนครนายก มองต้นสุพรรณิการ์บนเกาะกลางถนนและสองข้างทางต้นราชพฤกษ์ปลูกเป็นแนวยาวสุดสายตา ออกดอกช่อเหลืองห้อยเป็นพวงระย้า
บางช่วงแซมด้วยต้นเหลืองปรีดียาธร กำลังออกดอกเหลืองบานสะพรั่งเช่นกัน
ต้นสุพรรณิการ์ทิ้งใบจนเหลือให้เห็นแค่กิ่งก้าน น่าจะออกดอกเหลืองเต็มต้นในเร็ววันนี้
และถนนสายนี้จะช่วยดึงดูดนักท่องเที่ยวให้เดินทางมาจังหวัดนครนายกในฤดูร้อนมากขึ้นอย่างแน่นอน
หลังจากนั้นไม่กี่วัน ฉวยโอกาสขึ้นไปเชียงใหม่ ระหว่างเดินทางไปแถวๆ อำเภอแม่ออน ได้ชื่นชมกับถนนที่มีต้นสักปลูกเรียงสองข้างทาง ยามนี้ใบสักแห้งเป็นสีน้ำตาลช่วยเติมสีสันระหว่างทาง
ที่น่าแปลกใจกับถนนเส้นใหม่เพิ่งก่อสร้างเชื่อมกับตัวเมืองเชียงใหม่ บางช่วงบางตอนของถนน ไม่ปลูกต้นไม้สองข้างทางเอาไว้เลย ดูแล้วโล้นแล้ง มิหนำซ้ำยังสร้างแท่งแบริเออร์กั้นทางขวางสายตาอีกต่างหาก
ความจริงแล้ว การก่อสร้างถนนใหม่ในยุคปัจจุบันต้องคำนึงถึงการปลูกต้นไม้ให้ร่มรื่นสองข้างทางให้มากกว่าในอดีต เพราะสอดคล้องกับสถานการณ์โลกยุคใหม่ที่ไม่ใช่ปลูกต้นไม้เอาไว้แค่สวยงามสบายตาเท่านั้น หากต้นไม้คือโครงสร้างพื้นฐานของเมืองสีเขียว
แนวต้นไม้สองข้างทางให้ร่มเงาลดอุณหภูมิบนท้องถนนทำให้ถนนเย็นลง
ช่วยยืดอายุของถนนโดยเฉพาะถนนคอนกรีตหรือถนนลาดยางมะตอย สกัดฝุ่นควันพิษฟุ้งกระจาย
ผลการศึกษาของทั่วโลกพบว่าการปลูกต้นไม้ทั้งบนเกาะกลางถนนและสองข้างทางนั้นมีประโยชน์อย่างมาก
ในประการแรก แนวต้นไม้จะช่วยให้ผู้ขับขี่ได้สังเกตแนวถนนได้ชัดเจน
ปกติแล้วอุบัติเหตุส่วนใหญ่ผู้ขับขี่ประมาทใช้ความเร็วสูง การปลูกต้นไม้จะส่งผลต่อการรับรู้ความกว้างถนนของคนขับ คุณภาพการมองเห็นชัดเจนกว่าถนนที่โล่ง แนวต้นไม้ช่วยปลุกสติการขับขี่และลดระดับความเร็วโดยอัตโนมัติ
แนวต้นไม้ริมถนนและบนเกาะกลางยังช่วยให้ผู้ขับขี่ลดความเครียด ความคับข้องใจ ผู้ขับขี่จะรับรู้ถึงความร่มรื่นของต้นไม้ สูดอากาศสดชื่นมากกว่าถนนที่มีแต่คอนกรีตโล่งไร้สีเขียวของต้นไม้
ส่วนการปลูกต้นไม้กั้นกลางแบ่งเลนซ้าย-ขวาของถนนจะช่วยลดการชนประสานงาอีกด้วย
การปลูกต้นไม้ตามแนวถนนนั้นถือเป็นมาตรฐานสากล วิศวกรจะออกแบบถนนพร้อมๆ กับการวางแนวระยะของต้นไม้และพันธุ์ต้นไม้ที่เหมาะสมกับพื้นที่ สร้างความสวยงามให้กับเมือง
ลดความเครียดและเพื่อความปลอดภัยของผู้ขับขี่
ผลการศึกษาของสหรัฐพบว่าการเกิดอุบัติเหตุบนถนนของสหรัฐในปี 2549 มีจำนวน 38,600 ครั้ง มีผู้เสียชีวิตราวๆ 43,000 คน
ในจำนวนนี้ 45 เปอร์เซ็นต์เกิดขึ้นบนถนนสายหลัก อีก 55 เปอร์เซ็นต์เกิดบนถนนสายรอง มาในปี 2553 จำนวนประชากรเกือบ 300 ล้านคน เกิดอุบัติเหตุรุนแรง 30,296 ครั้ง มีผู้เสียชีวิต 32,999 คน
แต่พบว่าถนนที่มีแนวต้นไม้แบ่งเลนซ้าย-ขวาและปลูกสองข้างทางช่วยลดอุบัติเหตุลงได้อย่างน้อยๆ 1 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งดูตัวเลขแล้วจิ๊ดเดียว แต่คิดเป็นจำนวนอุบัติเหตุลดได้ 300 กว่าครั้ง
ส่วนบ้านเราช่วงปี 2549 เกิดอุบัติเหตุบนท้องถนนมีผู้เสียชีวิตเฉลี่ยปีละ 10,326 คน ขณะที่จำนวนประชากรของไทยในเวลานั้น 67.2 ล้านคน
มาในปี 2556 สถิติการสูญเสียชีวิตจากอุบัติเหตุพุ่งทะลุเป็น 22,281 คน มีผู้บาดเจ็บเฉลี่ย 107,542 คนต่อปี
แต่บ้านเรายังไม่มีใครทำสถิติแต่ละปีมีคนขับรถชนแนวต้นไม้กลางถนนหรือต้นไม้ที่ปลูกข้างทาง
สถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย หรือทีดีอาร์ไอ ได้คำนวณมูลค่าความสูญเสียจากการเสียชีวิตและบาดเจ็บสาหัสจากอุบัติเหตุจราจรจากพื้นที่ในจังหวัดสระบุรี ด้วยวิธีการประเมินความเต็มใจที่จะจ่ายในการลดอุบัติเหตุทางถนนของคนในพื้นที่
พบว่าการเสียชีวิตมีมูลค่าเท่ากับประมาณ 10 ล้านบาทต่อราย
ขณะที่การบาดเจ็บสาหัสมีมูลค่าเท่ากับประมาณ 3 ล้านบาทต่อราย
ในช่วงปี 2554-2556 มูลค่าของอุบัติเหตุเฉลี่ยต่อปีเท่ากับ 545,435 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 6 ของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (จีดีพี)
ค่าเฉลี่ยการเกิดอุบัติเหตุและการเสียชีวิตของคนไทยบนท้องถนนจึงสูงมากเมื่อเปรียบเทียบกับประเทศ พัฒนาแล้วทั่วโลก
ปัจจัยสำคัญที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุบนท้องถนน คือการไร้วินัย ไม่เคารพกฎจราจร
จึงเป็นเรื่องจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องสอนให้คนใช้รถใช้ถนนมีวินัยและเคารพกฎจราจรตั้งแต่วัยเด็ก
ถ้าไม่เรียนรู้ตั้งแต่เด็กแล้ว การทำให้สถิติอุบัติเหตุบนท้องถนนลดลงก็มีความเป็นไปได้น้อยมาก
อย่าลืมว่าการเกิดอุบัติเหตุในแต่ละครั้งนั้น หมายถึงการสูญเสียในทุกด้าน ทั้งเอาชีวิตมาสังเวย พ่อแม่ญาติพี่น้องต้องพลัดพรากเสียน้ำตา
ผู้ได้รับบาดเจ็บต้องเสียโอกาสเสียเวลาในการรักษา หมอ พยาบาล บุคลากรทางการแพทย์ต้องเข้ามาดูแล
เมื่อสถิติการเกิดอุบัติเหตุในแต่ละปีทำให้ประเทศไทยต้องสูญเสียเงินเป็นแสนๆ ล้านอย่างที่ทีดีอาร์ไอคำนวณเอาไว้เช่นนี้แล้ว ก็ต้องทบทวนขันน็อตกันใหม่ในทุกๆ เรื่องที่เกี่ยวข้องกับการใช้รถใช้ถนน
มาตรฐานของการรักษาวินัยการขับรถต้องเข้มข้นกว่าที่เป็นอยู่
การอนุญาตให้ใบขับขี่กับผู้ที่เพียงแค่สอบผ่านกฎจราจรไม่เพียงพอ
เอาแค่เรื่องง่ายๆ แค่การจอดรถให้เด็กๆ คนสูงวัยข้ามถนนเวลานี้มีให้เห็นน้อยมาก
คนขับรถยนต์ส่วนใหญ่พร้อมจะเหยียบคันเร่งผ่านอย่างไม่แยแส
นี่สะท้อนให้เห็นจิตสำนึกสาธารณะของผู้ขับขี่เป็นอย่างดี
มาตรฐานของถนนเป็นเรื่องใหญ่ไม่น้อยไปกว่ากัน
ต้องยอมรับว่าถนนในบ้านเรามาตรฐานต่ำมาก ไม่ต้องเปรียบเทียบกับประเทศพัฒนาแล้ว เอาแค่เพื่อนบ้าน ถนนอย่างในเวียดนาม หรือมาเลเซียก็เห็นได้ชัด
ถนนของเราสร้างได้ไม่กี่ปีก็มีสภาพเป็นหลุมบ่อทรุดแตกร้าวต้องรื้อซ่อมแทบทุกปี
ถนนสายมิตรภาพเส้นทางตั้งแต่สระบุรีไปถึงนครราชสีมาเป็นตัวอย่าง ผ่านไปทีไรก็เห็นซ่อมแล้วซ่อมอีก เลนด้านซ้ายทรุดพังเพราะรถบรรทุกเกินน้ำหนักวิ่ง รถจึงหันมาวิ่งเลนกลาง เลนขวา เมื่อรถช้าอืดก็ไปขวางทางทำให้การจราจรไม่ลื่นไหล
อีกมาตรฐานหนึ่งที่จำเป็นต้องยกระดับ นั่นคือการก่อสร้างถนนและการปลูกต้นไม้ในทุกๆ โครงการ
การปลูกต้นไม้ช่วยทั้งลดอุบัติเหตุการจราจรและช่วยรักษาสิ่งแวดล้อมให้สวยงามร่มรื่น เป็นประโยชน์ทั้งทางวิศวกรรม ภูมิสถาปัตย์และสุขภาพจิตของประชาชน